'ปั้น Start-Up ต่างจาก SME อย่างไร ?'
ต่างกัน 2 จุด หนึ่ง คือ 'ต้นทุน' สอง คือ 'โอกาสโต'
การทำ SME มักเริ่มจากการทำธุรกิจต่อจากครอบครัว ..ประมาณว่ามีองค์ความรู้อยู่แล้ว เช่น มีสูตรทำขนมครกขั้นเทพที่สืบต่อจากคุณปู่ , มีสูตรทำยาที่คุณตาทิ้งไว้ให้
แต่การทำธุรกิจ Start-Up คือ 'คุณไม่มีอะไรเลย มีแต่ตัวคุณกับเป้าหมายที่ตั้งไว้'
ฟังดูเหมือน SME จะได้เปรียบนะ เพราะมีองค์ความรู้ มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ..เพราะยุคนี้ องค์ความรู้หาง่ายมาก คุณเข้า Internet หาข้อมูลก็ได้ละ หรือ คุณเข้าสัมมนาทำกาแฟคุณก็ได้แล้วสูตรกาแฟ
ดังนั้น การไม่มีอะไรเลยของ Start-Up มันเลยกลายเป็นจุดแข็ง เพราะ 'ไม่มีกรอบ พอไม่มีกรอบมันเลยไปนอกกรอบได้ และ การนอกกรอบนี่เองที่เป็นจุดแข็งของ Start-Up'
มีน้องบางคนมาถามผมว่า 'ถ้าไม่มีเงินทุนจะเริ่มอย่างไร' ..ผมก็บอกไปว่า ที่พูดว่าไม่มีเงินทุนหมายความว่าอะไร ?
..รอบตัวเรามีแต่เงิน มีนักลงทุนเดินชนกันไปมาตามถนน ..มีคนมีเงินมากมายที่มองหาธุรกิจที่จะเอาเงินไปลงทุน
'คนที่บอกว่า ไม่มีเงินทุน ไม่ได้แปลว่าเขาขาดเงิน แต่มันแปลว่า เขายังไม่พร้อม ความรู้ไม่พร้อม ความสามารถไม่พร้อม ...ก็เลยไม่มีใครให้ทุนไง !!'
คุณจะมานั่งโลกสวย แล้วรอว่า เดี๋ยวจะมีเศรษฐีใจบุญ เอาเงินมาให้คุณ มันไม่มีหรอก
ขั้นแรก เราต้องทำตัวให้ 'รู้พร้อม และความสามารถพร้อม' ทำไงล่ะ ? -- ก็ลงมือทำซิ เริ่มจากเข้า Internet หาข้อมูล ถามคน ค้นคว้าในเรื่องที่เราจะทำ ..จากนั้นก็ทดลองทำสินค้าออกมา ลองไปให้คนอื่นทดลองซิว่า คนคิดอย่างไรกับสิ่งที่เราทำ (ขั้นนี้ มันทำแล้วไม่ได้เงิน แต่มันได้องค์ความรู้ เป็นความรู้ที่เราค่อยๆสร้างขึ้นมาเองจากการค้นคว้าและปฏิบัติ ...ขั้นนี้แหละที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยทำ)
ขั้นที่สอง 'ขายจริง' ...ขายที่ไหนล่ะ ? ...ตลาดไง เปิดท้ายขายของไง ..ขายที่ไหนก็ได้ ที่ลองขายอย่าลงทุนเยอะ เพราะเราแค่อยากรู้ว่า สินค้าที่เราทำขึ้นมาคนยอมจ่ายหรือเปล่า ...ยุคนี้ยิ่งง่าย เปิด Facebook , Instagram หรือ Line ก็ลองขายได้แล้ว -- ถ้าขายไม่ได้ ต้องกลับไปปรับสินค้า หรือ ปรับวิธีการขาย (ขั้นนี้ที่หลายคนตกม้าตาย เพราะดันไปเช่าร้าน ลงทุนร้าน พอเปิดปั๊บ ขายไม่ได้ ..อันนี้แหละซวยจริง เพราะดันลงทุนหนัก ทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าจะขายได้หรือเปล่า)
ที่เล่ามาคือ 'ต้นทุน' จะเห็นว่า ทั้งการเริ่มหาความรู้ พัฒนาสินค้า และการลองขาย ยุคนี้ใช้เงินน้อยกว่าสมัยก่อนมาก ทำให้ Start-Up ได้เปรียบ SME ค่อนข้างมาก
สอง 'เรื่องของโอกาส' Start-Up เลือกได้ว่าอะไรมีโอกาสโตได้ เพราะไม่มีกรอบ คือไม่ต้องสนใจว่า องค์ความรู้เดิมคืออะไร เพราะเราพัฒนาสูตรเอง ทำสินค้าเอง หาตลาดเอง
ก็ 2 ข้อ คร่าวๆ 'ต้นทุน' และ 'โอกาส' ...ลองไปปรับใช้ในการพัฒนาธุรกิจ Start-Up คุณดู ...ถ้าเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ลองเอามาเล่าให้ผมฟังกันบ้างนะ
เอาใจช่วย !!! ...ยุคนี้อยากทำ Start-Up 'ไปเริ่มเลยครับ'
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