แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ทำไมผมไม่เคยกลัววิกฤตเศรษฐกิจ


'ทำไมผมไม่กลัววิกฤตเศรษฐกิจ ทั้งๆที่เงินส่วนใหญ่ของผมวางอยู่ในตลาดหุ้น ?'

ในทุก Generation โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนผ่านของทุกยุค มักจะเกิดสงคราม ..ผมเห็นช่วงนี้นักทำนายอนาคต Futurist เริ่มเขียนบทความทำนายสิ่งร้ายๆ ที่จะเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ ...มันทำให้ช่วงนี้ผมอ่านหนังสือค้นคว้าข้อมูลเพิ่มขึ้น

เพราะแน่นอน ถ้าเกิดสงครามมันจะกระทบกับเรื่องการลงทุนและตลาดหุ้นที่ผมทำงานอยู่แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ -- หลายคนพอเห็นข่าวไม่ดี ก็มองแล้วว่าจะล้างพอร์ต 'พูดง่ายๆ คือ ขายหุ้นทั้งหมดทิ้ง แล้วถือเงินสดหรือทองคำ'

ครับ!! โดยปกติผมและนักลงทุนระยะยาว มักจะถือหุ้นเกิน 70% ของพอร์ตในทุกช่วงเวลาอยู่แล้ว (การวางพอร์ตแบบนี้ หุ้นขึ้นก็รวย หุ้นลงแรงก็ยิ่งรวย) ซึ่งทำตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่ที่มักมีหุ้นน้อย แต่มีเงินสดเยอะกว่า -- ก็ไม่แปลก เพราะ

1. เราถูกสอนกันว่า หุ้นเสี่ยง แถมความผันผวนของหุ้นรายวันก็บ่งบอกเช่นนั้น ..ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าถือหุ้นยาวๆ -- แต่ผลลัพธ์จริงๆ มันตรงกันข้าม เพราะการเทียบผลตอบแทนจริงของคนถือหุ้นเป็นส่วนใหญ่ (กรณีถือหุ้นดี ไม่ใช่ติดหุ้นปั่นแบบคนส่วนใหญ่นะ) มักพอร์ตโตแบบก้าวกระโดด รวยกว่าคนที่ไม่ลงทุนประมาณ 10 เท่า 

2. การเปลี่ยนโครงสร้างในโลกการเงิน ที่ผลตอบแทนของสินทรัพย์ปลอดภัยลดลงจนแทบเหลือศูนย์ ..เงินไม่ได้หายไปไหน ทำให้ผลตอบแทนมันเปลี่ยนไปอยู่ในสินทรัพย์เสี่ยง เกิดเป็นยุค Bubble ในปัจจุบัน (เราจะเห็นคนที่เชื่อมั่นใน Asset จะผลัดกันรวย เพราะเงินมันวิ่งเข้าออก Asset ต่างๆ เป็นรอบๆ เกิดเป็น Bubble สร้างเศรษฐีจำนวนมากแบบชั่วข้ามคืน) 

ข้อสังเกตที่ผมอยากจะชี้ให้เห็นคือ คนที่โชคดีจากข่าวร้ายหรือความผันผวนของเศรษฐกิจโลก คือ 'คนที่กล้าลงทุน' -- แปลกไหม ?

คนส่วนใหญ่มักจะคิดตรงข้าม ..ยิ่งมีข่าวร้ายและความผันผวนเท่าไหร่ ยิ่งเอาเงินไว้ในที่ปลอดภัย แต่จุดนั้นแหละที่ให้ผลตอบแทนต่ำที่สุด -- พูดแบบชาวบ้าน คือ คนที่กลัวที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปก็จะเป็นคนที่จนที่สุด

เอาล่ะครับ เล่ามาเพื่อปูพื้นความคิด ของ The Stock Blueprint คือ 'ความเสี่ยงไม่ได้อยู่ในสิ่งที่คนอื่นบอกเราว่ามันเสี่ยง แต่ความเสี่ยงคือเราขาดความรู้ในสิ่งที่ทำ'

ดังนั้น การลงทุน การออมในหุ้น หรือ การเทรด Future ในมุมของคนส่วนใหญ่ต้องมองว่าเราเสี่ยงมาก ..แต่เขาคิดผิด เพราะสำหรับคนที่มีความรู้ในสิ่งที่ทำ การไม่ลงทุนคือเสี่ยงกว่าในโลกปัจจุบัน

เรามาคุยเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่หรือแม้กระทั่งสงครามกันต่อนิดนึงว่า มันจะกระทบพอร์ตการลงทุนอย่างไร ดังนี้

1. สงครามต่างๆที่อาจเกิดขึ้นต่อไปในโลก ไม่ได้เกิดจากคนไม่ชอบกัน ไม่ใช่.. มันเกิดด้วยสาเหตุเดียวคือ 'ผลประโยชน์ไม่ลงตัว' ..ลองดูซิครับว่า ในอดีตจนถึงปัจจุบัน สงครามจะเกิดในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ 

2. สงครามจะเกิดเมื่อเราเห็นชัดๆ ว่าใครได้ประโยชน์ ..ประเด็นนี้จะทำให้เราพอจะเห็นภาพว่าหลังวิกฤตที่ใดจะดี เช่น หลัง WW2 เราได้ประเทศมหาอำนาจใหม่คือ อเมริกา ซึ่งเป็นบิดาแห่งทุนนิยม รวมทั้งตลาดหุ้นที่เราลงทุนกันในปัจจุบัน

3. สงครามจะเกิดในประเทศที่มีความแตกต่างระหว่างคนรวยกับคนจนมากเกินไป

ลองศึกษาสิ่งที่อเมริกาทำเวลานี้ คือ 

1. เขาพยายามทำ Wealth Distribution โดยการให้คนรวยทำมูลนิธิเพื่อกระจายความรวยและโอกาสให้คนจน 

2. เขาพยายามกระจายโอกาส มี Venture Capital และ เงินทุนร่วมลงทุน เพื่อให้โอกาสกระจายตัวกว้างขึ้น 

หันมามองเมืองไทย ผมว่า เราควรทำแบบอเมริกาใน 2 เรื่องที่กล่าวมา ..คือ หนึ่ง ให้คนรวยสร้าง Social Enterprise ที่เน้นสร้างประโยชน์ให้ประเทศ ..หลายคนถามว่า แล้วคนรวยจะได้อะไร ผมว่า เขาได้มากกว่าเงิน เขาจะได้สิ่งที่ Bill Gates ได้รับ คือ ได้รับการยอมรับและความสุขที่มีค่าสูงกว่าเงิน

สอง ให้คนรวยสร้างระบบทุนที่ให้โอกาสคนธรรมดาที่มีความสามารถในการเข้าถึงทุนทำธุรกิจ คล้ายๆ อุตสาหกรรม Venture Capital ในอเมริกา

ประเด็นที่ยกเรื่องนี้มาคุย เหมือนไม่มีสาระ แต่ผมว่า มันเป็นแก่นของความเข้าใจระบบทุนนิยมเลยว่า วันนี้โลกวางอยู่บนระบบผลประโยชน์ ..การที่เราจะช่วยกันทำให้ระบบนี้อยู่ได้ ก็คือ การแบ่งและกระจายผลประโยชน์ให้ลงตัว 

ยุคต่อไป คนจะแข่งกัน สร้างประโยชน์และแบ่งโอกาสให้คนอื่น ..ผมไม่ได้โลกสวยนะ เพียงแต่มองทุกอย่างตามความจริงเท่านั้น

ใช่!! โอกาสอยู่ที่การแบ่ง การให้ในสิ่งที่เรามี ..โดยเฉพาะการแบ่งโอกาส อันนี้สำคัญกว่าเงินอีก

บทความนี้ขอเสนอให้เราลองมอง อีกด้านของเหรียญ โดยเฉพาะเวลาที่เศรษฐกิจมีวิกฤต ..เรามักจะเห็นโอกาสในขณะที่คนส่วนใหญ่เห็นแต่วิกฤต

 ...ลองมองดู มันเปลี่ยนมุมคิดเราได้เลย

ใครสนใจอยากต่อยอดความรู้การลงทุน ผมแนะนำหลักสูตร The Stock Blueprint ผมกับหยง 'แพ้ทดล่นยาว & หยงเล่นสั้น' ร่วมกันแกะพิมพ์เขียว วิธีคิด วิธีทำกำไรในตลาดหุ้น ตั้งแต่แก่น จนถึงการนำไปใช้จริง ..ลองอ่านรายละเอียดที่นี่
www.thestockblueprint.com

1 ความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