วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
"ข้อมูลบางอย่างที่เสพแล้วรวย"..เสพแล้วรวย..อิ อิ
หนึ่งในผู้ที่ขึ้นมาพูดในวันนั้น คือ "ผมเอง..อะจ๊าก!!" ...แน่นอน Background ข้างหลังของผม เท่ห์ไม่แพ้ใคร นั่นเพราะ "รู้งาน..555" -- เนื่องจากปีที่แล้ว ผมได้รับเชิญจากมูลนิธิไทคมให้ไปพูดในงาน This's my Futures ซึ่งเขาเอาตัวแทนแต่ละสาขาอาชีพที่น่าสนใจมาประมาณ 10 คน ..นั่นแหละที่ทำให้ผมได้รู้จักกับ TED Talk ...มันเป็นการพูดที่กำหนดให้วิทยากรพูดสิ่งที่อยากจะพูดในเวลาที่จำกัด ..."คือ 15 นาทีเป๊ะ!!"
(อาจจะเป๊ะ ไม่เท่า วุฒิศักดิ์อ่ะนะ ..แต่ก็เป็นเวลาที่จะว่าเร็วก็เร็ว แต่จะว่านานก็นาน)
"15 นาที" มันสั้นเกินกว่าที่เราจะเอา Power Point มาปิ้ง เหมือนไปเล็กเชอร์ ..ดังนั้น มันจะเป็นกึ่ง Talk Show ...
"ใครจะเสียเวลามานั่งฟัง Talk Show ..เพราะคนพูดไม่ใช่ โน๊ตอุดม!!" ... การถกเถียง ระดมความคิด เกิดขึ้นที่ฐานทัพของ Stock2morrow ที่ระดม เหล่าอาจารย์ และ คัดเลือกบุคคลที่เราอยากเชิญมาพูดในงานนั้น
"เชื่อซิ มันน่าสนใจ ...จะมีงาน Cocktail อะไร ที่ได้ฟัง แก่นวิชา จากผู้ที่เขาเจนจัดในเกมที่เขาเล่น ใน Style การลงทุนในด้านต่างๆ ...Stock2morrow เรามีคนหลากหลายมากนะ .ตั้งแต่การใช้ "จิต" ในการลงทุน อย่างคุณเกมส์ ..การสร้าง Passive Income ตลอดชีวิต จนมี Port การลงทุน ในธุรกิจกว่าพันล้านอย่างพี่ก้อย ...หรือ คนที่เคยเป็นผู้ล่า The Wolfs ที่นั่งบริหารกองทุนสถาบันขนาด 4 แสนล้านอย่างพี่กร..และไหนจะพี่หมอสวัสดีที่ไม่ใช่หมอธรรมดาแต่เป็น System Trader ที่ประสบความสำเร็จแบบเก๋าเกม ..และก็อาจารย์แต่ละคนที่สอนกันจนลูกศิษย์เต็มบ้าน Full House ว่างั้น!!...อย่างสมาชิกหลายๆท่าน ที่โพสอยู่เป็นประจำ ..ควรให้เขาขึ้นมาโชว์ตัว ..." ... นั่นแหละ เป็นที่มาของ 15 นาที แห่งการเวียนเทียน ย่างสด วิทยากรทุกท่าน...555
"เอ๊ะ!! เกริ่นมาขนาดนี้ ...แล้วอะไรล่ะ ที่เสพแล้วรวย"
"ใช่!! เป๊ะ!! -- วิชา ความรู้ไง เสพแล้วรวย ...ถ้าเสพในระหว่างที่มีสติ จะเกิดปัญญา -- นั่นแหละ เสพแล้วรวย...555"
ในวันนั้น ผมแชร์ในเรื่องของ "การเริ่มต้นจากความล้มเหลว"
