วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554
หลุมพลางการลงทุนของรายย่อย "เรื่องรอบ"
"เล่นหุ้นให้กำไร ต้อง อ่านขาด และ อึด ...แค่นี้จริงๆนะ"
วันนี้ผมยก Chart SET มาให้ดูอีกครั้งว่า ตอนนี้ตลาดขึ้นมาอย่างหนัก รายย่อยเริ่มอึดอัดอยากเข้า ..อาจเป็นเพราะร้อนวิชา ..หุ หุ -- แต่ผมอยากจะบอกว่า นี่เป็นเรื่องปกติ ที่ก่อนหน้านี้(ต้นปี 2011) ตอนตลาดตกๆ ผมก็เขียนเชียร์ใน Facebook ช่วงต้นๆปี ให้เข้าไปเก็บหุ้นดีๆนะ (ก็ไม่ค่อยมีใครกล้าเก็บ) ตอนนี้หุ้นดีๆเหล่านั้น ก็ไปกระฉูด.. พอตอนนี้ราคาไปมากๆ ก็จะมีพวกที่อยากจะโดดเข้ามาตอนนี้
.....แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ คุณต้องเข้าใจว่าหุ้นขึ้นลงเป็นรอบๆ และในแต่ละรอบมันก็มี "ดอย" ..ซึ่งรายย่อยชอบมาเข้าตอนสูงสุดของทุกรอบ จากนั้นก็ติดดอย จากนั้น รายย่อยก็เริ่มทนไม่ได้ที่หุ้นตัวเองลง ก็ Cut Loss ไป ..และพอรายย่อย Cut Loss เสร็จ ตลาดก็เริ่มขึ้นรอบใหม่ ..สรุป เข้าปั๊บติดดอย ขายหมูปั๊บขึ้น -- นี่คือ วัฎจักรของแมลงเม่าในตลาดหุ้นไทย ที่ผมและ S2M พยายามจะ Breakthrough ทั้งออกหนังสือหุ้น และ ก็จัดสัมมนาต่างๆ ..ต้องการให้เข้าใจตรงนี้แหละ!!
(ดูที่ Chart) ดูจากรอบที่แล้ว ตลาดวิ่งตั้งแต่ June - Nov 2010 ..เราใช้ RSI จับรอบไปด้วยจะเห็นชัดขึ้น ..เวลาตลาด Bullish ตัว RSI จะวิ่งไปทำ Peak ที่จุด 0 (ซึ่งโดยมากจุด 0 จะไม่ใช่ Peak ของราคา แต่มันเป็น Peak ของกำลัง "ซึ่งก็คือ RSI" ..นึกภาพคันเร่ง เราเหยียบสุด นั่นคือกำลังสุด แต่พอเราปล่อยเบรครถ ยังมีแรงส่ง ราคาจึงวิ่งไปต่อ แล้วค่อยๆลดลง ..เมื่อราคาลง กำลังลง นั่นคือ ขาลงของรอบ)
...อย่างในปัจจุบันตลาดยังวิ่งอยู่ แต่เราไม่รู้หรอกว่า จะจบรอบหรือยัง จนกว่า มันจะเกิดขาลง -- และนี่คือ หัวใจของ Technical Analysis ที่คนส่วนใหญ่เอาไปใช้ผิดๆ ...มันออกแบบให้เราเป็น Trend Follower คือ ตามรอบ ขึ้นก็ซื้อตาม ลงก็ขายตาม
แต่ประเด็นคือ ต้องซื้อตั้งแต่ เมื่อขึ้นแล้ว และขายเมื่อลงแล้ว --- ดังนั้น ตอนนี้ขึ้นมามากแล้ว ถ้าคุณบอกจะซื้อ ....ผมถามหน่อยคนรู้รึเปล่าว่า Peak ตรงไหน -- ใช่!! ไม่มีใครรู้ ..คุณจะรู้ตาม Technical เมื่อมันลง ..แต่เวลาลง "เมื่อตลาดขึ้นมาแรง ก็จะลงแรง" -- ดังนั้น คนที่ซื้อระหว่างทาง(แมลงเม่า) จะมักติดดอย ก็เพราะสาเหตุนี้ "ดันซื้อตามคนอื่นเมื่อมันขึ้นมาเยอะแล้ว จากนั้น พอจบรอบคนที่เขาเล่น Technical ก็ขายทำกำไร กินกำไรตรงกลางชิ้นปลามัน!! ..ส่วนพวกแมลงเม่า ที่ซื้อตามต้นทุนสูงก็เลยติดดอยเพราะ เวลามันเข้าขาลงแรง ก็ลึกเกินจุด Cut Loss เป็นวงเวียนไปเรื่อยๆๆๆ"
...ผมขอตอบคำถามอีกอันนึง ที่เพื่อนๆถามมาว่า เวลานี้มีหุ้น VI ที่ซื้อได้ไหม ..."ผมตอบเลยว่ามีเยอะแยะ ..ก็หุ้นที่ยังแทบไม่เคยขึ้น แต่ปันผลดีๆสม่ำเสมอ ..พวกนี้ธุรกิจดีจะตาย ปันผลก็ดี เพียงแต่คนไม่เล่น (มันอาจมีข่าวไม่ดี แต่คิดให้ลึกว่าปัจจัยนั้นๆ เป็นภาพลวงตาให้คนส่วนใหญ่มองพลาดรึเปล่า) ..พวกนี้น่ะซื้อได้เลย ..เพราะถึงตลาดปรับฐานมันก็ลงไม่เยอะ เพราะมันแทบไม่ได้ขึ้น เวลาตลาดปรับฐานมันก็ไม่ค่อยลง"
..ช่วงนี้ผมก็เล็งเก็บหุ้นพวกนี้เพิ่มเหมือนกัน ..โดยผมจะเลือกหุ้นประเภทที่คนไม่สนใจนี่ แล้วคอยดูเวลาตลาดปรับฐาน (ซึ่งเท่าที่ดู รอบที่ผ่านมา ราคามันก็แทบไม่ได้ตก ทั้งๆที่ต้นปี ตลาดตกมาก ..และช่วงนี้ราคามันก็แทบไม่ได้ขึ้น ทั้งๆที่ตลาดขึ้นมาก) --- หุ้นพวกนี้แหละที่ผม กำลังจะรอซื้อเมื่อตลาดจบรอบนี้ แล้วปรับฐาน
