วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2554
อยากเรียนรู้ด้านการลงทุนอย่างจริงจัง(มาก)
"ตอนนี้กระแสเรื่องการลงทุน ผมว่าแรงมากนะ ...ซึ่งหลายคนบอกผมว่า "มันแย่แล้ว" คนส่วนใหญ่โดดเข้ามาเล่นหุ้น เราต้องขายทิ้งออกไปรอตลาดพังดีไหม ..ฮึม!! เอ่อ ..ผมว่าเร็วไปไหมพี่ ..คือว่าตอนนี้คนเล่นหุ้นในเมืองไทยประมาณแค่แสนคน ยังไม่ถึง 1% ของประชากร ..ดอกเบี้ยเงินฝากและการลงทุนอื่นๆ ต่ำสุดโต่ง ถ้าคำนวณก็ใช้เวลาประมาณ 112 ปีน่ะ ถ้าจะฝากออมทรัพย์ธนาคารแล้วรอเงินให้ทบต้น ...ในอดีตผมยังจำได้ ดอกเบี้ยตอนเงินเฟ้อสมัยก่อน 12% ฝาก 6 ปี เงินฝากก็เพิ่มสองเท่า ทบต้น" ..แต่ความแจ๋วมันอยู่ตรงไหนรู้เปล่าครับ...
ใช่เลย!! ตอนนี้ดอกเบี้ยเงินฝากไม่ถึง 1% แต่เงินเฟ้อ(ที่แท้จริง ไม่ใช่ที่รัฐบาลประกาศ) มันประมาณ 10% ..จริงๆมากกว่านั้น แต่รัฐบาลพยายามเอาภาษีเรามาอุ้มไว้ กลัวคะแนนเสียงตก..ตลกเด็ก!! แต่อีกไม่นานหรอกครับ ไอ้ภาษีที่รัฐบาลเอามาพยุงเงินเฟ้อ ตั้งแต่ราคาน้ำมันรถ น้ำมันคน ก๊าซ สิ่งของเครื่องใช้ อาหาร ..มันพยุงไม่อยู่หรอก ไอ้วิธีการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำแบบนี้!!
ความสยองมันอยู่ที่ ตอนนี้เงินคุณ ไม่ใช่ 7 ปีทบต้น แต่เป็น 7 ปี ไร้ค่า ลดลงครึ่งนึง ..."ลองหลับตานึกนะครับว่า ยุคนี้เขาบอกว่า คนรวยจะรวยขึ้น แต่คนจนจะจนลง ..ผมก็นั่งนึกๆนะว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น"
ติ้ง!! คำตอบง่ายๆก็คือ "คนรวยเขาถือ Asset (ตั้งแต่ที่ดิน บ้าน ทอง หุ้น) เงินสดเขามีนิดเดียว เอาไว้หมุน ..แต่คนจน ถือเงินสด(ซึ่งน้อยอะนะ)" ...ภาวะแบบนี้ที่เงินเฟ้อกำลังก่อตัวมหาศาล คือ เงินมันลดมูลค่า ..ถ้าเงินมันลดแล้วอะไรมันเพิ่มล่ะ ..ใช่!! เงินลด แต่ Asset ก็เพิ่มมูลค่าน่ะซิครับ ..."ก๋วยเตี๋ยวชามละบาท เมื่อไม่กี่สิบปีก่อน เดี๋ยวนี้เป็นร้อย อีกสัก 20 ปี ผ่านยุคเงินเฟ้อบ้าๆนี้ไป ชายสี่บะหมี่เกี๋ยว ต้องชามละ 500 บาท..สยองมาก!!"
