ทำไมดอกเบี้ยจึงต่ำ แล้วไงต่อล่ะ ?

'ทำไมดอกเบี้ยจึงต่ำ แล้วไงต่อล่ะ ?'

วันนี้นักลงทุนหลายๆคนรอลุ้นว่า ตกลง FED จะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ ...ฮึม!! คุณว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ?

เคยสงสัยไหมครับว่า สมัยก่อนดอกเบี้ยเคยสูง ..สมัยที่ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารเราเป็น 10% ..ใครมี 10 ล้านสมัยดอกเบี้ยสูง นี่โคตรรวยเลย เพราะนั่นแปลว่า 'ยุคนั้นใครมีเงิน 10 ล้าน ฝากธนาคารเฉยๆ ที่ดอกเบี้ย 10% ก็ได้ดอกเบี้ยปีละ 1 ล้าน เฉลี่ยเดือนเกือบแสน -- ชิวโคตร!!'

--ใช่!! สมัยก่อน มีสิบล้าน ก็ลาออกมานอนเฉยๆอยู่บ้านได้เลย

แต่ดูวันนี้ซิครับ ดอกเบี้ยเงินฝาก 0.5% คือ พูดง่ายๆ ยุคนี้ใครมี 10 ล้าน ฝากธนาคาร ได้ดอกเบี้ยแค่ปีละ 50,000 บาท ..'จะไปพอกินได้ไง ?' 

-- โลกมันเปลี่ยน แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ตัวเลยว่า มันเปลี่ยน !!

จริงๆ แล้ว เวลาอะไรมันเปลี่ยนเป็นสิบเท่า อันนี้แย่ลงเกิน 10 เท่า มันต้องกลับมาวิเคระห์แล้วว่า มันมีกฏอะไรบางอย่างที่ต้องทำความเข้าใจใหม่หรือเปล่า ? ...มีครับ 'กฏของเงินมันเปลี่ยน' มาดูกัน

อย่างแรก 'ดอกเบี้ย' ลองคิดซิครับว่า มันต่ำจนถึงจุดนี้เพราะอะไร ?

ดอกเบี้ยต่ำขนาดนี้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ มันจะต่ำ มันต้องมีที่มาที่ไป ..ซึ่งก็คือ 

1. คนกู้จ่ายดอกเบี้ยไม่ไหว ..อันนี้เกิดจากธุรกิจเริ่มกู้มากเกินไป ทำให้จ่ายดอกเบี้ยไม่ไหว ซึ่งเหมือนกันทั่วโลก ธุรกิจที่กู้มากไปแต่ทำรายได้ไม่คุ้มก็เริ่มเจ๊ง ..อันนี้รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย ที่กู้เกินรายได้จนเริ่มจ่ายไม่ไหว ..หนี้เสีย ..ทั้งหมดกดดันให้ดอกเบี้ยต่ำลงเรื่อยๆ

2. วันนี้บางประเทศดอกเบี้ยเกือบ 0 แต่คนก็ยังจ่ายไม่ไหว ธุรกิจก็ยังคงแย่ ..ประเทศที่ถึงจุดนั้นก่อนใครก็คือ ญี่ปุ่น เป็นมา 20 ปีแล้วยังไม่ฟื้น วันนี้ดอกเบี้ยก็ยังต่ำอยู่ ..ตามมาด้วยอเมริกา เหมือนจะฟื้นแต่แน่ใจหรือว่าฟื้นจริง ? ...ยุโรป วันนี้เจ๊งกันระนาว หนี้บาน ดอกเบี้ยต่ำติดดิน ..แล้วพี่ไทยล่ะ ?

คุณลองวิเคราะห์ทางแก้ซิครับ 

1. 'ขึ้นดอกเบี้ยซิ' ..หนองแตกจะได้จบ(ใช้ยาแรง) แต่มันจะส่งผลให้ธุรกิจที่กู้มากๆ ทยอยเจ๊งก่อน  ..แล้วธุรกิจใหญ่ๆ ที่ก่อหนี้สูงๆ มาซื้อกิจการแพงๆ ก่อนหน้านี้จะทำอย่างไร ? ..เจ๊ง หรือ ล้มบนฟูก คุณว่าอะไรจะเกิดขึ้น ? ...แต่ที่แน่ๆ ยังไม่มีประเทศใดในโลกที่กล้าใช้ยาแรง ส่งผลให้ธุรกิจทั่วโลกแย่อย่างในปัจจุบัน

