แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554

มีคนถามว่า ผมเปลี่ยนแนวหรือ !!

(ใครว่างก็เข้าไปดู สัมภาษณ์ผมในรายการ Voice of the day วันเสาร์นะครับ "อีกมุมนึง ที่ไม่ฮา..แต่บันดาลใจ".. คลิ๊กที่ภาพเข้าไปดูได้เลยครับ)

"เห็นออกหนังสือเล่มใหม่ ฟรีด้อมเทรดเดอร์ ..มีคนถามผมว่า คุณแพ้ทเปลี่ยนแนวหรือ!!" ..อันนี้ต้องบอกว่า ฮึม!! การเรียนรู้มันมีข้อจำกัดด้วยหรือ นึกว่ายิ่งเรียนยิ่งรู้ ยิ่งรู้ยิ่งเข้าใจ เมื่อปฏิบัติจึงเกิดปัญญา และนำมาซึ่งเงินตราที่มากโข หลังจากนั้น.. (คนถามถึงกับ งง ในคำตอบที่ได้..)

จริงๆแล้ว การลงทุน มันไม่ควรจำกัดว่าเราเป็นแนวทางไหน ..ซึ่งจริงๆต้องยอมรับว่าก่อนที่ผมจะเข้ามา Join ในชุมชน S2M ผมเองไม่ได้สนใจ Technical Analysis เลย ..แต่ก็โชคดีที่แนวทางของ S2M เป็นทางที่เปิดโอกาสให้กับนักลงทุนทุกแนว และ นี่เองที่ผมเข้ามาเจอกับ นัก Technical เก่งๆ ระดับประเทศหลายๆคน ..อย่าง Monkey Trade เดิมเป็น Blog ที่ก่อตั้งขึ้นมา หาจุดร่วมระหว่าง การใช้ Fundamental กับ Technical ว่ามันเดินไปด้วยกันได้หรือไม่ ..เพราะก่อนหน้านี้ ใครเล่นแนวไหน ก็จะจับกลุ่มอยู่กับแนวทางนั้น แล้วก็จำกัดตัวเองชัดเจนอยู่แค่นั้น!! ..ซึ่งผมกับ Trader ลึกลับ มองว่า "มันจำเป็นด้วยหรือ ที่คุณจะต้องปิดกั้นการเรียนรู้ เฉพาะแนวทางใดแนวทางหนึ่ง เพียงเพราะทัศนคติที่ไม่เปิดกว้าง" --- และนี่คือ จุดเริ่มต้นของ Monkey Trade ...แต่น แต้น !!!

การแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่าง "ผม" กับ "Trader ลึกลับ" มันได้อะไรดีๆมากมาย จะว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นของความกวนก็น่าจะใช่ ..เพราะสิ่งที่เราค้นพบมันเป็นอะไรที่กวนมาก อย่างเช่น แนวทางการ Trade ของคนส่วนใหญ่ที่ไม่ Success เพราะคนส่วนใหญ่ ทำตรงข้ามกับวิธี Trade ที่ทำกำไร (แค่นี้ก็กวนแล้ว..หุ หุ)

"การ Trade ที่ทำกำไร" จริงๆมันวางอยู่บนระบบอะไรก็กำไร(จริงหรือ)... "ระบบอะไรก็กำไร หากวางบนหลักการของ การ Let Profit Run เมื่อมาถูกทาง และก็มีจุด Stop Loss เมื่อผิดทาง" ..แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดจริงคือ คนส่วนใหญ่ Let Loss Run แต่เวลาถูกทางกลัวๆกล้าๆ ดัน Stop Profit ซะงั้น ..แล้วมันจะรวยได้อย่างไร!! (งง โคตร)

ก่อนการเขียน "ฟรีด้อมเทรดเดอร์" ผมและ Trader ลึกลับ ก็เปิดคอร์สสัมมนาใน S2M by "Monkey Trade" ซึ่งยอมรับว่า ฮือฮามาก ..(ฮือ คือ โอดครวญในความยาก และ ฮากลิ้ง ที่เราเอาถาดมาตีหัวกัน..อิ อิ --ล้อเล่น จริงๆ ฮือฮามาก เพราะมันเป็นการสอน Technical ในรูปแบบใหม่ ที่วางอยู่บนความจริง!!)

