แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

"อยากเป็นลูกจ้าง" หรือ "อยากเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว" ..ใครช่วยเราได้


ผมเจอคำถามนี้เยอะมาก "อยากเป็นเจ้าของกิจการ ต้องทำอย่างไรบ้าง" ..เหมือนเขาต้องการหาคำตอบที่เป็นสูตรสำเร็จ ..อยากบอกตรงๆ แบบไม่ให้เสียกำลังใจนะ ว่าจริงๆ สูตรสำเร็จของการเป็นเจ้าของกิจการส่วนตัวมันไม่มีนะ ...อย่าได้คิดว่า มีเงินหนึ่งก้อน แล้วไปซื้อหนังสือ วิธีการทำร้านกาแฟ แล้วคุณจะมาเปิดแล้วสุดท้ายเป็น Starbucks ..ไอ้ที่ว่า ได้เปิด ถ้าเรามีเงิน เราได้เปิดแน่ แต่สุดท้ายมันเจ๊งไง -- แล้วเอาไงดี ??

การสร้าง The Stock Master ขึ้นมาจริงๆ เราอยากสร้าง Community ที่เริ่มจากการลงทุนเป็นแก่น ...เพราะไม่ว่าคุณจะต้องการมีอาชีพใดก็ตาม สุดท้ายคุณหนีไม่พ้นเรื่องเงินที่คุณต้องจัดการอยู่ดี ..ขนาดคุณเป็นศิลปิน ติสแตก แค่ไหน ท้ายสุดก็ต้องมาจัดการเรื่องเงินในที่สุด -- มันมีทางเลือกอยู่สองทาง คือ หนึ่ง ทางเลือกที่พี่โน๊ต เลือกคือ จัดเดี่ยว แล้วได้เงินเยอะมาก เอาไปให้คนอื่นจัดการ ผลก็คือ เราได้ดู "เดี๋ยว" กันอีกหลายครั้ง..55 เพราะ เงินมันหายหมด ...สอง ทางเลือกที่เรามาศึกษา วิธีการจัดเงิน แล้ว สุดท้ายเราก็สามารถ เอาเงินนั้นมาจัดการ ไม่ว่าจะเป็น การปลูกเงินทำงานในระยะยาว หรือ จะเป็นการเก็งกำไรแบบมีแบบแผน ก็ทำได้ตามแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเรา

ไหนๆ ก็เกริ่นเกี่ยวกับ The Stock Master ก็ขอเล่าต่อไปละกัน ว่า "หลักทรัพย์บัวหลวง" เขาเข้ามาเป็นแม่งาน คือ มาสนับสนุน มันไม่ใช่มีแต่รายการ Reality แต่ก้าวต่อไป คือ การสร้าง Center จริงๆ ขึ้นมาเป็นศูนย์กลาง ให้ความรู้แก่เพื่อนนักลงทุนอย่างจริงจัง ...อย่างงานสัมมนาใหญ่ The Stock Master มือใหม่ Day ที่ผ่านมา เราได้ทางตลาดเข้ามาช่วย แถมบอสใหญ่ คุณ จรัมพร ก็มาดูงานเองเลย อันนี้สุดยอดมาก ...เอาเป็นว่า เดี๋ยวต้นปีหน้า เพื่อนนักลงทุนจะได้มี Center และ กิจกรรม "แนวๆ" ในการเป็น One Stop ทางองค์ความรู้ และ ชุมชนย่อย ที่เป็น ศูนย์กลางในเรื่องของการลงทุนที่เหมาะกับอาชีพของตัวเอง โดย เราจะมีการนำ The Stock Master รุ่นที่แล้ว ที่เขาเป็นตัวแทนในอาชีพต่างๆ ผลัดกันมาให้ความรู้ ..."คุณเชื่อเถอะว่า คนที่ยิ่งแบ่งปัน ความรู้ เขายิ่งได้รับโอกาส และ ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง" ที่บอกอย่างนั้น เพราะ เรื่องการแบ่งความรู้แล้ว ได้รับโอกาส มันเกิดกับตัวผมเองจริงๆ ..การที่ผมได้เข้ามาเป็นที่ปรึกษาการลงทุนให้บัวหลวง มันเป็นการต่อยอดโอกาส จากที่ผมแบ่งปันความรู้การลงทุน จนในที่สุดบัวหลวงก็เห็นว่า แนวทางนี้ควรได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง ...นั่นเป็นที่มาของ การสนับสนุนทุกอย่าง เพื่อสร้างชุมชนของ "รายย่อย เพื่อ รายย่อย" อย่าง The Stock Master ขึ้นมา โดย บัวหลวง อาสา ออกเงินสนับสนุน และ เป็นพี่เลี้ยงในการให้ความรู้ การลงทุนในแบบที่ถูกต้อง ..."วิสัยทัศน์หล่อ มันเป็นเยี่ยงนี้เอง..อิ อิ"