2. 'สร้างรายได้เพิ่มซิ' ..พูดง่าย แต่ทำจริงโคตรยาก ..ลองมองไปรอบๆ ซิครับ มองธุรกิจใหญ่ๆ ที่หนี้สูงๆ วันนี้รายได้แย่ลง แถมเจอคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง ธุรกิจดอทคอม เข้ามาแย่งรายได้ ..อย่าง iTune ฆ่าอุตสาหกรรมเพลงทั้งโลก ...อุตสาหกรรมโฆษณา โดน Google กับ Facebook ฆ่าหมด ..ต่อไป Fintech กำลังจะมาฆ่าอุตสาหกรรมการเงิน -- ถามหน่อย ผู้บริหารสถาบันการเงินเขาจะสู้อย่างไร ? 

ผมพยายามชี้ให้เห็นว่า Globalize ก็คือ การดึงเงินและทรัพยากร จากประเทศเล็กๆ ไปเป็นของประเทศใหญ่ๆ นั่นเอง

เอาล่ะ มาถึงทางแก้ของจริง คืออะไร ?

1. 'ทุกคนหันมาเข้าใจจุดแข็งของตัวเอง แล้วหาจุดดีที่สุดในจุดที่ยืนของตัวเอง' ...เจ้าของ Brand สามารถย้ายฐานการผลิตไปที่ไหนก็ได้ในโลก วันนี้เสื้อที่เราใช้อาจเย็บในแอฟริกา แต่ถ้าจะซักเสื้อ ต้องซักแถวบ้านคุณ ..หันมามองจุดที่เราเก่ง เรายืนแล้วได้เปรียบ เริ่มโอกาสธุรกิจจากตรงนั้น

2. 'กู้ให้น้อย แล้วโตด้วยการแก้ปัญหาและสร้างประโยชน์ให้คน' ..ธุรกิจไม่ใช่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เพราะยังไงปลาใหญ่ของเมืองไทย ก็คือ ปลาเล็กอยู่ดี ..ต้องเป็นปลาดี ที่สร้างโอกาส สร้างธุรกิจให้ยั่งยืนในชุมชน เงินหมุนในประเทศยังไงก็ดีกว่าเงินหลุดไปที่อื่น ...เงินฝรั่งมาแล้วก็ไป แต่เงินจากนักลงทุนไทย ยังคงหมุนสร้างงานและสร้างโอกาส

3. 'โตโดยขยายคนชั้นกลางของประเทศ' ..คนชั้นกลาง เกิดจาก 1. ให้การศึกษา 2. การมีปัญญาเรื่องเงิน สอนให้คนเป็นนักลงทุน เข้าใจกลไกของเงิน 

ทำให้ทุกคนมีความเข้าใจเรื่องเงิน 

'อิสรภาพทางการเงิน ไม่ได้อยู่ที่มีเงินเท่าไหร่ แต่อยู่ที่มีกระแสเงินสดพอเพียง แล้วได้ทำงานที่รักต่างหาก'

สรุป 'ดอกเบี้ยต่ำ' มันบอกว่า เศรษฐกิจโลกมันแย่ถึงขีดสุด หนี้สูงเกินไป ทำธุรกิจไม่มีประสิทธิภาพ ...การจะรักษาตัวรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจปัจจุบัน ไม่ใช่วิ่งไปหาดอกเบี้ยต่ำๆ แล้วคิดว่าปลอดภัย ..เอาเงินแช่ในตราสารที่ดอกเบี้ยต่ำ หรือ เอาเงินไปวางไว้ในสิ่งที่เราเข้าใจไปเองว่าไม่เสี่ยง (มันไม่มีอะไรที่ไม่เสี่ยง)

แต่ทางรอดคือให้ศึกษาและเข้าใจเรื่องการลงทุน เอาเงินไปวางในจุดที่ เงินมันทำงาน นั่นคือวิธีแก้ปัญหา

ลองเปิดใจ มองเรื่องเงินและการลงทุนใหม่ แล้วชีวิตเราจะชนะเรื่องเงินครับ !! 

'อิสรภาพทางการเงิน ต้องเพิ่มความรู้และเข้าใจการลงทุน'

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม #ออมในหุ้น