แน่นอน..หลายๆคนมองภาพ คนหนุ่มอย่างพวกเราว่า สำเร็จเร็วและหวือหวา แต่นั้นน่าจะเป็นภาพที่ห่างไกลจากตัวตนที่แท้จริงของพวกเรามากมาย ..."ขอเรียกว่า เคยหวือหวาดีกว่า!! ... จะว่ามันเป็นกับดักของคนรุ่นใหม่ก็ว่าได้ ...ที่ร้อยทั้งร้อย ต้องเคย Over Trade แล้วเจ๊ง ...เรานั่งคุยกันระหว่างอาจารย์และวิทยากรทุกคน ไม่มีคนใดเลย ไม่เคยเจ๊งมาก่อน ...อย่างผมกับหยง อาจจะต่างกันในวิธีปฎิบัติ แต่แก่นไม่ต่างกัน คือ คนนึง Over Trade หุ้น แล้วเสียหายเกือบหมดตูด ..กับอีกคน Over Trade ชีวิต ที่ทำใจรับแทบไม่ได้ ...เพราะอย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่า ...เวลาเราล้มเหลว แล้วเงยหน้าขึ้นมา ..จะไม่มีมืออันอ่อนโยนมา จูงเราขึ้นมา อย่างในหนังการ์ตูน ...แต่เงยขึ้นมา จะมี "ตีน" เหยียบซ้ำ -- ฮ่า ฮ่า เล่าเรื่องตอนนั้นแล้วฮาจริงๆ แต่คุณรู้ไหม เวลานั้นมันไม่ฮา ...โคตรเครียด!!"
"การเริ่มต้นจากความล้มเหลว" คือ การเริ่มต้น ณ จุดที่เรารู้จักตัวเอง ... มนุษย์ทุกคนมั่นใจในตัวเอง เกินกว่าจะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ...และวันที่ล้มเหลวนั่นแหละ คุณจะรู้จักคน คนนั้น ก็คือ "ตัวตนที่แท้จริงของคุณ" ...ผมรู้เลยว่า จริงๆ ผมคิดว่า ผมแข็งแกร่งกว่าที่ผมคิดมากนัก แต่ผิดถนัด!! เราทุกคนก็ไม่ได้แข็งแกร่งกว่าใครทั้งนั้น ...ปัญหาต่างๆ มันมาเป็น Cycle ...สิ่งนี้ปรับใช้กับการลงทุนได้ทันที ..อย่างที่เขาพูดว่า Price Move in Trend ราคาจะวิ่งไปทางนั้น จนมันสุดๆ เท่านั้น ถึงจะค่อยเปลี่ยน Trend ...นั่นแหละ ปัญหาและ ความทุกข์ก็วิ่งเป็น Trend เหมือนกัน ..พอทุกข์เข้า มันจะเข้ามาทุกปัญหา จนเรา "ซี๊ด" ชนิดลืมโลก ..ประมาณว่า "ซี๊ด" ขนาดที่อยากจะจากโลกนี้ไปเลย ...ทุกข์ ...ยิ่งทุกข์ ... ถ้าในหุ้นก็ ติดดอย.. หุ้นยิ่งลง ...ยิ่งลง ...ยิ่งลง ... เอาว่า ใครเจอจุดนี้ คุณจะรู้จักคำว่า Cycle "ขึ้นเดี๋ยวก็ลง ...ไอ้ลงสุดๆ เดี๋ยวก็ขึ้น" ..เกือบปลง ใจนิ่งชนิดหินผา...555
"วันนี้ผมพูดแทนนักลงทุนระยะยาว คือ เราทุกคนหวังมากเกินไป ...มันมี Trick อยู่นิดเดียวสำหรับ การวางเงินให้ทำงาน
..ข้อแรก ต้องใช้เงินในสัดส่วน ทั้งหมดของชีวิต ที่เคยวางในเงินฝากนั่นแหละ ไม่ใช่เอามา 1% ของ Port แล้วเอามา Trade แบบสุดโต่ง กำไรแค่ไหน มันก็ไม่ได้ทำให้คุณรวยขึ้นเลย เพราะการ Handle เงินจำนวนมากน้อย มันคนละเรื่องกันกับเงินทั้งหมด ... สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ "ใจ"เราพร้อมกับการรักษาและดูแลเงิน เท่าไหร่ เราก็รวยแค่นั้นแหละ (ใครที่สามารถดูแลและบริหารเงินแสน ชีวิตนี้จะมีเงินไม่เกินแสน , ใครที่สามารถดูแลและบริหารเงินล้าน ชีวิตนี้ก็จะมีเงินไม่เกินล้าน , ใครที่สามารถดูแลและบริหารเงินได้พันล้าน ชีวิตก็จะมีเงินไม่เกินพันล้าน) ..