แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

จุดเริ่มต้นของ Venture Capital ...อะไรอ่ะ!!


ช่วงหลายๆปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่เปลี่ยนของชีวิตผมอย่างแท้จริง ...ซึ่งจุดนี้ผมอยากจะแชร์ให้คนรุ่นใหม่ในประเทศไทย ได้รับรู้มากๆ ไม่ใช่เพราะผมอยากดัง แต่พอเอาเข้าจริง การยิ่งแชร์แนวความคิดมากเท่าไหร่ ผ่าน หนังสือ และ สัมมนา ต่างๆ มันกลับเป็นส่วนที่ยิ่งทำให้ผม "ยิ่งดัง!!" คือ เป็นที่รู้จักของคนมากมาย ทั้งในวงการนักลงทุน และ วงการนักอ่านหนังสือ (คนรู้จัก ก็นำพา โอกาสมาสู่เราได้อย่างมากมาย ถ้าเขารู้จักว่าเรา เก่งและมีความชำนาญในเรื่องไหน.. "จุดนี้น่าสนใจ")

เอาเป็นว่าไว้มีโอกาสผมจะ เขียน Step ทั้งหมดของการ ใช้วิธีการ "ยิ่งให้ ยิ่งได้" สร้างให้เกิด "โอกาส" และ "ความมั่งคั่ง" เข้ามาหาเรามากจริงๆ ...และทั้งหมดเกือบจะบอกได้ว่า Step ที่ว่านี้ "เราทุกคนสามารถสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง ...คือ ผมกำลังจะบอกว่า โอกาสและความมั่งคั่ง เราสามารถสร้างได้เอง หากมีความเข้าใจ"

ช่วงที่อยู่มหาวิทยาลัย ผมเป็นคนค่อนข้าง "ร้อน" คือ คิดมากเครียดมาก เพราะ อยากที่จะประสบความสำเร็จเร็วๆ ...ผมเชื่อว่า คนรุ่นใหม่ ที่อายุน้อยก็คงคิดไม่ต่างจากผม แต่สิ่งที่ผมขาดคือ "ประสบการณ์" และไอ้ตัวประสบการณ์นี่เอง ที่สำคัญยิ่งในการทำธุรกิจมากกว่าความรู้เสียอีก ...ผมเทียบเสมอว่าการทำธุรกิจหรือการลงทุน มันเหมือนการขี่จักรยาน ที่ผู้เริ่มขี่ทุกคนต้อง "ล้ม" ใครเตรียมตัวได้ดี ก็ล้มเล็กๆ แต่ถ้าใครไม่เตรียมตัวก็จะเสียหายหนักๆ จนถึงขั้นเสียธุรกิจ ติดหนี้ และ เสียสติ จากความ เจ๊ง ..ว่างั้น -- ดังนั้น กฏข้อที่หนึ่งของ การก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของธุรกิจ และ นักลงทุนคือ "เราเสียหายได้นะ" ....

"เราเสียหายได้นะ" คือ กฏที่ต้องท่องก่อน ขี่จักรยานจริงเสมอ เพื่อความไม่ประมาท ...เมื่อเข้าใจจุดนี้แล้ว ก็เริ่ม เดินทางกัน (การเข้าใจว่า "เราเสียหายได้" จะทำให้เรามีทางเลือกสองทาง เพื่อตอบโจทย์ หนึ่ง ถ้ารู้ว่าเราเสียหายได้ เราสามารถเตรียมความพร้อมโดยการ "จำกัดความเสี่ยง" อย่าง Trader เขาใช้ จุด Stop Loss เป็นกลไกจำกัดความเสี่ยง ... ส่วนนักลงทุนระยะยาว หากเขารู้ว่า ทุกอย่างพลาดได้ เขาจะเตรียมการรับมือว่า หากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เช่น ตลาดกลับไปพังเหมือนปี 2008 เขาจะทำอย่างไร -- คิดง่ายๆ เลยว่า คนที่เข้าใจว่า "ล้มได้" เขาจะเตรียมรับมือ สำหรับวันที่ล้มได้เสมอ คนเหล่านี้ เราเรียกเขาว่า "คนพร้อม!!" ..คนเหล่านี้ คือ "เขามีปัญญา นั่นเอง...")