ผมมานั่งนึกนะว่าเดี๋ยวนี้ คนได้เงินเดือนหกหลัก ปีนึงถึงจะหาเงินได้ประมาณ 1 ล้าน ก่อนหักภาษี ..ยังไม่รวมค่าใช้จ่าย ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต ... "พวกนี้ไม่ได้เรียกว่า คนรวยนะ ..เรียกว่า พยายามกินอยู่แบบคนรวย" ..กว่าจะมาเป็นกลุ่มนี้ได้ (เงินเดือนหกหลัก) ต้องทำงานเกินสิบปี ในองค์กรชั้นดี (คือรับราชการไม่ถึงแน่ เงินเดือนแบบนี้) ..อ้าว!! แล้วพวกที่รวยล่ะ ทำยังไง ..."นี่แหละคำถาม" ทำไงล่ะถึงจะรวย..
ก็ค้ายา ก็เร็วดี ตายเร็วด้วย ...หรือ คอรับชั่น ก็รวยเร็ว แต่ก็ซวยเร็ว ถ้าดวงตก ...หรือ ที่ชัดๆเลย ภาวนาให้ เจ้าคุณปู่ มีที่ดินมรดกซื้อไว้ใกล้รถไฟฟ้า นี่แหละ 100 ล้านเห็นๆ นี่ถ้าโชคดีเป็น ลูกคนเดียว ของหลานคนเดียวของเจ้าคุณปู่ มิเช่นนั้น ได้แย่งสมบัติ ฟ้อง ฆ่ากันตายเป็น หนังเลือดล้างตระกูล --- "คือ ประมาณว่า คนส่วนใหญ่ ด้วยรายได้ อย่างคนไทย จะรวยได้ ต้องกินบุญเก่า เป็นหลัก ..เอ๊ะ!! แล้วมันมีไหมล่ะ --ที่สามารถรวยได้ด้วยตัวเอง!!"
"มีครับ" ...หนึ่ง เป็นเจ้าของกิจการ สู้แล้วรวยเหมือนเสี่ยตัน โออิชิ ..สอง ลงทุนแล้วรวย เช่น ซื้อหุ้นเซ็นทรัล ที่ราคา 20 สตางค์ ตอนเซ็นทรัลจะเจ๊ง หลังต้มยำกุ้ง แล้วถือไม่ยอมขายประมาณ 8 ปี ไปขายอีกที 30 บาท ..ก็จะรวยเพิ่มขึ้นประมาณ 140 กว่าเท่า ...อะไรประมาณนั้น (กล้าในสิ่งที่ควรกล้า ในเวลาที่คนส่วนใหญ่ไม่กล้า..คือกล้าแต่ไม่โง่ -- โอโห!! รวยชัวร์ครับพี่น้อง) --- ประเด็นคือ มันไม่ง่ายอ่ะดิ!!
นี่แหละที่มาของ S2M รวมตัวคนเก่งที่มีแนวทางการลงทุน ที่มันเข้าท่า!! (บางคนรวยแล้ว บางคนเดินในทิศทางที่มันเข้าท่า Make Sense ว่างั้น) ก็รวมตัวกันมาด้วยกฏแรงดึงดูด "คือ คนเก่ง และคนที่มีอนาคต ก็จะถูกดูดมารวม กับคนที่มีอนาคต" จากนั้น ก็เดินไปพร้อมๆกัน ภายใต้หลักการของการ "ยิ่งให้ ยิ่งได้" ...ประมาณว่า ถ้าเราทำให้คนส่วนใหญ่ มีเงิน และเก่ง ด้วยการให้แนวคิด หลักการลงทุน หลากหลายแนว (ให้เลือกที่เหมาะกับตัว) ..สิ่งเหล่านี้ก็จะสะท้อน เป็นสิ่งที่ดีกลับมาสู่ผู้ให้ ซึ่งก็คือ พวกเราที่โดนดูดรวมกันเข้ามา ก็จะสบาย รวยไปด้วย และก็สนุกที่ได้ทำ ... พันธนาการก็คือ ความเหนื่อย และเสียงด่า จากผู้ที่ไม่เข้าใจว่าเราทำไปทำไม แต่เราก็ไม่สนเพราะเรา เอาความฮา มานำ..หุ หุ
