คำ 4 คำที่สำคัญ มากสำหรับ "นักลงทุน" คือ "ถูก/แพง/ขึ้น/ลง"
คำทั้งสี่คำนี้ ทำให้คนเล่นหุ้นขาดทุนตลอด เพราะไม่เข้าใจวิธีการใช้ ...ผมจะยกตัวอย่างจากหุ้นจริงให้ดู
ลองมาดู PTT ...
"ราคาถูก" อันนี้ ต้องไปเทียบกับพื้นฐาน ...คนที่ยังวิเคราะห์ Fundamental ไม่เป็น อาจไปขอ Target Price ของราคาพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัวที่ Broker ก็ได้ ...แต่ต้องเข้าใจว่า "ราคา" กับ "พื้นฐาน" ไม่จำเป็นต้องวิ่งไปในทางเดียวกันตลอดเวลา มันจึงเป็น โอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้นั่นเอง
การที่บอกว่า ราคาถูก คือ "ราคา" ในเวลานั้นต่ำกว่า "พื้นฐานจริงๆของกิจการ" ... แต่โดยส่วนใหญ่ เมื่อราคาถูก มันถูกเพราะคนส่วนใหญ่ขาย ...นั่นแปลว่า Demand & Supply ...จะส่งผลให้ราคาหุ้น เป็น Trend ขาลง ...ดังนั้น หุ้นถูก ก็คือ หุ้นที่อยู่ในขาลง -- ดังนั้น การซื้อหุ้นถูก ก็คือ "ซื้อแล้วหุ้นควรจะลงต่อ" ...ลองดูที่ กราฟ PTT ... อย่างหุ้นถูก ก็คือ ราคาต่ำกว่า 300 บาท ...แต่ถ้าซื้อในจุดที่ต่ำกว่า 300 บาท (ใต้เส้นน้ำเงิน) โอกาสที่ซื้อแล้วลงต่อ มีสูง ... ดังนั้น คนที่ต้องการซื้อหุ้นถูก ก็ต้องทำใจแล้วว่า การซื้อในเวลานั้น หุ้นอาจลงต่อ
สรุปคือ "คนที่ซื้อหุ้นถูก คือมักซื้อในขาลง ..หุ้นควรจะลงต่อ -- แต่ถ้ามองระยะยาว การซื้อหุ้นตอนถูก ก็ย่อมมีหุ้นราคาแพงในอนาคต คนเล่นระยะยาวก็ได้กำไรจากตรงนั้น (ถ้าทำใจเห็นราคาหุ้นที่ตัวเองซื้อลงต่อไม่ได้ ห้ามซื้อหุ้นถูก ..แก้ไขโดยหยุดซื้อหุ้นถูก แล้วไปเลือกใช้วิธีการลงทุนแบบซื้อหุ้นแพง แล้วไปขายแพงกว่าแทน ซึ่งวิธีการนั้นเราเรียกว่า Technical Analysis "คือ ซื้อแพง ไปขาย แพงกว่า")
.....ลองหลับตา แล้วคิดดีๆ ว่า คุณกำลัง งง ใช่หรือไม่ ..."ไม่แปลก เพราะคนส่วนใหญ่ ไม่เข้าใจเลย ..ผลก็คือ ซื้อแล้ว งง ขายก็ งง สรุปขาดทุนตลอดเวลา เพราะไม่รู้ว่า กำลังทำอะไรอยู่"
ในทางตรงกันข้าม ..
"ราคาแพง" ...ราคาแพง ก็คือ หุ้นแพงกว่าพื้นฐาน (แต่โดยมากนักวิเคราะห์ มักปรับพื้นฐานตาม ..ฮามาก...อิ อิ) ...อย่างตัวอย่างคือ หุ้นแพง คือ ราคาเกิน 380 บาท ... แต่ถ้าราคาวิ่งขึ้นเลย 380 บาทจริง ...หุ้นจะเข้า Trend ขาขึ้นอย่างเต็มที่ (ราคา Break เส้นแดง New High) ...นั่นแปลว่า ซื้อแพง แต่ซื้อแล้ว ราคามันจะวิ่งไปต่อ
--- ที่ผมพูดมา มันอาจฟังดู ไม่เข้าท่า ..แต่ลอง เอาสิ่งที่ผมพูดไปทำความเข้าใจ ...แล้วคุณจะเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่า 4 คำนี้ "ถูก/แพง/ขึ้น/ลง" ...เป็นสิ่งที่นักลงทุนกว่า 80% ในตลาด ไม่เข้าใจเลย และมั่วมาก .....
คนที่จะซื้อหุ้นลงทุนระยะยาว ต้องซื้อ "หุ้นถูก" (ไม่จำเป็นต้องถูกที่สุด เพราะไม่มีใครสามารถซื้อหุ้นได้ถูกที่สุด)
คนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น ต้องซื้อ "หุ้นแพง" แล้วไปขายแพงกว่า ...เพราะ หุ้นแพง มักอยู่ใน Up Trend คือ ซื้อแล้วขึ้นเลย ... แต่คิดดีๆนะ การซื้อหุ้นแพง คือ เราซื้อตอนมันแพง ดังนั้น เราไม่มี Room ให้ขาดทุน ..เพราะถ้าคุณผิดทาง คุณจะเสียหายหนัก ดังนั้น คนที่จะเล่นวิธีนี้ ต้องศึกษา Technical และมีวินัย มีจุด Cut Loss ที่ชัดเจน ...เพราะความเสี่ยงมันมากกว่า
--- ทำความเข้าใจดีๆครับ "ต้องเลือกให้ถูกว่า เราจะลงทุนแบบไหน แล้วใช้วิธีนั้น" แล้วการลงทุนของคุณจะดีขึ้น!!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
Real Estate Agent ในเมืองไทยคงไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อขาย ไม่ค่อยผ่าน Agent แต่ในต่างประเทศ Real estate Agent เปิดกันยิ่งกว่า 7...
-
วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มนึง ที่ผมว่า เขียนได้ In-trend มากๆ ..มันเป็นแนวคิดสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่อยาก Self-made "คนรุ่นใหม่ที่สร้างตัวด้วยต...
-
“อายุเลข 3 แล้ว ยังไม่ได้แต่งงานเลย จะแย่ไหม ?” โลกยุคนี้คนรุ่นใหม่แต่งงานกันช้ามาก โดยเฉพาะคนมีเงิน เพราะ กว่าจะเรียนจบ ก็มดลูกเกือบปิด...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
'Life is the Art of Drawing without Eraser' : John w. Gardner ..ชีวิตคือศิลปะการวาดภาพที่ปราศจากยางลบ มันเป็นคำพูดเปรียบเปรยชีวิตที...
-
"เคล็ดลับความสำเร็จของเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้" ผมเคยดูหนังเรื่องเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ก็ยังจำได้ "ฟงจิ้งเหยา" ...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
ในหนังสือ สร้างล้านแรกต้องแหกกฏ ...มีอยู่บทนึงที่พูดถึง การหาตัวตนของเราให้เหมาะกับงาน ...ซึ่งก็คือ การรู้ว่า "จริตการทำงาน" ขอ...
-
“อายุ 30 ควรเรียนต่ออะไรดี ?” เคยเห็นคนที่เรียนไปเรื่อยๆ ไหม จบไม่รู้กี่ปริญญา แล้วก็เรียนไปเรื่อยๆ ...มันเสียเวลาบอกตรงๆ เพราะ ยุคน...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศท...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้า...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น