อ้าว!! งั้นแปลว่า Technical ส่วนใหญ่ไม่จริง.. หุ หุ ไม่ใช่อย่างนั้น ...ปัญหาคือ คนที่เรียน Technical ส่วนมากถูกจูงให้มอง Technical เป็นสูตรเลขตายตัว 1+1 = 2 ซึ่งนั้น "บ้ามาก" (ไม่ใช่เลย) ... เพราะถ้า Technical มันคือสูตรเลข ผมถามหน่อยว่า ถ้าแม่นยำ 100% เขาจะเอามาสอนคุณทำไม สู้เก็บไว้เล่นเองไม่ดีกว่าหรือ ..ใช่ไหม!!

ดังนั้นจริงๆแล้ว Technical มันคือ ความน่าจะเป็น ซึ่งเป็นการศึกษาที่ใช้ศาสตร์ของสถิติ + จิตวิทยาของตลาดที่แปรเปลี่ยนเป็น Chart ที่เอามาให้เราดูนั่นแหละ ... "นี่แหละความ ฮือฮา ของ สัมมนา Technical โดย Monkey Trade ...เราวางบรรทัดฐานของ Technical บนปัญญา ไม่ใช่วางบนความโลภ (ความโลภ เท่ากับ ความโง่ ..บวกกันเท่ากับ หมดตูด..อิ อิ อิ)

-- หลักการ Technical ที่ดี จึงเป็นวิธีที่พวกเรา ลองใช้แล้วเห็นว่ามันดี แต่เมื่อคุณเอาไปแล้ว ต้องลองไปปฏิบัติ และถ้ามันดีกับคุณ ก็ให้เอาไปใช้.."เอ๊ะ!! เหมือนหลักธรรมมะ ..ก็นั่นแหละ อย่าเชื่อ ให้ไปลอง ถ้าดีก็รับไป ถ้าไม่ดีก็ปรับไป ..และที่แน่ๆ พอคุณ Trade ไป คุณก็จะปรับตาม "คุณ" -- เหมือนขี่จักรยานนั่นแหละ ตอนแรกก็ขี่กันตามที่สอน แต่พอเป็นแล้ว แต่ละคนก็มี Style ที่แตกต่างกันออกไป"-- มันเป็นแค่นี้จริงๆ ดังนั้น ต้องค่อยๆเริ่ม ค่อยๆเรียนรู้ อย่าโลภ ..พอเก่งแล้วค่อยแรง!! (ดีกว่าไหม)

Technical เป็นการเข้าใจ และอ่านทิศทางของราคาให้ออก และเข้าใจความเสี่ยงในทุกไม้ของการ Trade ..การศึกษาเครื่องมือที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Chart Pattern , Candle Stick , Trend , Elliot Wave รวมถึง เทคนิคหุ้น 4 มิติ ที่คิดค้นโดย Trader ลึกลับ(เด็ดตรง 4 มิตินี่แหละ ฮามาก..หุ หุ หุ) ..ทั้งหมดนี้จริงๆเป็นแค่ส่วนประกอบ ที่ใช้สกัดมันหมูออกจากเนื้อที่เราจะรับประทานนั่นเอง.. ดังนั้น เมื่อไม่มีอะไรที่ 100% ..การ Trade จึงคู่กับการเข้าใจความเสี่ยงในทุกครั้งที่ลงทุน และมีจุด Stop Loss เสมอ

"อย่างนี้ ก็มีคนถามผมว่า ถ้าผม Stop Loss ไม่เป็นและทำใจไม่ได้ จะทำอย่างไร" ...ใช่เลย!! คุณก็ไม่ควร Trade น่ะซิ ...ถ้า Stop Loss ไม่เป็น ผมขอแนะนำให้คุณมาศึกษาแนว VI อย่างผม ..แต่ที่สำคัญอยากบอกว่า ประเภทของหุ้น VI กับ Technical มันหุ้นคนละแนวกัน ..ดังนั้น พวกที่เล่นหุ้น เข้าด้วยหลัก Technical แล้วจะออกด้วย VI ..นั่นบ้าไปแล้ว ..ไม่ใช่เลย!! อย่ามั่วขอร้อง !!