เอาว่า "รอต้นปี" ..ผม และ The Stock Master จะเริ่ม "ปล่อยของ แบบจัดหนัก" ..แต่จะเป็นอะไรนั้น ขอให้อดใจรอกันสักนิด --- ระหว่างที่รอ ก็มาร่วมศึกษา แนวทางการลงทุน กันได้ในwww.facebook.com/thestockmaster แห่งนี้กันก่อนละกัน

กลับมาเรื่องการ อยากเป็น เจ้าของกิจการ ...ผมขอแนะนำเลยว่า ให้คนรุ่นใหม่ใจเย็นๆ ...อย่างแรกของความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจใดก็ตาม คุณต้องมี หนึ่ง ความเชียวชาญ และ สอง คุณต้องเข้าใจลูกค้า ... จริงๆ มี สาม คือ ต้องมีเงิน ..แต่เรื่องเงิน ถ้าคุณเก่งพอ มันสามารถใช้ Other People Money ได้ ประเด็นนี้น่าสนใจ เพราะ ตัวผมเอง ผ่านมาทั้งสองแบบ ...ครั้งแรก ผมคิดว่าผมเก่ง ผมก็เลยเอาเงินของ My Family มาละเลง ทำธุรกิจตามที่ผมฝันไว้ แต่สุดท้ายผมก็มารู้ว่า จริงๆ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่ฝัน ..ถ้าย้อนเวลาคิดในจุดนั้น บอกได้เลยว่า มันพลาดตั้งแต่เริ่ม เพราะ ความพร้อมเราไม่มี แต่เราดันทุรัง เพราะ นึกว่าตัวเองเก่ง ...

เวลาผ่าน ความคิดก็เปลี่ยน ...วันนี้ผมแทบไม่มีธุรกิจไหน ที่เริ่มจาก เงินเลย ...การทำงาน แนวคิดทุกอย่างจึงเปลี่ยน ...ถ้าถามว่า ไม่เริ่มจากเงิน แปลว่า ธุรกิจไม่ต้องใช้เงิน ใช่หรือไม่ ...ก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ ...ทุกธุรกิจในโลก ต้องใช้เงิน เพราะ เราอยู่ในโลกของทุนนิยม ...แต่ความเข้าใจ กลบทมันต่างกัน ..คือ คนที่เข้าใจในธุรกิจเพียงพอ มันต้องเริ่มในส่วนที่ไม่ใช้เงิน ...อย่างช่วงหลังๆ นี้ ผมได้คุยกับ เจ้าของธุรกิจมากมาย ที่เขาเริ่มจากไม่มีเงินเลย ...ที่สัมภาษณ์ล่าสุดก็อย่าง OOKBEE คนทำ Ebook ..ที่เขาเริ่มจาก รับงานฝิ่น งาน Freelance ต่างๆ แล้วค่อยๆ ฝึกฝีมือ จากนั้นก็รวมตัวกันเป็นบริษัทเด็กแนวๆ ทำงานเกี่ยวกับ Software ที่ตัวเองถนัด ...วันนี้เขาได้ INTUCH เอาเงินมาลงทุน เป็น Venture Capital ให้ ใส่เงินมา 59 ล้าน ..แล้วตีค่าธุรกิจให้ 240 ล้าน ...ทำเพื่อสุดท้ายระดมทุนในตลาด ให้เป็นมหาชน --- ครับ ผมกำลังจะบอกคุณว่า ธุรกิจแบบนี้ เริ่มจาก "ความสามารถ" แล้วก็ค่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ จากการเข้ามารับงานจากโลกความเป็นจริง โดยเป็น Freelance จากนั้น ก็ค่อยๆ ปรับ ระหว่าง ความฝัน ที่ตัวเองมี เข้ากับโลกความจริง ว่า สิ่งที่เราคิดมันสามารถทำเงินจริงๆ ได้หรือไม่ ... "ไอ้ Model ที่ผมเล่ามา จริงๆ ก็ไม่ต่างจาก Facebook , Google หรือ บริษัทใน Silicon Valley เท่าไหร่ ...คือ มันมี ความสามารถเป็นแก่น ...ส่วนเงินมันใช้เงินคนอื่น ...วันนี้โชคดีที่คุณและผม เริ่มเข้าสู่ยุคที่ เราเริ่มเข้าถึงโอกาสที่ ไม่ต้องเริ่มธุรกิจจากเงิน แต่เริ่มจากความสามารถ"

โอเค เริ่มความเข้าใจของ Start Up 101 คือ "เริ่มที่ความสามารถ" .... คำถามคือ แล้ว อะไร ล่ะ !!

