แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

"รวมกันโต" ในตลาดหุ้นไทย


ช่วงก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์ "นัก Take-over มือฉมัง อย่างคุณ อัฐ ทองแตง" (ลูกชาย คุณ วิชัย ทองแตง ผู้โด่งดังในสมัยคดีชุกหุ้นคุณ ทักษิณ ..นอกจากเป็นทนายมือฉกาจแล้ว ..วิชัย ทองแตง ขึ้นทำเนียบเศรษฐีหุ้นในอันดับต้นๆของเมืองไทย)

ผลงานชิ้นโบว์แดงของกลุ่ม "ทองแตง" ก็คงหนีไม่พ้น BGH โรงพยาบาลกรุงเทพ ที่เนื้อหอมที่สุดในวงการสุขภาพไทย ...แน่นอน ในอีกฝั่งของผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็คือ กลุ่มของคุณหมอ ประเสริฐ ประสาททองโอสถ ผู้ก่อตั้งเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ และขยายสู่ภูมิภาค ..วันนี้ โรงพยาบาลกรุงเทพ อาศัยช่องว่างทางโอกาส และ Trend ที่เห็นชัดๆ จากวิสัยทัศน์ นั่นก็คือ "Trend สังคมคนแก่" ซึ่งนับวัน ผู้สูงอายุที่ต้องการใช้บริการทางสุขภาพที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ...หมอประเสริฐเห็นโอกาสอันนี้ จึงขยายและ Take Over โรงพยาบาลต่างๆที่เคยกระจัดกระจาย ให้เข้ามารวมเป็นกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ

ในอีกฝั่ง "กลุ่มทองแตง"​ก็เห็นโอกาสนี้เช่นกัน ...คุณ อัฐ เล่าให้ผมฟังว่า เขาเริ่มเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ จากการเข้าซื้อ โรงพยาบาลเปาโล และเข้ามาเป็นผู้บริหาร ..จากนั้นเมื่อสบโอกาสที่โรงพยาบาลพญาไท มีปัญหา ...เขาก็เข้าซื้อ สินทรัพย์ พร้อมหนี้ เข้ามาบริหาร

..."ผมถามไปว่า ...อย่างนี้ก็สบายเลยซิครับ ได้สินทรัพย์มาในราคาถูก -- ใช่ไหมครับ พี่อัฐ!!"

"ไม่!! ไม่ใช่เลย ..การที่เราซื้อ Asset อะไรก็ได้ในราคาถูก มันไม่ได้หมายความว่ามันจะง่าย ..เพราะอะไรก็ตามที่มันราคาถูก ก็แปลว่ามันมีปัญหา และยิ่งมันมีปัญหาเช่น หนี้บาน หรือ ปัญหาใหญ่ๆ ก็ยิ่งทำให้ไม่มีใครอยากเอาตัวเข้ามามีปัญหา ...และนี่แหละ การเข้าซื้อของถูก -- เราต้องพร้อมที่จะเข้ามาแก้ปัญหา ...คือ ในโลกของนักลงทุน มันไม่ได้ง่ายเหมือนในหนังนะ ที่ซื้อมาปั๊บ แบ่งขาย นั่นมัน Richard Gere ใน Pretty Woman ..555 -- เรื่องจริงน่ะเหรอ ...ปวดหัว ..แต่ประเด็นคือ ถ้าคุณพร้อม มันก็เป็นสิ่งที่ท้าทาย!!"

"แล้ววันนี้ กลุ่มทองแตงถือหุ้นใหญ่ ในบริษัท แสนล้าน อย่าง BGH ...มีแผนยังไงต่อครับ มีอุตสาหกรรมไหนที่คุณอยากจะไป "รื้อ" อีก..."

"โอ้!! คงยัง ...ก็เราคงอยู่ ในอุตสาหกรรมนี้ไปอีกนาน ..มันมีโอกาส ..การที่จะเปลี่ยนและ สร้างอย่างที่เราทำในอุตสาหกรรม Health Care นั่นคือ "ควบแล้วโต" มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ..หลักการจริงๆ ในฐานะนักลงทุน เราจะถือครองสินทรัพย์ ตราบเท่าที่มันยังมีโอกาส และโอกาสนั้น ดีกว่าโอกาสทางเลือกอื่น ...ซึ่งวันนี้ผมบอกตรงๆว่า  Size Matter นั่นคือ "ขนาดมีความสำคัญ" ..เดิมนี้นักลงทุนต่างชาติ ไม่เคยสนใจกลุ่ม Health Care ในเมืองไทย แต่วันนี้ใครๆก็สน เพราะเราใหญ่ที่สุด (กองทุนต่างชาติ เขามีข้อจำกัดในเรื่องขนาดค่อนข้างมาก เพราะแต่ก่อนหุ้นเราเล็ก เขาลงรายตัวแทบไม่ได้ ..คือ ถ้าตลาดเราใหญ่ โอกาสที่ต่างชาติจะเข้ามาก็มากขึ้นตาม) -- ผมหมายถึงวันนี้ เราใหญ่และดีที่สุดในเอเชีย ...วันนี้เราทำ Horizontal นั่นคือ การควบรวม ...ก้าวต่อไป เราก็สามารถทำในส่วนของ Vertical ..เช่น การเข้าไปทำในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ..อุตสาหกรรมยารักษาโลก ...วันนี้ผมว่าเมืองไทยเพิ่งเร่ิมเท่านั้นเอง ...โอกาสเราอีกเยอะ!!"