ตอนนี้ก็ ถือว่าพวกเรา S2M เดินมาไกลพอสมควร คนเก่งๆด้านการลงทุน ก็เข้ามาร่วมอุดมการณ์ การพัฒนาความรู้แก่รายย่อย ซึ่งถ้าทำได้ ตลาดทุนของเราก็จะใหญ่ขึ้น มีผู้มีความสามารถมากขึ้น ..ผมเองมองคนไทยว่า เราไม่แพ้สิงคโปร์ ดังนั้น การรวมตัวของ ASEAN ใน AEC จะเปิดโอกาสให้ไทย เป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญของภูมิภาค ..ซึ่งจุดนี้จะไปถึงไม่ถึง ขึ้นกับว่า ประเทศเรามีนักลงทุนที่มีความสามารถเพียงใด ..และนี่คือ เป้าหมายการพัฒนายอดฝีมือเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย(อย่างมีปัญญา)นั่นเอง (ใหญ่โคตร --แต่ไหนๆ เดินก้าวแรกแล้ว ก็เดินไปเรื่อยๆ จะถึงไม่ถึง ก็ได้มันส์วะ..หุ หุ)
ตอนนี้ S2M ได้รับความสนใจจาก Broker และ สถาบันต่างๆ เข้ามาให้ความสนใจ ..ซึ่งแน่นอน ตอนนี้เราพยายามสุดๆ และกำลังทำอย่างหนัก ก็คือ การพัฒนาหลักสูตร การเรียนรู้ทางด้านการลงทุน ให้เป็นรูปธรรมชัดเจน ซึ่งทั้งผม ป๋ากิ้ง น้องพีร์ ป๋าหยง ป๋าปุย และ ทีมงาน S2M ก็กำลังร่างหลักสูตร การเรียนรู้ให้ครอบคลุม เพราะท้ายที่สุดผมเชื่อว่า ไม่มีการลงทุนใดที่ตอบสนองทุกคน จึงต้องมีความหลากหลาย แต่จุดหมายที่สำคัญที่สุดคือ "ความเข้าใจ หรือ ปัญญา นี่แหละ ที่ไม่ค่อยมีการสอนกัน ... ส่วนใหญ่ชอบสอนให้โลภ ให้โง่ ให้ซื้อตามผมนะ ..เอ่อ ถ้ามันแม่น 100% เขาจะเอามาบอกคุณทำไม (ไม่มีใครรู้อนาคตหรอกครับ ต้องคิดเอง)"
เอาเป็นว่า ผู้ที่สนใจศึกษาการลงทุน ในแบบของ S2M ก็ขอให้อดใจรออีกนิด เพราะเราจะประชาสัมพันธ์และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม
เกริ่นภาพคร่าวๆก่อน อย่างผม กับ ป๋ากิ้ง จะเป็น Basic การลงทุน ..คือ ก่อนอื่นเราต้องรู้ว่า ลงทุนเพื่ออะไร แล้วจะลงทุนอย่างไร ให้มันเหมาะกับเป้าหมาย และนี่แหละ หน้าที่ผม และ ป๋ากิ้ง ทั้งหลักสูตร และ หนังสือต่างๆที่ออกมาภายใต้ สำนักพิมพ์ stock2morrow
น้องพีร์ (Wizard kid) จะเป็น เซียน Day Trade ตัวจริง ที่เขา Trade for a Living... แต่ของอย่างนี้มันเลียนแบบกันไม่ได้ แต่แนวทางมันเอามาศึกษาได้ "7 เทคนิค ฟันกำไร หุ้นเดย์เทรด" ..วิธีจริง ที่ไม่กั๊ก !!