เอาล่ะ เขียนมาถึงจุดนี้ คงทำให้หลายๆคนเห็นภาพแล้วใช่ไหมครับว่า ผมไม่ได้เปลี่ยนแนว เพียงแต่ผมเปิดใจตัวเอง ให้ศึกษาแนวทางที่กว้างขวางขึ้น ..ผมจึงมีมุมมองการลงทุนที่กว้างขึ้น ...คนที่เข้าใจภาพใหญ่อย่างพวก Fundamental แล้วมาศึกษา Technical จะทำให้เข้าใจ จังหวะในการซื้อขาย..เพราะแน่นอน Fundamental บอกเราได้แค่ว่า หุ้นถูกหรือแพง แต่การที่จะสามารถหาจังหวะ การเข้าออก ..ต้องอาศัยศาสตร์ทางด้าน Technical Analysis เป็นส่วนสำคัญ!!

"แล้ว Commodity ล่ะ ..น่าสนใจยังไง" ..แน่นอนน่าสนใจมาก ...มันคือ ต้นทุนของทุกสิ่ง ตั้งแต่ น้ำมัน ยัน น้ำตาล วิ่งไปทอง เงิน ทองแดง กลับมาข้าว ..ไปถั่วเหลือง ..ตั้งแต่เบียร์ช้าง ยันซีพี ไป ปตท. จะมีหน่วยงานเล็กๆ ที่เงินเดือนสูงมาก มีไม่กี่คน แต่มีความสำคัญยิ่งยวดต่อองค์กร ..ใช่ นั่นคือ Trader ที่ Control Risk ในส่วนของวัตถุดิบที่เรียกว่า Commodity ... ความผันผวนสุดโต่ง อย่างปัจจุบัน ...ส่วนนี้คือ หัวใจ -- และความรู้ตรงนี้ จำกัดอยู่ในวงแคบ ...แต่วันนี้ ฟรีด้อมเทรดเดอร์ จะเปิดความรู้ที่สำคัญยิ่งยวดนี้ Commodity + Technical ..พาคุณเดินทางสู่ ชีวิตอิสระ ที่เลือกได้ (เอ่อ!! ว่าแต่ ก่อนจะอิสระนี่ ต้องศึกษา ทุ่มเท ...ไม่มีผู้ใด เกิดมาเป็น Superman แน่นอน ...เอาเป็นว่า เรามาร่วมเดินทางไปด้วยกัน .....กับทีม Monkey Trade ที่ก่อตั้งโดย ผม และ Trader ลึกลับ "ยินดีต้อนรับเพื่อนๆทุกคน เข้ามาศึกษา ศาสตร์ของ Technical & Commodity และการลงทุนที่ปรับใช้ด้วยปัญญา"

คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันครับที่ Facebook "หนังสือ ฟรีด้อมเทรดเดอร์" ....(หุ้น การลงทุน และ ชีวิตอิสระ) ณ บัด Now!!

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ20 มีนาคม 2554 เวลา 15:50

    ขอถามนิดนึงครับ เห็นว่าคุนเเพททำงานประจำอยู่ที่ธนาคารด้วย ไม่ทราบทำเกี่ยวกับตำเเหน่งใด

    เเละมีการจัดการเกี่ยวกับเรื่องของเวลาอย่างไรบ้างครับ ถึงได้ทำ blog เเละกิจกรรมอื่นๆได้มืออาชีพขนาดนี้

    ตอบลบ
  2. สวัสดีค่ะ

    แวะมาทักทายนะคะ

    http://rattanapornnursinghome.blogspot.com

    ตอบลบ

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