โอเค!! มาดูเรื่องการทำธุรกิจกัน

ธุรกิจประกอบด้วยปัจจัย 4 ปัจจัย คือ หนึ่ง "เงิน" ...สอง "Know-How" ...สาม "Know-Who" และ สี่ "คน"

คำถามแรกที่ต้องถามคนที่อยากจะทำธุรกิจเอง ก็คือ 4 ข้อนี้ ... ยกตัวอย่าง ต่างประเทศจะง่ายหน่อยสำหรับ คนทั่วไปที่อยากจะรวย เพราะ "ต่างประเทศ" เราไม่ต้องมีเงินก็ได้ เพียงเรามี 2-3 ปัจจัย ...ซึ่งคนที่เข้ามา "สอดรับ" หรือ เข้ามาร่วมกับเราก็คือ Venture-Capital

คิดง่ายๆ Venture Capital ก็คือ คนที่มี 2 ข้อ คือ มี "เงิน" และก็มี "Know Who" ...จากนั้น คนที่มีสองสิ่งนี้ เขาก็ตั้งเป็น "กองทุน Venture Capital ขึ้นมาเพื่อร่วมทุนกับคนที่มี "Know-How" และ คนที่มี "คน"

ดังนั้น คนที่อยากจะเปิดธุรกิจ คุณต้องถามตัวเองให้ดีก่อนว่า "ปัจจัย 4 ข้อ" ..เรามีกี่ข้อแล้ว !!

ยกตัวอย่าง คุณมี "เงิน" ไหม ...ถ้าไม่มีคุณจะเอาเงินใครมาลงทุน ...ง่ายสุดก็มาจากพ่อแม่ เพื่อนสนิท ญาติ อย่าง Warren Buffett เขาก็ได้เงินก้อนแรกมาบริหารจากญาติๆ และ เพื่อนสนิทนั่นแหละ ...อิ อิ

ต่อมา "Know-How" คือ คุณมีความรู้ ที่จะเอามาผลิตสินค้าและบริการ ที่ตลาดต้องการหรือไม่ ...ยกตัวอย่าง Steve Jobs เขามี ความรู้ที่จะสร้าง iPhone ก็แสดงว่า เขามี Know How ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ ....ผมเคยเรียนธุรกิจ ในมหาวิทยาลัย มี Project นึงที่ผมไปลง คือ เรื่อง Entreprenuer คือ คอร์สที่สอนให้เราเป็นผู้ประกอบการ ..."โจทย์คือ เขาให้เราไปหาสินค้าและบริการ ขึ้นมา แล้วให้เขียนแผนธุรกิจ ที่ว่าจะผลิตและขายสินค้าและบริการนั้นๆ อย่างไร" ...ครั้งแรกที่ได้โจทย์ ผมถึง กับอึ้ง ..เพราะในเวลานั้น ผมไม่มี Know-How อะไรเลย แค่เด็กนักศึกษาคนนึง ที่เรียนวิชาธุรกิจ จะเอา Khow-How ที่ไหนมาสร้าง Product

...."ผมก็ไปถามอาจารย์ ...อาจารย์บอกว่า ไม่เห็นยาก คุณก็ไปหา สินค้าและบริการจากคณะอื่นซิ เช่น ไปดูซิว่า Food Science , Engineer  -- คือ อาจารย์ชี้ทางให้ผมเห็นว่า คนเราไม่สามารถเก่งทุกอย่างหรอก ..ดังนั้น หากผมที่มีความรู้ Know-How เพียงธุรกิจ ..หากจะหาสินค้าและบริการ ก็ต้องไปหากับคนที่มี Know-How ที่ตลาดต้องการ"

