'ทำไมคนส่วนน้อย จึงชนะในตลาดหุ้น'
ปูพื้น The Stock Blueprint/Day 10
เรื่องนี้หลายๆคนไม่เข้าใจว่า 'ทำไมต้องคิดแบบคนส่วนน้อย จึงจะชนะ' ..คิดแบบคนส่วนใหญ่ไม่ได้หรือ ?
'ไม่ได้' เพราะ หุ้น หรือ Asset ต่างๆ ในโลกถูกกำหนดราคา จาก Demand & Supply
คำว่า Demand แปลว่า 'ความต้องการ'
ส่วน Supply แปลว่า 'จำนวนที่มี' หรือ 'จำนวนผลิต'
ทำไมทองแพง กว่า เหล็ก ...เพราะ Supply น้อยกว่า แถม Demand คนชอบทองมากกว่า
ทำไมที่ดินบางทำเลแพงกว่า ก็เพราะบางทำเลนั้นคนต้องการมากกว่า แถม Supply บางที่แทบไม่มีแล้ว เช่น ที่ดินกลางเมือง
ถ้าเข้าใจหลักตรงนี้ก็ง่ายละ ...คิดง่ายๆ หุ้นที่กำลังขึ้น คนก็แย่งกันซื้อ ทำให้มีแต่ Demand มีแต่ความต้องการซื้อ ก็แย่งกันซื้อจน Supply หมด ..ราคาหุ้นถึงขึ้นไปเรื่อยๆ
ถ้าเราวิ่งตามคนส่วนใหญ่เข้าไปซื้อ ก็มีโอกาสที่เราจะต้องซื้อหุ้นแพงนั่นเอง
ส่วนการขายก็ตรงข้าม ถ้าทุกคนแย่งกันขาย Supply ก็เยอะ ราคาก็ยิ่งลง คนที่ถือหุ้นกลัวราคาลงต่อ ก็แย่งกันขาย หุ้นก็ยิ่งลงเข้าไปอีก
แต่สำหรับคนที่มองมูลค่า ก็จะเข้าไปซื้อตอนที่คนส่วนใหญ่ขาย จึงจะได้ราคาถูก
เคล็ดลับของราคาหุ้น หรือ Asset คือ มันจะลงโดยค่าเฉลี่ยประมาณ 70% ในขาลง แต่ขาขึ้น มันขึ้นได้ไม่จำกัด เราเลยเห็นหุ้น 10 เด้ง 100 เด้ง อย่างหุ้นโรงพยาบาล หรือ หุ้น 400 เด้งอย่าง SCC
ลองแบ่งเงินเป็นก้อนๆซิ แล้วลงทุนซื้อหุ้นแบบปลูกต้นไม้ 'ซื้อแล้วถือ' ..ออมในหุ้นดีเวลาวิกฤต เช่น สมมุติมีเงิน 1 ล้านบาท แบ่งเป็นกองๆ กองละ 1 แสนบาท จากนั้นซื้อหุ้นตามหลักออมในหุ้น 'ซื้อหุ้นดี ในข่าวร้าย'
ตัวที่ชนะ อาจขึ้นหลายเด้ง (หลายเท่า) ตัวที่แพ้ก็อาจลงไปบ้าง
..รวมๆ แล้ว มันขึ้นมากกว่าลง 'หุ้น 10 ตัว อาจได้หุ้น 10 เด้ง 1 ตัว เงินแสนเป็นเงินล้าน ..อาจได้หุ้น 5 เด้งสัก 2-3 ตัว เงินแสนเป็นหลานแสน ..อีก 2-3 ตัวอาจไม่ไปไหน ก็ยังเหลือเงินแสน ..บางตัวอาจขาดทุน ..พอรวมๆ ก็กำไรไง'
ชนะด้วยแผน ไม่ต้องใช้โชคชะตา ...มัน work ครับ ลองวางแผนดู
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม #ออมในหุ้น #TheStockBlueprint
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