"ว้าว!! พี่อัฐ ฟังแล้วเกิด Vision เลยพี่ ...ผมเพิ่งเข้าใจเลยว่า ตลาดทุนมันสำคัญในเชิงธุรกิจหลักด้วย ..อย่างเรื่องการ ควบรวม Merger & Acquisition มันต่อยอด ทั้งในเรื่อง "ทุน(ที่ต่ำกว่า)ในการขยายธุรกิจ" และ  "โอกาสที่เกิด Economic of Scale ในการต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นอีกมากมาย"

ครับ ...การคุยหลังไมค์กับพี่อัฐ ทองแตง ก็เปิดโลกทัศน์ ประเด็นของอนาคตตลาดหุ้นไทย ค่อนข้างชัดขึ้น ..ผมมองว่า "กลุ่มโรงพยาบาล" ถือเป็นต้นแบบของการ "รวมแล้วใหญ่" เพราะในเรื่องของตลาดทุน มันขยายศักยภาพให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนที่ต่ำ (ถูกต้อง!! ต่ำกว่าเงินกู้ธนาคาร เช่น ออกหุ้นกู้ต่างๆ หรือ แม้แต่การกู้ธนาคาร บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ก็สามารถกู้เงินจากธนาคารได้ดอกเบี้ยต่ำกว่า) ....แน่นอน !! กระแสของ M&A (Merger & Acquisition) ในตลาดหุ้นไทย มันกำลังระอุขึ้นเรื่อยๆ ...ต่อไป จะกระจายไปสู่ อุตสาหกรรมอื่นๆ

ครับใช่!! ..ผมได้มีโอกาส คุยกับ กระบี่มือหนึ่ง อีกหลายท่าน ที่อยู่ในวงการเหล็ก (กลุ่มนี้มือใหม่ อย่าเข้ามายุ่งล่ะ แค่ศึกษาเป็น Case Study ได้ความรู้ก็พอ..เหมือนที่เขาบอกว่า "มองได้ แต่อย่าชอบน่ะ"..555) ... ก่อนหน้านี้ เราได้เห็น กระแสการควบรวมของวงการนี้ไป หลาย Case ...ที่ดังมากๆ ก็ของ GSTEEL ซึ่งเราคงปล่อยเขาอยู่ตามแบบฉบับของเขาไป..555 (เขาโหดแบบเกาจิ้ง ..โคตรเซียน...555)  ..ที่ผมสนใจคือ อย่างกรณีของ SSI ที่คุณ วิน กล้าวิ่งเข้าไปซื้อโรงถลุงเหล็กในอังกฤษ ซึ่งเป็นความกล้าในแบบที่ไม่ธรรมดา ...อีกบริษัท ที่ผมได้เข้ามารู้จัก ก็คือ MILL ...การตั้ง GreenMill Project หรือเตาหลอมน้ำเหล็กที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย และกล้าลงทุนในปี 2008 ทั้งๆที่บริษัทอื่น ถอนการลงทุน แต่ "พี่หมู" กลับกล้าบุกรายเดียว ทำให้ต้นทุนของ Green Mill กลายเป็นโรงหลอมที่ได้มาด้วยราคา Bargain "ถูก..ว่างั้น!!" ...ซึ่งทำต่อจากการ ที่ MILL เข้า Take Over โรงเหล็กบูรพา ที่สร้างความฮือฮาไปในปีก่อนหน้า ...และล่าสุด การเล็งการควบรวม โรงเหล็กของเสี่ยประชัย ในไม้ต่อไป ... "ท้าทายครับ" เพราะผู้อยู่เบื้องหลัง เกมการเงิน และ การ Take Over ของกลุ่ม MILL ก็คือ ชายหนุ่มสองคน ที่อายุเพิ่งจะ 30 กว่าๆ แถมวัยรุ่นมาก "พี่บอม และ พี่หมู" นั่นเอง

...เอาล่ะครับ ...ไว้ผมจะมาเล่า เรื่องราวของ "คนเหล็ก ตัด คนเหล็ก" แห่งวงการเหล็กให้ฟังในคราวหน้านะครับ... ผมว่า Content นี้สนุก ไม่แพ้หนังฮ่องกงกันเลยทีเดียว!!


                                                 ("พี่หมู" แห่ง MILL และ ทีมแกะรอยหุ้น)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