หากใครยังจำบทบาทกวนๆ ของ Tony Stark ในภาพยนต์ The Iron Man ... "คุณรู้ไหมว่า Character ของ Tony Stark ส่วนนึงเขาเอามาจากชีวิตจริงของใคร"
ครับ!! ใช่แล้ว ชายผู้นี้แหละ Elon Musk ...เขาเป็น ผู้ก่อตั้ง Pay Pal ตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ...กับ Peter Thiel ...ซึ่งทั้งสอง หลังจากขาย Pay Pal ให้ Ebay ก็แยกทางกันเดินตามฝัน -- จะว่าไปแล้ว ทั้งสองคนนี้ต่าง "ระห่ำ คนละสุดทาง" ... Peter Thiel ผันตัวไปเป็น Angel Investor ผู้ทรงอิทธพลใน Silicon Valley.. อย่าง Facebook ก็เป็นหนึ่งในเด็กปั้นของ Peter Thiel ...ส่วน Elon Musk ก็เดินทางสุดโต่งไปอีกแนว คือ ออกอวกาศ เขาเป็นเจ้าของ Space X ..โครงการเครื่องบินอวกาศ ที่ต้นทุนต่ำสุดๆ ..."ต่ำชนิด ที่ว่านาซ่า ยังทำไม่ได้" ...เขาเป็นเจ้าของ บริษัท Tesla Motor รถสปอร์ตที่เร็วจี๋ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ...และ Tesla เป็นบริษัทรถยนต์ ที่อยู่ท่ามกลางเด็กคอมใน Silicon Valley เรียกว่า ปริวิเวกออกจาก อุตสาหกรรมรถยนต์อย่างสิ้นเชิง
วันนี้ Project อีกหนึ่งอันที่ Elon Musk กำลังปั้นก็คือ The Fifth Mode of Tranportation
-- "อะไรว๊า!!"
ครับ!! ถ้าเรามองเขา คงนึกในใจว่า "มรึงบ้าไปแล้ว ทำแต่ละอย่าง ไม่มีมนุษย์คนไหนเขาทำ ...แล้วจะไปรอดหรือ !!"
ตัว project : The Fifth Mode of Tranportation คือ เขาเล่าว่า ปัจจุบัน การเคลื่อนตัวของมนุษย์ มีอยู่ 4 แบบ คือ
หนึ่ง รถยนต์ (ซึ่งเขาทำ รถยนต์ไฟฟ้าที่แนวเต็มที่แล้ว)
...สอง รถไฟ (อันนี้ต้นทุน Fix cost สูงมาก)
...สาม เรือ (อันนี้ก็ Over Supply อยู่ทั้งโลก เพราะช่วงปี 2008 ดันต่อเรือมากไป)
...สี่ เครื่องบิน (ใครอยู่ในธุรกิจนี้ ถ้าไม่แจ๋วจริง "เจ๊ง!!" ..นี่เป็นเหตุผลที่ นักธุรกิจแนวๆ อย่าง Richard Branson เจ้าของ Virgin Airline เริ่มฝันตัวมาทำเครื่องบินอวกาศ ทำ Space Tourism จับลูกค้า เศรษฐีที่อยากไปเหยียบดวงจันทร์ ...และ Elon Musk ก็ทำ Space X สู่อวกาศเช่นกัน)
-- ดูเหมือนว่า นักธุรกิจอเมริกา จะมองออกไปนอกโลกแล้ว ... "หรือว่า โลกเราจะแย่จริงๆ ...อิ อิ"
ที่ Elon Musk เล่าว่า เขากำลังทำการ "ขนส่ง มวลมนุษย์ Fifth Mode ก็คือ แคปซูล เคลื่อนที่เร็วกว่าเครื่องบิน 2 เท่า แต่ปลอดภัยกว่า และ ต้นทุนการสร้างถูกกว่า การสร้างรถไฟอย่าง Bullet Train หรือ รถไฟความเร็วสูง ถึง 10 เท่า ...แต่ในสัมภาษณ์เขาก็ยังไม่เปิดเผยแบบชัดเจนว่ามันคืออะไร เพียงแต่บอกว่า เขาคิด Technology เรียบร้อย เตรียมเอาไปคุยกับผู้การรัฐ และ ประธานาธิปดี ต่อไป (ฮึม!! เข้าใจล่ะว่า Tony Stark ทำไมเป็นแบบนั้น ก็เพราะมันคือนิสัยของ Elon Musk นั่นเอง -- ฮามาก IRON MAN !! ที่มีชีวิตจริงๆ)"
โอ๊ว!! ผมอ่านเรื่องราว และ แนวคิดของ Elon Musk แล้ว ซ๊อก!! ...คือ ซ๊อก เมื่อหันมามองนักธุรกิจไทย ที่คงต้องวิ่งกันอีกหลายๆรอบ กว่าจะเริ่มตามมุมมองคนเหล่านี้ทัน ...แต่ประเด็นที่ผม สนใจจริงๆ คือ "การกล้าที่จะคิดต่าง ...และ ที่สำคัญ เขากล้าที่จะเอาเงินของตัวเอง ลงไปทำ กับความเชื่อที่เขาเชื่อ และ จะสร้างให้มันออกมาได้จริงๆ" ...จะว่าไปแล้ว คนเหล่านี้ เหมือนใช้ ชีวิตเป็น รายการ Reality อะไรสักอย่าง ที่ทุกอย่างที่ทำ คือ การทำและสร้างฝันให้เป็นจริง
"อยู่เพื่อท้าทายกรอบ และ สิ่งเดิมๆ"
"เราเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ได้บ้าง!!"