การที่เราสามารถทำกำไรจากเงินน้อยๆ ในสัดส่วนของ Port จริงๆ มันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกอะไรเพราะเงินก้อนนั้นมันเล็ก ..แต่ถ้าหากเงินก้อนนั้นเป็นเงินทั้งหมดของชีวิตคุณ ..รูปแบบการลงทุนทั้งหมด และวิธีคิดของคุณจะเปลี่ยนไป .."โจทย์นี้แหละ ที่ผมและหยง เหมือนกัน เพราะเราต้องใช้เงินทั้งหมดของเรา ทำงานในวิธีการที่เราเลือก ...อย่างการ Trade ที่ใช้เงินทั้งหมดในชีวิตมาวาง จะ Super Conservative ..ยกตัวอย่าง Port ของ Trader ที่ Trade for a Living จะวางเป็น Portfolio คือ จัดสรรความเสี่ยง และ กระจายความเสี่ยงอย่างมีแบบแผน ..จากนั้น ทุกการ Trade ก็ต้อง Limit Loss .. จริงๆ เรื่องนี้เราสอนใน คอร์ส S08 ของ S2M ซึ่งน่าเบื่อที่สุด แต่จริงๆ มันสำคัญที่สุดต่างหาก ...เพราะท้ายสุดแล้ว คุณเคยจะหาได้มากเท่าไหร่ 10 ล้าน 100 ล้าน 1000 ล้าน มันไม่สำคัญเลย หากคุณต้องเสียทั้งหมด จากการ Over Trade แบบโง่ๆ ของคุณเพียงครั้งเดียว ..และนี่คือ สิ่งที่คนเก่ง อย่าง Hedge Fund หรือ Lehman Brother ก้าวไม่ผ่าน !!" -- ความสำเร็จในการเงิน ใม่ใช่ว่า หาให้ได้มากๆ เสี่ยงให้สุดๆ เหมือนที่คนส่วนใหญ่คิด ...และสุดท้ายไอ้ที่มองว่า เสียไม่ได้ มันเสียหมดตัว ...นั่นคือ "กับดัก" ทางความคิดของคนเก่ง ... สุดท้ายแล้วผมว่า ความเก่งมันกินไม่ได้ -- การที่เรารักษา Port และความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนต่างหาก ที่เรียกได้ว่า แจ๋วจริง!!
..ข้อสอง "ต้องลองล้มเหลวด้วยตัวคุณเองก่อน ด้วยเงินน้อยๆ ...ฟังดูยากนะ ใครจะบ้า มาลองล้มเหลว ...แต่เชื่อผมเถอะ ไม่มีใครที่ไม่เคยพลาดหรอกครับ ...ให้เตรียมใจกับการพลาด ก็เท่านั้นเอง ...เมื่อวันนั้นมาถึง คุณงัดแผนที่สองออกมาได้เลย !!" ...นี่แหละ ความได้เปรียบของคนที่เคยล้มเหลว เพราะเขาได้เรียนรู้แล้วว่า ชีวิตเขาพลาดได้ ดังนั้น คนเหล่านี้ จะมี แผนที่สอง รองรับกับความผิดพลาด "คือพูดง่ายๆ ว่า ถ้าล้มเป็นแล้ว ล้มอีกกี่ครั้ง ก็ได้ เพราะมันจะไม่เจ็บถึงตายอีกแล้ว ...เพราะไม่มีความล้มเหลวที่ถาวร จนกว่า คุณจะล้มเลิก ก็เท่านั้นเอง"... อย่างการลงทุน สำหรับมือใหม่ ...ผมแนะนำให้ใช้เงินน้อยๆก่อน ..เพราะที่คุณคิดว่า คุณรู้ ..คุณจะเข้าใจมันจริงๆ ก็ต่อเมื่อก้อนนั้นมันหมด..555
...แล้วหลังจากที่คุณเข้าใจแล้ว ก็ "จัดเต็ม!! ...
