แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ถ้าเราตกงาน จะทำอะไรต่อดี

‘ตกงาน แล้วจะทำอะไรกิน ?’

ยุคนี้เราเห็นธุรกิจปิดตัวเป็นจำนวนมาก ...มีงานดีๆ อยู่ดีๆ ก็อาจตกงานได้ ..แล้วอะไรคือ ความมั่นคงของชีวิตล่ะ ?

ต้องตอบว่า สิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจให้มาก คือ Demand กับ Supply

อะไร มี Demand มีคนต้องการ ...สิ่งนั้นก็มีโอกาส มีเงินแฝงอยู่

ส่วน Supply คือ คู่แข่ง ...อะไรที่คนทำน้อย , ธุรกิจผูกขาด , มีจำนวนคนทำจำกัด - สิ่งนั้นก็สามารถทำเงินได้ดี

โอกาส มันอยู่ที่ อะไรก็ได้ที่มี Demand เยอะๆ และ มี Supply น้อย อันนี้มีโอกาสมีราคาเสมอ

- ในยุคก่อน คนทำสื่อ เสียงดัง กำไรดี ..แต่ยุคนี้ ใครๆ ก็ทำสื่อได้ ...เดี๋ยวนี้คนสนใจว่า “ใครพูด” ...คนธรรมดาเลยกลายเป็นสื่อได้ 

คนตัวเล็กเสียงดังขึ้น ...คนตัวใหญ่ ควบคุมมวลชนได้ยากขึ้น

- มีฝรั่งหัวใส สร้าง Cryptocurrency ที่ชื่อว่า Bitcoin ขึ้นมา ...ด้วยเหตุผลที่ว่า เงินในโลกนี้อย่าง Us ดอลลาร์ รัฐบาลพิมพ์เท่าไหร่ก็ได้ มันมี Supply ไม่จำกัด ...แต่ Bitcoin มีจำกัด ดังนั้น เขาเลยเชื่อกันว่าสิ่งนี้ระยะยาวราคาจะขึ้น ในขณะที่เงินดอลลาร์ระยะยาวมูลค่าลงตลอด ....ความตลกร้ายอยู่ที่ เมื่อมีคนเชื่อ idea นี้มากพอ ราคา Bitcoin ก็พุ่งขึ้นตาม Demand ที่มากขึ้น 

....จนถึงวันนึง คนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า Bitcoin สามารถขโมยได้ แม้ว่า Bitcoin จะไม่สามารถ Hack ได้ แต่ปรากฏว่า เขาปล้นจากตลาดแลกเปลี่ยนได้ ...กลายเป็น โจรสามารถปล้น Crypto แบบไร้ร่องรอย จับมือใครดมไม่ได้ แถมไม่มีคนกลางที่ช่วยเอาเงินมาคืนคุณ สรุป เงินนั้นหายไปเลย !! - ความเชื่อมั่นในสิ่งนี้จึงลดลง

ประกอบกับ ความเชื่อที่ว่า Bitcoin มี Supply ที่จำกัด ก็กลายเป็นว่า มันเริ่มไม่จริง ...เพราะถึง Bitcoin จำกัด แต่ Cryptocurrency อื่นๆ ก็เกิดเป็นดอกเห็ดแบบไม่จำกัด ...สุดท้าย Supply เพิ่มมากกว่า ดอลลาร์ แถมไม่มีตัวกลางในการบังคับ ดูแล ตรวจสอบ

ทุกวันนี้ ทุกคนเริ่มสงสัยว่า ตกลงโลกเรา ควรมี ‘คนกลาง’ หรือ ‘ไม่ควรมีตัวกลาง’ ...เราควรใช้เงินโดยไม่ต้องมีธนาคาร ดีไหม ?

แต่พอมีคนขโมยเงินเราไป หรือ เลขบัญชีหาย ..ปกติเราก็ให้ธนาคารช่วยจัดการ ...แต่ถ้าเลขบัญชี Crypto หาย เงินนั้นเอาคืนไม่ได้ ..หายไปเลย !! ...ถามหน่อยว่า เราจะเลือกแบบไหน ?

ที่เล่ามา วันนี้ยังไม่มีข้อสรุป ...มันคือ ความท้าทายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

- สินค้าหลายๆ อย่าง ในอดีต คนทำน้อย ...ใครทำก็รวย ...แต่วันนี้ใครก็ทำ เช่น การเปิดร้านขายของ ในอดีต ต้องไปเช่าที่ ต้องมีทุน ...ทำเลร้านค้า จึงสำคัญ ...แต่วันนี้ แค่มี FB , Instagram ก็มีร้านได้แล้ว ...’คนขายดัง จึงสำคัญกว่า ร้านทำเลดี!!’

- คนดังในอดีต ต้องมี ผู้ใหญ่หนุนหลัง เพราะเวที เป็นของรายใหญ่ (เวทีหรือช่องทางนำเสนอในอดีต มี Supply จำกัด แต่วันนี้มันเปิดแบบไม่จำกัด) ...แต่ทุกวันนี้ เวทีคือ Youtube , เวทีคือ Social ทั้งหมด ...’ผู้ใหญ่ใจดี จึงไม่สำคัญ เท่ากับ นักแสดงที่มีฝีมือ’

- หลายๆ ธุรกิจ เดิมผูกขาด Supply จำกัด จากรายใหญ่น้อยราย เช่น ธุรกิจเหล้า เบียร์ สัมปทานต่างๆ เพราะ ในอดีตเราเชื่อว่า การมีรายใหญ่และสัมปทานสามารถเก็บภาษีได้ง่ายกว่า รัฐบาลได้มากกว่า (แต่คนก็จ่ายแพง เพราะกลไกมันผูกขาด)

...แต่จากนี้ไป เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยน ...การเปิดเสรีในธุรกิจต่างๆ ที่เคยผูกขาด อาจเปลี่ยนแปลง

- เจ้าสัว ในอดีต คือ คนที่คุม Supply ..เน้นการผูกขาด 

- ลูกจ้างในอดีต คือ คนที่ทำสิ่งที่ใครๆ ก็ทำแทนเราได้ ...เมื่อตัวเรา ทำสิ่งที่ Supply ไม่จำกัด ...ก็ย่อมทำเงินได้ยาก จริงไหม ?

...ที่เล่าเรื่อง Demand และ Supply เพื่อจะ กระตุ้นต่อมความคิดของทุกคนว่า โลกทุกวันนี้ เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยน ชีวิตเราก็เปลี่ยน ...แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนในโลกเลยคือ หลักการของ Demand / Supply 

ลองหันมามองตัวเอง จะช่วยให้เห็นว่า อนาคต หรือ งาน เราจะดีหรือไม่ ก็ขึ้นกับหลักการเศรษฐศาสตร์ง่ายๆ นี่แหละ 

‘ให้เราเก่ง ในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้’ เราจะอยู่ได้ และ รุ่งไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนก็ตาม

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