‘6 ข้อ เล่นหุ้นให้กำไรไม่ยาก แต่เล่นหุ้นให้พอร์ตโตโคตรยาก’
ซื้อหุ้นมา พอเด้งขึ้นก็ขาย กำไรหมูๆ ...แต่ปัญหาของหลายๆคน ที่มาปรึกษาก็คือ
‘กำไรเรื่อยๆ นะ แต่ทำไมพอร์ตไม่โตสักที ?’
1. ‘ก็เหมือนทำงานหาเงินไปวันๆ บางคนได้เงินมหาศาล แต่ก็ไม่รวยสักที’ ....การเล่นหุ้นก็เหมือนการทำงานหาเงินปกติแหละ แต่ถ้าอยากพอร์ตโต ต้องวางแผน ...ใช่!! ‘แผนสร้างพอร์ตให้โต’
2. ‘แผนพอร์ตโต ต้องเริ่มจากเปิด 2 พอร์ต’ ...พอร์ตนึงเอาไว้เล่นทำกำไรระยะสั้น ...ส่วน พอร์ตสอง ต้องเอาไว้เก็บหุ้นระยะยาว ...พอร์ตสองนี้ ทำหน้าที่ซื้อหุ้นแล้วไม่ขาย เก็บไปเรื่อยๆ เหมือนออมเงินเลย (พูดง่ายๆ พอร์ตสอง เราซื้อหุ้นแล้วเก็บเหมือนเงินฝากธนาคารเลยแหละ)
3. ‘พอร์ตแรกจะทำกำไรให้เราเรื่อยๆ ...แต่พอร์ตสองจะเริ่มทำเงินให้เราจริงๆจังๆ หลังจาก 10 ปีผ่านไป’ ...พอร์ตแรก ก็คือ ‘เราทำงานเพื่อเงิน’ ...ส่วนพอร์ตที่สอง ก็คือ ‘ให้เงินทำงาน’ (ในที่นี้ เราให้หุ้นทำงานแทนเรา ..ที่เราได้คือ ปันผล ที่มันค่อยๆ โตขึ้น)
4. ‘พอร์ตแรก เล่นหุ้นตลาด ...พอร์ตสองเล่นหุ้นอินดี้’ ..หุ้นตลาดก็คือ หุ้นที่ใครๆ ก็เล่นกัน ...หุ้นยอดฮิต นั่นแหละ ...ส่วนพอร์ตสอง เราจะเก็บหุ้นที่คนไม่ค่อยสนใจ ไม่ค่อยมีใครเชียร์ อาจจะหุ้นขนาดเล็กหน่อย ที่ไม่มีบทวิเคราะห์ เราต้องวิเคราะห์เอง (ซึ่งไม่ยาก เรียนอ่านงบ ไม่กี่ชั่วโมงก็ทำเองได้แล้ว ...ส่วนที่ยาก คือ การฝึกฝน หาหุ้น และ ชั่วโมงบิน)
5. ‘พอร์ตแรกใช้เงินเยอะ ..พอร์ตที่สอง ใช้เงินน้อย’ ...ช่วงแรกเราก็มักจะอยากได้เงินเร็วๆ ก็เล่นพอร์ตแรกให้เยอะหน่อย ฝึกฝน การเข้าออก ซึ่งพอร์ตแรกนี้ ควรเล่นด้วยเทคนิค แล้วเข้าออกวาง Stop Loss (ถ้ามีเครื่องมือ Stop Loss อัตโนมัติแบบ TradeMaster ของบัวหลวง ช่วยนี่ ยังไงก็ไม่ติดหุ้น เพราะ เรากำหนดจุด Stop Loss เช่น 10% ได้ตั้งแต่ซื้อหุ้นเลย ...แปลว่า เลวร้ายสุด เราก็เสียแค่ 10% ไม่ติดหุ้น) ...พอร์ตที่สอง คือ เริ่มจากเงินน้อย ทยอยซื้อหุ้นถูก หุ้นต้นรอบ (จริงๆ พอร์ตสองนี่ ไม่ต้องตั้ง Stop Loss เลยก็ได้)
6. ‘ถ้าเราเล่นอย่างถูกวิธี เมื่อเวลาผ่านไป พอร์ตสอง จะเริ่มชนะ พอร์ตแรก’ ....เมื่อทำไประยะเวลาหนึ่ง พอร์ตสองจะเริ่มชนะพอร์ตแรก ...จากนั้น เราจะเริ่มรู้สึกตัวว่า ....เฮ้ย!! แค่ถือหุ้นรับปันผลก็สบายแล้ว แถมพอร์ตโตด้วย ..หลายๆ คนพอมาถึงจุดนี้ ก็จะเทรดน้อยลง เล่นยาวขึ้น
นั่นแหละ รู้ตัวอีกที พอร์ตเราก็โตแล้ว !!
ก็ลองเอาไปปรับใช้กันดูครับ ...จัดไป
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น