6 เคล็ดลับ ของ ‘ของแพงแต่ขายดี’
ยุคก่อนของที่ขายดี ต้องถูก ..แต่พอโลกเปลี่ยน กลายเป็น ของถูกกลับตาย ...ของแพงกลับขายดีขึ้น ..อะไรคือ เคล็ดลับของเรื่องนี้ ?
1. ‘เน้นนวัตกรรม ใส่ Innovation’ ...หลายคนอาจมองว่า นวัตกรรม คือ คอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ไม่ใช่ ...นวัตกรรม สามารถเอามาใส่สินค้าบ้านๆ ก็ได้ เสื้อผ้า ก็ได้ ขนมก็ได้ ..หีบห่อ ก็ได้ ..ยกตัวอย่าง Uniqlo เอาเทคโนโลยีมาใส่ในเสื้อผ้าบ้านๆ แล้วขายโคตรดี ...เบากว่า ..กันหนาวได้ ..ใส่แล้วเย็น ...บางแต่กัน UV ...นวัตกรรมไม่ต้องคิดเองก็ได้ ไปหามาใส่สินค้าเรา จัดไป
2. ‘ใส่ความรู้สึกเข้าไปในสินค้า’ ...ยุคนี้สินค้ามันเต็มตู้ เต็มบ้าน การที่จะให้คนยอมซื้อของเพิ่มเข้าไป มันต้องเป็นมากกว่าสินค้าและบริการทั่วไป ...มันจึงต้องมีความรู้สึก เช่น ใช้แล้วรู้สึกดี ช่วยโลก ช่วยสังคมอะไรก็ว่าไป ...ซื้อรองเท้าคู่นี้ เราจะบริจาคอีกคู่ให้คนยากจน - อ้าา !! รู้สึกดี ...แพงก็จ่าย
3. ‘ความหรูหราอยู่ในรายละเอียด’ ..คำพูดนึงที่โคตรใช่ คือ Luxury is in detail...แปลว่า ความหรูหรา อยู่ในรายละเอียด ...เราไม่สามารถผลิตสินค้าหยาบๆ แล้วขายแพงได้ ...ยิ่งลงไปรายละเอียดเล็กๆ น้อย คุณก็คือ โรงแรมห้าดาวในตลาดของคุณ
4. ‘ไปให้สุด ในจุดของคุณ’ ...สมัยก่อนสินค้าคุณภาพดี ราคากลางๆ มักขายดี ...แต่เดี๋ยวนี้ สินค้ากลางๆ แบบนี้ขายยากขึ้นเรื่อยๆ ...กลายเป็นคนที่ไปที่สุดในจุดยืน ขายดีกว่า ...เช่น ในอดีตนาฬิกาหรูอย่าง Tag ขายดีในหมู่วัยรุ่น เพราะมันที่สุดแล้วในยุคนั้น ...แต่พอวันนี้ Patek แพงกว่า กลับขายดีกว่าอีก
5. ‘สร้างเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง และเป็นตัวแทนของกลุ่มเป้าหมาย’ ...การโฆษณาในยุคนี้ลดความสำคัญลงเรื่อยๆ ...เพราะคนไม่สนใจโฆษณา ...แต่สิ่งที่คนสนใจกว่า คือ การบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ผ่านสื่อที่เขาใช้ แล้วโดนใจกลุ่มเป้าหมาย ...ยกตัวอย่าง Street Wear ทั้งแพง และโดนใจกว่า Luxury ทำให้แบรนด์หรู ต้องปรับตัวกันอย่างหนัก
6. ‘เกินเอื้อม แต่ต้องผ่อนจ่ายไหว’ ..ยุคก่อนถ้าของแพง คนจะไม่ซื้อเลย เพราะซื้อไม่ไหว ..แต่ยุคนี้คนรุ่นใหม่สามารถสร้างหนี้ได้มหาศาล ช่วงว่างตรงนี้จึงเกิดขึ้น
...ยุคนี้สินค้าที่ใครก็ซื้อได้ เริ่มถูกผู้บริโภคเมิน เพราะไม่มีใครอยากเป็นคนธรรมดา ...สินค้าที่เกินเอื้อม ที่ผ่อนจ่ายได้ แบบ ‘ของมันต้องมี เป็นหนี้ก็ยอม จึงขายได้ดีกว่า’
ใช่!! ความต้องการของคนเปลี่ยนทุกยุคทุกสมัย ...การหมั่นสำรวจความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้า จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการอยู่รอดครับ
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
6 ข้อ ใสใส VI รุ่นใหม่ ควรต้องรู้ ขึ้นชื่อว่า ‘นักลงทุนคุณค่า’ ก็แปลว่า เราต้องข้ามผ่าน ’ราคา’(Price) แล้วพุ่งไปที่แก่นของมันคือ ‘มูลค่า’ (...
-
7 ข้อ ที่คนปกติเขาไม่ทำกันในตลาดหุ้น 1. ’หมกมุ่นอยู่ในจุดที่คนอื่นบอกไม่มีอนาคตแล้ว‘ …ตลาดหุ้นไทยไม่มีอนาคตแล้ว ไปตลาดอื่นเถอะ 2. ’ซื้อหุ้น...
-
'ขายของอย่างไรในยุคขายยาก' คนที่จะขายสินค้าและบริการได้เก่งในยุคนี้แบบ Steve Jobs คือ สามารถสร้างสินค้าและบริการที่ 'โดน' มา...
-
วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มนึง ที่ผมว่า เขียนได้ In-trend มากๆ ..มันเป็นแนวคิดสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่อยาก Self-made "คนรุ่นใหม่ที่สร้างตัวด้วยต...
-
วันนี้มีโอกาสได้คุยกับ คุณ สุระ ผู้ก่อตั้ง Com7 เจ้าของ ร้านในเครือ Banana IT ..เดี๋ยวนะ อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการมาเชียร์หุ้น แต่จะมาเล่ามุ...
-
ตลาดหุ้น จะแบ่งออกเป็น ตลาด Bull & Bear Market Bull Market ก็คือช่วงที่นักลงทุน มองว่าเศรษฐกิจดี และ โอกาสที่หุ้นจะขึ้นมีเยอะ ทำให้ทุ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น