‘จุดเริ่มต้นในตลาดหุ้นของผม’
..ไม่ได้แบบอยู่ดีๆ ก็ค้นพบพรสวรรค์ ...เอาว่า จุดเริ่มต้นของผมในตลาดหุ้น คือ ช่วงที่ผมอายุ 20 กว่าๆ ไปเรียน ป.โท ที่ออสเตรเลีย แล้วก็ทำธุรกิจร้านอาหารไปด้วย ...คือ แบบเปรี้ยว ฟิตจัด ...เจ๊งครับ!! ...เรียนก็ไม่จบโท ...อ้าว ซวยดิ!!
เคว้งเลย.. แบบเป๋เลยกรู !! ...เอาตรงๆ วันนั้น มันไปต่อไม่ได้ แต่ไม่อยากกลับประเทศ ...อยากกลับบ้านเก่ามากกว่า (วันนี้ย้อนนึกแล้วขำ แต่เอาตรงๆ วันนั้น ไม่ขำ)
เวลาผมทำอะไร ทุ่มสุดๆ ...ก่อนเจ๊ง นี่เกือบรวยเลยนะ เพราะ เปิดร้านอาหารไปตั้ง 5 สาขา แล้วกำลังวางแผนจะทำ แฟรนไชส์ แต่ดันมาเจอวิกฤตเศรษฐกิจ ....สายป่านไม่พอ ก็จบ ...รู้เลยว่า ‘คนต่างชาติ มันเป็นชนชั้นที่ไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะเอเชียอย่างเรา’ ..เลยเข้าใจคนเลยว่า การเริ่มอะไรเองมันยากแค่ไหน
‘เอาเถอะ ผ่านมาแล้ว’ ...แต่คุ้มนะ ...ผมว่า การล้มเหลวในวันนั้น มันสอนอะไรเยอะมาก
ที่สำคัญมันลด ego ลง และเพิ่มความฉลาดมากขึ้นว่างั้น
...จริงๆ กลับประเทศไทยมาในเวลานั้น ...โคตรเข็ดขยาด ไม่กล้าทำอะไรแล้ว กลัวล้มอีก ...ก็เลยไปสมัครเป็นลูกจ้าง ...หางานทำ ...ผมจะมาเอาดีกับการเป็นลูกจ้าง แล้วไต่เต้าเป็นผู้บริหารมืออาชีพให้ได้ !!!
....จุดเริ่มต้นในตลาดหุ้นของผมคือ พ่อเรียกไปคุย บอกว่า ไม่ต้องไปคิดมาก ที่เอาเงินที่บ้านไปเจ๊งที่ออสเตรเลีย
“เอ่อ!! พ่อครับ ...พูดแบบนี้ ผมคิดมาก หนักเข้าไปอีก”
พ่อบอกว่า เงินที่เจ๊งไปแล้วช่างมัน แต่พ่อแม่เหลือเงินเก็บอยู่นี่ก้อนสุดท้ายแล้ว ...เอาไปช่วยดูซิ ว่า จะลงทุนยังไง ให้มันดี
....ผมนอนไม่หลับเลย ....เอาตรงๆ ที่กลับมาเป็นลูกจ้าง เพราะ ไม่อยากเป็นภาระให้ครอบครัวอีก ...ไม่อยากจะแตะเงินที่บ้านอีกแล้ว ...เจ๊งไปเยอะแล้ว พอแล้ว
...แต่ก็ พ่อให้โจทย์มาแล้ว ผมก็ต้องทำ
‘โจทย์ผมก็คือ เสียไม่ได้ เพราะ นี่เป็นเงินเกษียณก้อนสุดท้าย ...’
...เข้าตลาดปั๊บ ...ต้นปี 2008 ...ปลายปี Hamburger Crisis ...’รับน้องใหญ่เลย !!’ ...อวกดิครับ เข้าตลาดปั๊บ ก็เจอ วิกฤตตลาดหุ้น 2008 อีก !!