"จะเห็นได้ว่าวิธีการเก็บหุ้นแบบของผม อาจจะน่าเบื่อ แต่มันก็เป็นวิธี Conservative อย่างที่ผมทำนั่นเอง ... เพราะ Port ส่วนมากของผม เวลานี้ ก็มี Blue Chip พลังงาน ธนาคาร และ สื่อสาร ที่เก็บไว้ตั้งนานแล้ว (ผมไม่ได้ขาย เพราะนี่เป็นหุ้นที่ผมเก็บไปป้องกันเงินเฟ้อที่กำลังก่อตัวนั่นเอง ซึ่งเท่าที่คาดการณ์มาก็ถูกต้อง เพราะผมได้ทั้งปันผล และ Capital Gain ที่น่าพอใจมาก)
... ตอนนี้ผมก็รอตลาดปรับฐาน เพื่อเข้าเก็บหุ้น Second Tier "หรือหุ้นแถวสอง ที่คนไม่สนใจ เพราะหุ้นที่ยังไม่ขึ้น และคนไม่ค่อนสนใจ ..นี่แหละ จะเป็นหุ้นที่ เรียกว่า หุ้นเด้ง ในอนาคต !! ...... ก็ประมาณนี้ครับ ลองดูกันไป
-- การเล่นหุ้น อย่าไปฟังใครมาก ดูตัวเอง และ นิสัยของเรา จากนั้นก็ค่อยๆ ปรับ Port ให้เหมาะกับตัวเรา (อย่าง Port ผมจะถือ Blue Chip เป็นหลัก จากนั้นพวกหุ้นเล็กๆ ที่พื้นฐานดี ก็เป็นหุ้นที่ผมทยอยเก็บเรื่อยๆ จากเงินปันผลที่ได้จาก Blue Chip ..ดังนั้น แต่ละคนก็ควรมีแนวทางลงทุนเฉพาะตัวที่ชัดเจน)
..ความรวยในตลาดหุ้น มันจึงไม่ใช่ Overnight Success อย่างที่คนส่วนใหญ่คิดไง !!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
เมื่อวันก่อน ผมได้มีโอกาสไปออกรายการวิทยุ Business Line & Life ของคุณม่อน .. มีคนสัมภาษณ์ผมเป็น คนหนุ่มรุ่นใหม่ ทายาทกลุ่ม ธุรกิ...
-
6 ข้อ ปฏิบัติของการเป็น ’นักลงทุนแบบทางสายกลาง’ หลังจากผมลงทุนมานานพอสมควรก็พบว่า ’ทางสายกลาง‘ คือ หลักปฏิบัติที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความ...
-
ท่านธนินท์มักกล่าวในงานสัมมนาต่างๆ ถึงแนวคิด "สองสูง" ของท่าน -- ซึ่งสูงแรกก็คือ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และสูงที่สอง คือขึ้นราคาพื...
-
5 ข้อควรรู้ ‘การคิดเผื่อคนอื่น‘ ทำไมทำให้เราเป็นนักลงทุนที่มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น 1. ’คน Gen ก่อน โดยรวมรวยกว่าคน Gen ใหม่ เพราะ เขาคิดสร้างใ...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
6 ข้อ หลักคิดที่ทำให้เราไม่สามารถซื้อหุ้นในจุดที่ราคาถูกที่สุด และ ขายหุ้นในเวลาที่แพงที่สุด 1. ‘หุ้นไม่มีจุดต่ำสุด‘ …หลายคนคิดว่า ซื้อหุ้น...
-
AEC ย่อมาจาก ( ASEAN Economic Community ) ..ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อ ASEAN รวมตัวกันได้ ก็จะทำให้เกิด Win-Win นั่นก็คือ ภาพรวมเศรษฐกิจในปร...
-
"QE2" ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโลก เนื่องจากลึกๆแล้ว หัวใจของนโยบายนี้ก็คือ "การเปลี่ยนเงินดอลล่าห์ให้เป็นแบงค์กงเต๊...
-
ตอนนี้แนวทางที่พิสูจน์ตัวเอง ได้สวยในระยะยาวก็เห็นจะเป็นแนว Value Investor (จริงๆแนวอื่นก็สวย แต่เผอิญนักลงทุนที่รวยที่สุดในโลก คือ Warren B...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ชัดเจนครับ ขอบคุณครับที่เตือนสติอีกครั้ง
ตอบลบปรึกษาหน่อยครับ คุณแพท คือเป็นมือใหม่อะครับ อยากทราบว่า เราจะรู้ได้ยังว่าตลาดปรับฐานตอนไหนอะครับ มีวิธีดูมั้ยครับ
ตอบลบเรารู้ต่อเมื่อ Technical มันให้สัญญาณ Bearish แล้ว "จากนั้นคนที่เล่น Technical เขาก็จะออก..ขายทำกำไร ไปนั่งรอให้ตลาดปรับฐานเสร็จ --จากนั้นพอ Technical มัน Bullish ก็โดดเข้ามาซื้อหุ้นใหม่.. ประมาณนั้น!!
ตอบลบ