...โลกเราเจริญสุดขีด ก็หลังสงครามโลกครั้งที่สองที่แหละ ...จากนั้นเป็นต้นมา อเมริกาขึ้นมาเป็นพี่ใหญ่ พร้อมกับสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ ที่เรียกว่า “ทุนนิยม” ..โดยทุกประเทศอิงความเจริญของอเมริกาเป็นแบบอย่าง
...ระบอบทุนนิยมนี้ คือ เน้นการบริโภคให้มาก ยิ่งมากแปลว่า ยิ่งเจริญ ...มันตีค่าออกมาเป็น GDP ต่อหัวที่เพิ่มขึ้น ...พูดง่ายๆ ว่า ถ้า GDP ต่อหัวเพิ่ม ย่อมเท่ากับ คนแต่ละคนมีเงินในกระเป๋าตัวเอง มากขึ้นพอที่จะใช้จ่ายให้เศรษฐกิจหมุนไปเรื่อยๆ
...ระบบนี้ มันอยู่คู่กับเงินเฟ้อ เพราะที่เรารู้กันคือ ทรัพยากรในโลก มีจำกัด แต่เงินพิมพ์ได้ไม่จำกัด ..การทำให้คนรวยขึ้น และ บริโภคมากขึ้น ก็คือ การทำให้ทรัพยากรขาดแคลนลงไปเรื่อยๆ
..นั่งหลับตาก็รู้ว่า ค่าครองชีพในอนาคตจะแพงขึ้นขนาดไหน
... พูดง่ายๆ ว่า ตราบใดที่เรายังใช้ระบบทุนนิยม ...ค่าครองชีพ และ เงินเฟ้อก็จะแพงขึ้นเรื่อยๆ ...คนที่จะรวยคือ คนที่ออมเงินใน Asset เช่น ซื้อที่ดิน ซื้อหุ้น ซื้อของที่จำกัด ...แล้วถือ ..แต่คนที่จนลงคือ คนที่เก็บเงินสด
--- ผมว่าเราต้องสร้างความรู้ให้กับคนรุ่นใหม่ ให้รู้เท่าทันเกมของทุนนิยม ไม่งั้น เขาจะเป็นทาสของระบบ ... “ทำงานหนักแต่ยิ่งจน” -- คนเหล่านี้ ไม่ใช่เขาไม่เก่ง เขาเพียงแต่น่าสงสาร เพราะเขาไม่รู้เท่าทันเกมของระบบทุนนิยมก็เท่านั้นเอง!!
จริงๆ แล้ว ผมว่า "ทุนนิยม" มันไม่ได้น่ากลัว หากเราเข้าใจกลไกของมัน ... อย่างกลุ่มนักลงทุนเรา หากเรารู้จักคำว่า Cycle แล้ว ลงทุนได้ถูกจังหวะ มันมีเวลาให้เราเหลือเฟือในการตัดสินใจ "รวย(ในเงินลงทุนของเราแบบเพียงพอ)"..อย่างเช่นปี 1997 และ ปี 20
08 ผมว่า นักลงทุนหลายๆคน สามารถเอาชนะเหล่า Economic Hitman ได้อย่างสบาย
...จริงๆ แล้วหัวใจของ "ทุนนิยม" และ การสร้างความมั่งคั่งคือ เข้าใจว่า Asset มันคือ Key ..ส่วน "เงินสด" มันเป็นเสมือน"เบ็ดตกเงิน" เอาไว้เกี่ยว Asset ในเวลาที่เหมาะสม
-- "เงินสด จะมีประโยชน์ ต่อเมื่อมันได้ถูกเปลี่ยนเป็น Asset ในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น!! ...และเวลาที่เหมาะสมก็คือ เวลาที่คนส่วนใหญ่แห่ขาย Asset (ซึ่งก็คือ เวลาที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจนั่นเอง)"
...หลักการสำคัญของการเป็นนักลงทุน คือ Content คือ "พอเพียง" แต่ไม่ยึดติด ...เงินที่สร้างความมั่งคั่งให้เราสูงสุด คือ เงินที่เราตัดออกจากชีวิตเราได้
กลไกที่แยบยล ของการต่อสู้ คือ "สภาพคล่อง" ช่วงปี 2008 เราเห็นอเมริกาแทบตายเพราะ สภาพคล่อง หรือ Liquidity นั่นแหละ ..."ตอนนี้จริงๆ มันเป็นเวลาที่ เอเชียเรา(มีสภาพคล่องสูง) เราต้องออกล่า Asset ของอเมริกา และ ยุโรป ...แต่หลักการสำคัญคือ Value ...นั่นคือ มูลค่าที่ซื้อต้องเหมาะสม และ Asset นั้นๆ ต้องมีนัยยะทางเศรษฐกิจ เช่น หุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่คนอเมริกาและยุโรปต้องกินต้องใช้ อะไรก็ได้ที่เป็นยุทธศาสตร์ทางการบริโภคของมนุษย์
...ตอนนี้บริษัทไทยหลายๆ บริษัทเริ่มเห็นแนวทางนั้น ...ต้องลุ้นเอาใจช่วย!! -- New !! Asia Ecomonic Hitman
..."จริง ๆ เราอยู่ในสงครามนะเนี่ย หากใครเข้าใจ ..แต่มันเป็นสงครามเศรษฐกิจ!!"
แวะมาเยี่ยมชมบล๊อกเจ้าของรางวัลปีก่อนครับ
ตอบลบ