ผมได้เรียนรู้ ก็คือ
1. ‘โลกนี้ช่างโหดร้าย โดยเฉพาะโลกการเงิน’ ...ไม่มีอะไรง่ายๆ ...ดังนั้น ผมจะซื้อหุ้นเวลาที่ผมรู้สึก ไม่สบายใจ กังวล (ถ้าซื้อหุ้นตอนที่เราสบายใจ แปลว่า ซื้อแพง ...เดี๋ยวมีหนาว ...ถ้าซื้อหุ้นถูก ต้องตอนที่ไม่สบายใจ งงๆ แบบตลาดหุ้นไทยปีนี้เลย)
2. ‘อะไรที่คนอื่นว่าดี แปลว่า มันไม่มีกำไรเหลือแล้ว’ ...ถ้าใครชวนผมลงทุนในอะไรก็ตามที่มันกำลังฮิต ...ใครๆ ก็กำไร ....ผมจะถอย ...หรือ ถ้าผมมี ผมจะทยอยขายทิ้ง เพราะ หลังจากนั้นไม่นาน นรกรอ เราอยู่แน่นอน
3. ‘เตรียมพอร์ต สำหรับ Worst Case ที่สุดเสมอ’ ...มีคนถามผม ทำไมผมเล่นหุ้นชิวมาก ...ผมบอกเลย หุ้นระยะยาวทุกตัวที่ผมเลือก ผมวางเลย ว่า ถ้าไม่ศูนย์ไปเลย ก็ 5 เด้ง ...สมมุติพอร์ตผม 1 ล้าน ผมเลือกหุ้นเลย 10 ตัว ลงตัวละ แสน ...ทุกตัวต้องซื้อ ‘ต้นรอบ’ ...ก่อนซื้อ มันต้องมีศพข้างบนเยอะๆ แล้วอ่านงบ ต้องรอดได้แบบไม่ต้องเพิ่มทุน ...หุ้นพวกนี้ ถ้าไม่เจ๊งไปเลย ก็หลายเด้ง (ด้วยวิธีการนี้ ผมแค่เลือกหุ้นถูกสัก 2 ใน 10 ตัว พอร์ตก็โตกระฉูดละ ...แล้วหุ้นที่เจ๊งไปเลย เอาตรงๆ นะ อย่างมาก มี 1-2 ตัว พอร์ต ก็แทบไม่กระทบ) ...ถ้าทำนานพอ พอร์ตโตขึ้น ทีนี้ปันผลเริ่มเลี้ยงเราละ
4. ‘ออมในหุ้นไปเลย’ ...พูดง่ายๆ ถือหุ้นแทนเงินฝากเลย ...ซื้อหุ้นดี ในจุด ต้นรอบ จากนั้นไม่ขายเลย ...ถือรับปันผล ...ให้ปันผลนั่นแหละเลี้ยงเรา ...ผมคำนวณแล้วว่า ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ วันนึง ต้องรวยก่อนเกษียณแน่ๆ
เอาเข้าจริง ทำมาแค่สิบกว่าปี ...ปันผลผมมากกว่า ค่าใช้จ่ายรายเดือนแล้ว ...เฮ้ย!! นี่มันคือ Passive Income มากกว่า expense ก็คือ อิสรภาพทางการเงินแล้ว
ไม่ได้รวยมากมาย ...แค่เริ่มสบายทางการเงิน ...พอเรามี passive แบบนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องเลิกทำงานนี่ ? ...เพียงแต่เราทำงาน แบบไม่กดดัน
สรุปว่า สิ่งที่ผมเรียนรู้ มันทำแล้วดี ...มันดีกว่า แนวคิดตอนเด็กๆ ที่ทำสุด ถ้าไม่สำเร็จ กรูยอมตาย ...นั่นมันละครน้ำเน่า ...จะพันล้านอะไรบ้าบอ
ชีวิตจริงน่ะ ...มันต้องวางแผนชัด ไม่เพ้อฝัน แล้วอดทนทำตามแผน ...ผมฟันธงเลย คนที่สำเร็จในชีวิตจริง มันต้อง ‘วิธีการชัด แล้วอดทน’
อดทนรวย !! ....ใช่ ‘อดทนรวย’ ครับ
เขียนมาซะยืดยาว จะบอกว่า ‘แนวทางการลงทุนของผม ...ผมได้เขียน แชร์ ทั้งวิธีคิด วิธีทำ ไว้ในหนังสือเล่มใหม่’ ...หนังสือ มือใหม่หุ้น ลงทุนเก่ง
ก็ฝากไว้ครับ สำหรับคนที่สนใจลงทุนในหุ้น หรือ จะซื้อฝาก พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน แฟน ...ส่งความรู้และแรงบันดาลใจ ในการเปลี่ยนชีวิต ผ่านหนังสือ ที่อ่านง่ายๆ ตรงๆ กันได้ครับ
จัดไป !! ‘อดทนรวย’
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น