ผมแนะนำเลย ว่า อย่างแรก คุณต้อง จูนความฝันที่คุณมี เข้ากับ โลกความจริง ...โดย การลองรับงาน ที่เขายอมจ่ายเงินคุณเป็นเงินจริงๆ เช่น ถ้าคุณเป็นนักศึกษา ลองหางาน Freelance ที่คุณกับเพื่อนๆ รวมกลุ่ม ไปรับงานบริษัท ทำอะไรก็ได้ ที่คุณและเพื่อนๆเก่ง ..ถ้าเล่าในส่วนของผม สมัยผมอยู่มหาวิทยาลัย ผมรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ไปรับงานสร้าง Website ให้บริษัทแห่งนึง ...บอกตรงๆ ผมเอง เขียน Website ไม่เป็น แต่ผมไปหาเพื่อนที่มันเก่ง ...จากนั้นผมก็รวมกลุ่มเพื่อนๆ อีก 2-3 คน เข้ามาทำเรื่อง Content ...ถามว่าสำเร็จไหม ก็ต้องบอกว่า ไม่สำเร็จ แต่สิ่งที่ได้คือ ผมและกลุ่มเพื่อนๆ ได้ค่าขนมในการทำงาน และ ก็ได้เรียนรู้ว่า การหาเงินจริงๆ ในธุรกิจจริง กับความฝันของเด็กมหาวิทยาลัย มันต่างกันอย่างไร ...บอกตรงๆ ว่า สิ่งที่ผมได้รับ มันมากกว่าเงิน แต่มันทำให้ผม เข้าใจโลกมากขึ้น ..สุดท้ายมันกลับมาช่วยให้ การเรียนผมยิ่งดีขึ้น ..เพราะ จากจุดนั้น ผมก็ทำธุรกิจอื่นมาเรื่อยๆ อย่างขายตรง ผมยังไปเจอ อาจารย์เป็น Upline เลย ...ถามว่าแล้วขายตรงผมสำเร็จไหม ก็ไม่สำเร็จ แต่ผมก็ได้สนิทกับอาจารย์ และได้แลกเปลี่ยนมุมมอง เปิดโลก และการเรียนรู้ให้ผมมากกว่า แค่เรียนไปวันๆ ในตำรา ... ไม่รู้ซิครับ ผมว่า เดี๋ยวนี้ การที่คนๆ นึงจะเก่ง และ ประสบความสำเร็จ มันไม่ได้เป็นเส้นตรง หรือ สูตรสำเร็จ ...แต่มันเป็นการรวบรวม และ เก็บเกี่ยวประสบการณ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

แล้ว เมื่อเริ่มรับ งาน Freelance แล้ว เอาไงต่อ !!

ก็ Keep Walking เก็บเกี่ยว ประสบการณ์ และ ความรู้ ... สิ่งที่คุณจะเจอ แล้วสอนคุณตลอด คือ "ปัญหา" ...ครับ ทุกอย่างที่คุณทำในโลกนี้ ต้องเจอปัญหา แน่นอน ...คนที่เก่งเพราะเขา เจอปัญหาแล้วอยากแก้ ..."เข้าใจคนแนวนี้ไหม ..อะไรง่ายๆ ให้คนอื่นทำไป ...อะไรยาก ส่งมาให้กู..ฟังดูฮา แต่คุณรู้ไหม ไอ้คนแนว Troble Shooter สุดท้ายแม่งได้ดีทุกคน ..ไอ้เพื่อนผมหลายๆ คน วันนี้ มีธุรกิจใหญ่โต บางคนเป็นผู้บริหาร ก็มาจากไอ้แนวความคิดแบบ ยากให้กู นี่แหละ!!"

ก็ประมาณนี้ ...ใครที่สนใจ อยากเป็นเจ้าของกิจการ ให้เริ่มจาก "ปรับความฝัน ให้เข้าสู่ Mode ความจริง" โดย การไปขาย Idea ให้บริษัท หรือ ธุรกิจ ลองรับงาน Freelance หรือ Outsource ดู ... "ถ้าไม่มีใครจ้าง ให้คิดไว้เลยว่า หนึ่ง คุณ Pitch งานไม่เป็น ไปฝึกใหม่ ...ฝึกให้คุณ ขาย Idea ให้ได้ เพราะเชื่อผมเถอะ ถ้าคุณขาย Idea แลกเงินไม่ได้ อย่าหวังจะเป็น นักธุรกิจ ร้อยล้าน พันล้าน ..คนเหล่านั้น จริงๆ แม่งทำอะไรไม่เป็น แต่เก่งขาย Idea คือ Idea เขาขายได้ จากนั้นเขาก้หาคนมาทำ ...อย่าคิดว่าตลกนะ อย่าง Bill Gates ที่เขารวยสุดในโลก ก็มาจากขาย Idea ให้ IBM นี่แหละ ..ตอนที่เราขายได้ เขายังไม่มี Software ในมือเลย คิดดูดีๆ Bill Gates จริงๆ ก้เก่งจากตรงนี้แหละ -- ถ้าคุณเริ่ม ต้องเริ่มจาก หน้าด้าน ...ใช่!! หน้าต้องด้าน แล้ว ขายให้เป็น เอา Idea แลกเงินให้ได้ ..เริ่มจาก Freelance และ Outsource เล็กๆ นี่แหละ ลองดู!!"

โอเค ...ไปลองคิดกันดูครับ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