มาคิดให้ดี "เด็กคณะอื่น ที่เขามี Know-How ..เขาก็กลับไม่มี ความรู้ที่จะ เอาสินค้าและบริการ นั้นสร้างเป็นธุรกิจได้ -- "จะเห็นได้ว่า องค์ประกอบของการสร้างธุรกิจ มันมีถึง 4 ปัจจัย คือ เงิน/ Know-How/ Know-Who / คน ...มันถึงตอบโจทย์ที่ว่า เหตุใดธุรกิจไม่ได้สร้างขึ้นมาง่ายๆ" ...ใช่ โดยเฉพาะคนไทย ปัญหาคือ เราเป็นประเทศแบบ One-Man Show มันถึงเป็นปัญหาเรื่อยมา ทำให้ประเทศไทยไม่มีสินค้าและบริการดีๆ แม้ว่า เราจะเห็นว่าเด็กไทย สามารถคิดหุ่นยนต์กู้ระเบิดชนะรางวัลระดับโลก แต่เอาเข้าจริง ทำไมเราไม่มีบริษัทผลิตหุ่นยนต์ ...คิดดีๆ

จากนั้น เมื่อเรามี "คน" คือ มีตัวเราที่อยากจะเริ่ม มีเพื่อนร่วมสร้างธุรกิจ และมีความรู้ในการสร้างสินค้าและบริการ คือมี "Know-How" แล้ว เราก็ต้องมี "เงิน" มาเป็นทุนเริ่มต้นของธุรกิจ ..สุดท้ายที่ประเทศไทย ผ่านยากสำหรับ ธุรกิจเกิดใหม่ คือ "ไม่มี Know-Who" หรือ พูดง่ายๆว่า คนส่วนใหญ่ไม่มี Connection หรือ เส้นสายเพียงพอ ที่จะสร้างให้ธุรกิจนั้น เกิดขึ้นมาได้จริง

ก็นี่แหละ 4 ปัจจัยที่ อยากให้ "คนรุ่นใหม่" คิดก่อนว่า เรามีข้อไหน แล้วยังขาดข้อไหน ..ก็จะพอเห็นภาพว่า เราเดินมาใกล้การสร้างธุรกิจของตัวเองแล้วหรือยัง

อนาคตผมหวังว่า เมื่อตัวผมพร้อม และ เพื่อนๆ พร้อม เราอาจรวมตัวกันเปิด Venture Capital ขึ้นมา และ สนับสนุนในเรื่องของ "เงิน" และ "Know-Who" ...ซึ่งถ้าจะมองให้ Make Sense ผมอาจเริ่มจาก การใช้ "Know-Who" หรือ ให้ Connection ก่อนก็น่าจะทำได้

เพราะยกตัวอย่าง ในวงการนักลงทุน ผมในฐานะผู้บริหารคนหนึ่งของหลักทรัพย์บัวหลวง , ผู้ร่วมเป็นแกนนำในชุมชนนักลงทุนรายย่อยขนาดใหญ่อย่าง Stock2morrow -- ก็ย่อมมี Connection ที่มากกว่า คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาในตลาดนี้ และ จุดนี้เอง การที่ผมใช้โอกาส ที่ผมมี "ให้โอกาส" กับคนที่มีความสามารถ มันก็เท่ากับว่า ผมได้ Leverage Connection ของผม ให้กับคนอื่น เพื่อสร้างสินค้าและบริการใหม่ๆ ขึ้นมา ..จะเห็นได้ว่า ผมแทบไม่ต้องเหนื่อยขึ้น หรือ ลงทุนเพิ่ม ...แต่ผมก็สามารถเอา Connection มาใช้ "ต่อยอดทางโอกาส" ...และเรื่องของ การ Leverage โอกาส ก็เป็นอีกมุมมองที่น่าสนใจมิใช่น้อย ที่สามารถเปลี่ยนโอกาสสร้างเงิน!!

-- ใช่ คนเราสามารถ "Leverage โอกาส" สร้างเงินได้ หากเข้าใจ Process ของมัน

วันก่อนผมได้พบกับผู้บริหารของ INTUCH ...เลยได้รู้ว่าองค์กรอย่าง INTUCH ก็เริ่มก้าวเข้ามา สร้าง Venture Capital โดยกันเงิน 200 ล้านบาท มาวางเอาไว้ ...ก็คือ มี "เงิน" -- อย่างไรก็ตาม ต้องคิดให้ดีครับ สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ใฝ่ฝันอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง ต้องเริ่มจากมี ปัจจัยเริ่มต้น 4 ข้อนี้ให้ได้ก่อน แล้วค่อยๆ เดิน

....ก็ขอเอาใจช่วยครับ!!

1 ความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