...คนหลายๆ คนถึงกับ หันหลังให้การลงทุน เพราะ มันยาก ...ใช่!! มันยากที่เราจะเข้าใจตัวเอง ..."คนที่ลงทุน แล้วชัดเจน ประสบความสำเร็จ เพราะเขาเข้าใจตัวเอง ว่าเขาทำอะไรอยู่ ...ตรงนี้ซิยาก เพราะเราทุกคนถูก อารมณ์ Drive ในการดำเนินชีวิตอยู่แล้ว ...แต่ในตลาดทุนนี่ ถ้าอารมณ์นำเหตุผลเมื่อไหร่ ...คุณเจ๊งวันนั้นแน่นอน!!"
.... ฮึม!! อย่ามา Drama ว่างั้น "ใครมาหาคุณ ชวนลงทุน ถามก่อนว่า นี่ Drama อ่ะเปล่า...555"
ส่ิงที่เสพแล้วรวย คือ "ข้อมูลที่มีเหตุมีผล" ...ส่วนที่เสพแล้วซวยคือ "อารมณ์ ..ฉะนั้นอย่ามา Drama กับผมนะ...555"
อิ อิ ...อย่า Drama ++
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 จุด ในงบการเงินที่ใช้ในการจับผิด จับโป๊ะหุ้นเด็ด !! 1. ’Net Profit Margin’ …ขาย 100 บาท ได้กำไรกี่บาท ? …ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งแสดงว่า การแข่งขั...
-
7 ข้อ ‘มิตร’(ฉาชีพ) กับ การลงทุน 1. ‘คนที่โกงเราได้คือคนที่เราไว้ใจ’ …ถ้าเราไม่ไว้ใจเราคงไม่เอาเงินให้เขาตั้งแต่แรก 2. ‘ข้อเสนอของเขามัน T...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
6 หลักการ คัดหุ้นปันผลดีเติบโตแล้วเลี้ยงเราได้ไปยาวๆ หลักการนี้สำหรับ คนชอบซื้อแล้วถือ กินปันผลยาวๆ 1. ‘หุ้นมี Market cap ขนาดใหญ่‘ …หุ้น...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
6 ข้อ มาคุยกันเรื่อง Why Nations Fail ? สิงค์โปร์ไม่ทีทรัพยการเลย ทำไมรวย …เวเนซุเอลา มีน้ำมันมากที่สุดในโลก ทำไมจน ..แล้วสวิส ประเทศเล็กๆ...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
6 ข้อ เศรษฐกิจและการลงทุนยุค Trump 2.0 1. ‘นโยบาย American First’ …Trump จะทำทุกอย่างให้อเมริกาได้ประโยชน์ เน้นในเรื่องของเศรษฐกิจ 2. ‘Dere...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ขอบคุณสำหรับแรงบันดาลใจครับ ช่วงนี้ผมซ้อมเทรดทุกวัน กลางคืนที่นี่ดูตลาดไทย กวางวันที่นี่ดูตลาดมะกัน สรุปอยู่ที่ไหนก็ฝึกซ้อมได้ตลอด หาข้อมูลได้ตลอดเวลาตามใจต้องการ
ตอบลบ"ต้องลองล้มเหลวด้วยตัวคุณเองก่อน ด้วยเงินน้อยๆ .."
ตอบลบจริงๆแล้ว อยากลองประสบความสำเ็ร็จดูบ้างมากกว่านะ... 555+
ขอบคุณครับพี่แพท งาน investor Night สนุกมากเลย
ตอบลบ