Monkey Trade จะเป็น สำนัก Technical ที่จะเล่นในรอบที่ใหญ่ขึ้น แต่ก็ยังเป็น Trend Follower ซึ่งป๋าหยง ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่หันหลังให้กับเงินเดือนหกหลัก มารับก้อนที่โตกว่า ด้วยฝีมือ (อิสระ) !!... เราก็ได้ออกหนังสือ "ฟรีด้อมเทรดเดอร์" เพื่อเปิดโลกมุมมองการลงทุนในแนวทางนี้ ...ก็ผมและป๋าหยง ก็ดูแลสำนักนี้อยู่ ...เน้นความฮา ตระหนักรู้ + ฮา แต่ไม่ถึงขั้นเอาถาดตีหัว เหมือนตลกคาเฟ่!!
"Go with the Flow" เป็นหลักสูตร ปูพื้นฐาน สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่อง Technical เลย ไปจนเดินได้ ..แต่ถ้าจะวิ่ง--ไปวิ่งเอง..หุ หุ --อันนี้ ป๋าปุย เจ้าสำนัก Wave Rider Club รับอาสา จัดใหญ่!! งานนี้บอกได้เลยว่า "เจ้ามือขาใหญ่ ต้องร้องจ๊าก ..เพราะรายย่อย จะไม่หมูอีกต่อไป"... ไม่ยอมหมู ..ฮ่า ฮ่า
นอกจากนี้ พี่ๆเพื่อนๆ เซียนๆ อย่างพี่หมอจารวย ป๋าหวัด และ สารพัดนักเทรดระดับเซียนใน S2M ก็ยังวนเวียน ถ่ายทอดความรู้กันในชุมชนแห่งนี้อย่างต่อเนื่องที่ www.stock2morrow.com ... "ต่อไปจะเป็นอย่างไร เจ้ามือ จะไม่พอใจเพียงใด อันนี้ เราไม่อาจรู้ได้ ..มันเป็นความมันส์ ที่พวกเราได้เดินมาในแนวทางของการให้ และรับ(ทรัพย์ไปด้วย.. เห็นไหมการให้ เราก็ได้ด้วย ไม่ได้บ้าบอ อย่างที่หลอกหลวง เหล่าประชาชี..อิ อิ) ...เอาล่ะ ค่อยๆเดิน ร่วมกันสร้าง ชุมชนแห่งการลงทุนไปด้วยกัน ใครอยากเรียนก็เข้ามาเรียน ใครอยากถ่ายทอดก็เดินเข้ามา (แต่พวกมั่วๆ หวังมารวยเร็ว ล่อลวง อะไรนี่ ไม่เอานะ ไม่เอา) -- มันส์ไว้ก่อนพ่อสอนไว้..อิ อิ"
อีกก้าวของการพัฒนานักลงทุนรายย่อย ...โย่ว!!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 จุด ในงบการเงินที่ใช้ในการจับผิด จับโป๊ะหุ้นเด็ด !! 1. ’Net Profit Margin’ …ขาย 100 บาท ได้กำไรกี่บาท ? …ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งแสดงว่า การแข่งขั...
-
6 หลักการ คัดหุ้นปันผลดีเติบโตแล้วเลี้ยงเราได้ไปยาวๆ หลักการนี้สำหรับ คนชอบซื้อแล้วถือ กินปันผลยาวๆ 1. ‘หุ้นมี Market cap ขนาดใหญ่‘ …หุ้น...
-
7 ข้อ ‘มิตร’(ฉาชีพ) กับ การลงทุน 1. ‘คนที่โกงเราได้คือคนที่เราไว้ใจ’ …ถ้าเราไม่ไว้ใจเราคงไม่เอาเงินให้เขาตั้งแต่แรก 2. ‘ข้อเสนอของเขามัน T...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
^^
ตอบลบjust begin haha
ขอส่งกำลังใจเชียร์งานใหญ่ให้สำเร็จ อยากเรียนด้วย
ตอบลบติดตามด้วยความสนใจใคร่รู้ค่ะ
ตอบลบสนใจมากๆ ครับ ปรกติเทรดแต่ตลาดสปอต อยากได้ความรู้ไปทดลองเทรดกับตลาดสปอต จะได้ไหมครับ
ตอบลบ