"ผมว่า เราเรียน เรื่องการท้าทายฝัน และ แรงบันดาลใจในการสร้าง Passion ให้กับสิ่งที่ทำ" ...ว่าแต่ โจทย์เราคงไม่ต้องถึงกับ ไปแข่งกับธุรกิจไปนอกโลก ...แค่เรา Focus ปัญหาในประเทศให้เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นแบบแรงๆ ก็น่าจะมันส์ดี ...เช่น สร้างสินค้าและบริการอะไรก็ได้ ให้ชีวิตของเราดีขึ้น และ ถ้ามันเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีขึ้นได้จริง ผมว่า เดี๋ยวมันขายได้เอง
...อย่างหลักทรัพย์บัวหลวง(ที่ผมทำงานอยู่) ..เราก็เริ่ม สร้างสิ่งเล็กๆ เหล่านี้แล้ว อย่าง The Stock Master Reality ก็ใช่ ...ซึ่ง เราตั้งโจทย์ ที่ท้าทายคือ ด้วยงบประมาณเท่าเดิม เราเปลี่ยนเป็นอะไรที่ดีขึ้นให้กับพนักงาน และ ให้กับเพื่อนนักลงทุนได้ดีขึ้นบ้าง ... อ่าฮ้า!! ...ปีนี้ เราจะเปลี่ยน แก้วน้ำ เป็น "ความรู้" ...แจ๋ว สุด โต้ง!! แต่ขอ อุปไว้ก่อน ...เดี๋ยวเราจะปล่อยออกมา surprise เพื่อนๆ นักลงทุนก่อนปลายปีนี้แน่นอน
ครับ !! Elon Musk สร้าง Innovation ไปสู่ อวกาศ ...แต่ บัวหลวง ...เปลี่ยนแก้วน้ำธรรมดาๆ ให้เป็นความรู้ --- วันนี้ทั้ง President และ MD "ป๋าโบ๊ & ป๋าเนส" เดินกันยิ้มตลอด เพราะ Passion ในการเปลี่ยนสังคมนักลงทุน ให้ดีขึ้น มันหล่อมาก ...จะหล่ออย่างไร ไว้จะมาเฉลยเร็วๆ นี้ครับ เพื่อนๆ นักลงทุน
วันนี้ขอฝาก แง่คิด ของการเปลี่ยนแปลง และ สร้างให้ตัวเอง เป็นผู้นำ ..ก็คือ การคิดแตกต่าง ภายใต้ข้อจำกัด เช่น ในงบเดิมที่ไร้ค่า คุณเปลี่ยนตรงนั้น แล้วสร้างสิ่งที่มีค่า Win-win ให้กับคุณและลูกค้าได้อย่างไรบ้าง !!
...ผมเชื่อว่า วันนี้ ตลาดเราเริ่มเปิดโอกาสให้กับ Idea ใหม่ๆ ดี ๆและ สร้างสรรค์ ... ช่วยๆ กันคิด ดีคิดต่าง ภายใต้ข้อจำกัด ...นั่นแหละ สิ่งเล็กๆ ที่เราช่วยกันเปลี่ยน ตัวเรา บริษัท และ ประเทศ ในมุมเล็กๆ ของเรา -- แค่นี้ก็หล่อมากแล้วจ๊า!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น