ปี 2016 โปรดลงทุนอย่างมีสติ!!
'ปี 2016 Goldman Sachs คาดราคาน้ำมันจะร่วงไปถึง 20 เหรียญ ..หรือไป 15 เหรียญ ...ตลกดี !! ไม่ได้ตลกว่าราคาน้ำมันจะร่วงหรือขึ้น แต่ตลกกับพฤติกรรมนักลงทุนที่บินว่อนไปตามข่าวและกระแสที่ยักษ์ใหญ่ของโลกสร้างขึ้น'
(ถ้าลงจริง คนเหล่านี้คงซื้อ Option ที่ได้ประโยชน์จากการลงของราคาเรียบร้อย)
ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ร้าย มันสอนให้ผมเข้าใจการเป็นนักลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ ..ยิ่งเจอร้ายเท่าไหร่ เรายิ่งเป็นนักลงทุนที่เก่งขึ้นเท่านั้น
- ช่วงก่อนวิกฤต 2008 ทุกคนในโลกกลัวน้ำมันจะหมดโลก ราคาน้ำมันพุ่งไปเกือบแตะ 200 เหรียญ ก่อนจะพังลงมาที่ 30 เหรียญในปี 2008
- วันนี้มาอีกรอบ ปี 2016 น้ำมันจะล้นโลก ราคาจะไปแตะ 20 เหรียญ(หรือ 15 เหรียญ จนแขกผูกคอตาย..55) อะไรก็พูดกันไป
- เงินดอลลาร์ปี 2008 ทำ QE พิมพ์จากลม จนแทบเป็นขยะ แต่วันนี้นักลงทุนทุกคนแย่งกันสะสมดอลลาร์จนเงินดอลลาร์แข็งสุด ราวกับว่า ดอลลาร์เป็นทองคำ ที่พิมพ์จากลมไม่ได้
- ราคาทองคำร่วงสุดๆ ยังหาจุดต่ำสุดไม่ได้ ..คำถามคือ จะดีไหมที่วันนี้ทิ้งทุกอย่างแล้ววิ่งเข้าถือดอลลาร์ ..555
- วันนี้บริษัท Start-Up ที่ยังไม่มีรายได้ มีมูลค่ามากกว่าบริษัทที่สร้างรายได้จริงๆ ไม่รู้กี่เท่าตัว ..มันเหมือนภาวะ .com bubble ก่อนปี 2000 ก่อนที่ทุกอย่างจะ แตก!! แล้วทุกคนก็มามีสติ แล้วรู้ว่าอะไรคือของจริง อะไรคือของปลอม
ที่เล่ามา เพื่อจะบอกว่า เราอยู่ในช่วง Bubble อีกลูกนึง ของความไม่สมเหตุ สมผล ทั้งการทำธุรกิจ การลงทุน และ การสร้างรายได้ ซึ่งสุดท้าย Cycle ของทุกอย่าง ทั้งสมเหตุสมผล และ ไร้เหตุผล อย่างในปัจจุบัน ก็จะต้องปรับสู่สมดุลย์ในที่สุด
'เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป'
บทเรียนที่ผมอยากจะแชร์ คือ
หนึ่ง ราคาของทุกสินทรัพย์ขึ้นกับ Demand & Supply ..ไม่ได้ขึ้นกับพ่อมดการเงินและหมอดู ..ราคาข้าว น้ำตาล ยาง น้ำมัน ล้วนขึ้นกับความต้องการใช้ และ ผู้ผลิต ..อ่านเกมออกก็ลงได้ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน
สอง ราคาของสินทรัพย์ วิ่งขึ้นลงเป็นรอบเสมอ ทั้งสมเหตุสมผล และ ไร้สาระ ก็ยังคงอยู่ภายใต้ กฏไตรลักษณ์ ...คนซื้อสินทรัพย์ในข่าวดี มักจะซวย ..แต่คนซื้อสินทรัพย์ในข่าวร้ายอาจกลายเป็นดี -- 'เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป'
สาม นักลงทุนยิ่งมองยาวยิ่งรวย ..ยิ่งมองสั้นยิ่งซวย เพราะ นักลงทุนคือคนที่ออมในสินทรัพย์ และในระยะยาวสินทรัพย์คือสิ่งที่ขึ้น สวนทางกับเงินปลอมๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นให้ลดมูลค่าไปเรื่อยๆ ในระยะยาว -- 'เงินลด มูลค่า ส่วนสินทรัพย์เพิ่มมูลค่า ในระยะยาว'
สี่ ข่าวในสื่อปัจจุบันที่รายย่อยเข้าถึง ไม่เป็นประโยชน์ต่อรายย่อย เพราะมันสร้างขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อรายใหญ่ และเจ้ามือ -- 'เสพข้อมูล ข่าวสารอย่างมีสติ ..ยิ่งใช้มันเล่นตรงข้าม จะมีสติกว่า'
ห้า ความกลัว คือ ศัตรูที่ทำให้นักลงทุนไม่รวย ไม่สำเร็จ ..การทำลายความกลัว ไม่ใช่กล้าบ้าบิ่น แต่ใช้ 'สติ และ ความรู้' เช่น นักลงทุนระยะยาว ลดความเสี่ยงด้วยการกระจายการลงทุนในข่าวร้าย ..นั่นคือ วิธีกระจายความเสี่ยงซื้อของถูกที่ผลตอบแทนโดยรวมดีกว่าล็อตเตอรี่ แต่ต้องมี 'ความรู้ สติ และ ความกล้า'
หก 'ของจริง' ธุรกิจจริงๆ ดูที่รายได้ กำไร และการเติบโตจริงๆ ไม่ใช่ข่าว ...สินทรัพย์จริงๆ คือ สิ่งที่คนต้องการ บริโภค ใช้จริง / จำนวนจำกัด / มูลค่าเพิ่มในระยะยาว
ประมาณนี้ 6 ข้อ 'ลงทุนแบบมีสติ' ..จะปีใหม่แล้ว ขอให้เมืองไทยมีนักลงทุนรุ่นใหม่ ที่รวยด้วยตัวเอง สร้างความรู้ แล้วค่อยๆ รวยด้วยความรู้ สติ และ ความกล้า
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม #ออมในหุ้น
http://www.bloomberg.com/news/articles/2015-12-22/extreme-oil-bears-bet-on-25-20-and-even-15-a-barrel-in-2016
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบคอยติดตามอยู่นะครับ #นักลงทุนมือใหม่
ตอบลบ