'พ่อสอนว่า เด็กวัดคิดอย่างไร ?'
พ่อเล่าว่า ตอนเด็กๆ พ่อจน ..อาศัยอยู่ใกล้ๆวัด ก็ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ..'พ่อไม่ได้เกิดมา สบายอย่างเอ๊ง ..เด็กวัดไม่ต้องคิด ลุยอย่างเดียว สังเกตพ่อกินเร็ว ไม่มีโอ้เอ้ ไม่มี Slow Life ..ขืนเอ๊ง Slow Life ก็ไม่ต้องกิน'
สมัยพ่อ ไม่มีใครมีเงิน ยุคนั้นสร้างตัวมือเปล่า ขอให้ขยัน โอกาสไม่ต้องหา มันไม่มี ..เฮ้ย !! ยุคพ่อไม่ต้องคุยเรื่อง Start-Up เพราะทุกคนมันคือ Start-Up
ปากกัด ตีนถีบ เงินน้อย แต่ท้องฟ้าไม่จำกัด เพราะอย่างแรกเอื้อมไม่ถึง อย่างที่สอง มันไม่มีอะไรจะเสีย ...สุดท้ายคนรุ่นพ่อ ก็เลยได้มากกว่าที่หวัง รวยมากกว่าที่คิด
ลองเอาวิธีคิดเด็กวัดไปลองปรับใช้ดู
1. 'ไม่มีข้อจำกัด' เพราะความรู้น้อย ข้ออ้างในชีวิตเลยน้อย เลยลุยมันอย่างเดียว
2. 'ไม่กลัวความเสี่ยง' เพราะชีวิตไม่มีอะไรจะเสีย อย่างแย่ก็อยู่ตรงนี้แหละที่เดิม ช่วยงานวัดยังไงก็มีข้าวกิน
3. 'เจอคนหลากหลาย' สมัยก่อนทุกคนเข้าวัด เจอตั้งแต่คนระดับบน จนทุกระดับ เจอหมด
4. 'ไม่มีอีโก้' โลกยิ่งเจริญคนยิ่งโง่ เพราะอีโก้มันบังตา เวลาเรามีอีโก้ เราจะหยุดเรียนรู้ และโง่ลงเรื่อยๆ
5. 'เพื่อนเยอะ' เด็กวัดคนหมั่นไส้น้อย คนสงสารเยอะกว่า ..ยิ่งพวกที่สร้างตัวมาด้วยกัน มันเข้าใจกัน วันนี้เศรษฐีใหญ่หลายต่อหลายคนก็เริ่มจากเด็กวัด
ยุคพ่อ ยุคจากเด็กวัดสู่เศรษฐี ..ยุคเอ๊งน่ะแพ้ท ยุคลูกคนรวยสู่ยาจก -- ไปทบทวนดีๆ ไป ..แล้วจะเข้าใจสิ่งที่พ่อสอน !!
'กรูเคยไม่มี วันนี้กรูเลยมี ..แล้วถ้าเอ๊ง ชินกับมี ..วันนึง เอ๊งอาจจะเริ่มไม่มี'
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