แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2554

หมั่นสร้าง และรับ "แรงบัลดาลใจ" ..ต้นกล้าแห่งความสำเร็จ



ผมได้ข่าวการเสียชีวิตของ Steve Jobs แล้วใจหาย!! ...แม้ผมจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเลย ..แต่ผมก็สัมผัสความยิ่งใหญ่ของคนๆนึง ที่มีต่อผู้อื่นอีกมากมายในโลก ...ตัวผมเอง ได้แรงบัลดาลใจหลายๆอย่างจาก Steve Jobs ไม่ว่าจะเป็นแง่คิด และ การดำเนินชีวิต .. Steve พูดว่า ให้ทำในสิ่งที่รัก "ใช่!! มันเป็นอะไรที่ฟังแล้ว Simple แต่น้อยคนนักที่จะมานั่งคิดว่า จริงๆแล้วประโยคคำพูดสั้นๆ นั่นมีความหมายลึกซึ้งเพียงใด"

เศรษฐีหมื่นล้านแสนล้าน จริงๆ ก็ไม่ได้ มีอะไรที่แตกต่างจากคนธรรมดาเท่าไหร่ อย่าง Steve Jobs มีวิถีชีวิตที่ง่ายสบายๆ แต่งตัวง่ายๆ กินง่ายๆ ...แต่สิ่งที่ซับซ้อนคือ กระบวนความคิดที่จะสร้างสรรค์ และสร้างสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่โลกนี้ ..ครับ!! สิ่งเหล่านี้ มันทำให้ผมฉุกคิด ถึงหลักความสำเร็จของชีวิตว่า มันไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อน

..เพราะแท้จริงแล้ว ความสำเร็จของคนๆหนึ่ง มันจะไม่สามารถหาได้จากวิธีการ "กอบโกย" แต่ฝ่ายเดียว ..นั่นเป็นแนวคิดที่แคบ และ ไม่สามารถเป็นกลไกที่เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในสังคมได้ ..."สุดท้ายผู้ที่สร้างความมั่งคั่ง จากการโกงผู้อื่น การกอบโกย การติดสินบน การเอาเปรียบ ..ไม่มีใครพบจุดจบที่ดีเลย"

ดังนั้น ความสำเร็จที่แท้จริง และ ยั่งยืน ในโลกปัจจุบัน มันจึงมาจาก Business Concept ของการให้ "ยิ่งให้ ยิ่งได้" ซึ่งในทางพุทธศาสนา เรียกสิ่งนี้ว่า "เมตตา" ... ถ้าเรามองไปรอบๆตัว เราจะเห็นเลยว่า ทั้งชีวิต และธุรกิจรอบๆตัวเรามันคือ Red Ocean มันเป็น Business Concept ที่มุ่งแข่งขัน กินเลือดกินเนื้อ ..Win - Lose Game ตลอดเวลา ... ผลที่เกิดขึ้นคือ ความวิบัติในโลกการเงิน เศรษฐกิจ และ สังคม

การเกิดขึ้นของโลกเครือข่าย Internet ที่เชื่อมโยงทุกชีวิตบนโลก มันเป็น Step ที่ยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์ เพราะ ยุคนี้ มันเท่ากับว่า โอกาสมันเปิดกว้างให้แก่ทุกคน ...ทุกวันนี้ เราสามารถมีสื่อของตัวเอง ..เราสามารถมีสิทธิมีเสียง และ เชื่อมโยงกับคนที่มีแนวคิดเดียวกัน ชอบสิ่งเดียวกัน และนั้นคือ โอกาสที่เปิดกว้าง แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ...พลังแห่งการสร้างสรรค์ หรือ Productivity มันสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด ..ปัจจุบัน คนหนึ่งคนสามารถสร้างสรรค์ผลงาน ได้มากเท่ากับคนหลายๆคนทำในอดีต ...และนั่นเป็นที่มาของ One Man Company ...แน่นอน!! สิ่งเหล่านี้นำมาซึ่ง โอกาส และ ข้อจำกัดในเวลาเดียวกัน "คนที่เก่งจึงยิ่งรวย แต่คนที่ไม่พัฒนาความสามารถของตัวเอง จึงจนลงเรื่อยๆ"

หลักความสำเร็จ ที่แท้จริง ในปัจจุบัน จึงต้องเริ่มที่ การให้ ...ก่อนรับ มันเป็น Win -Win Business Model ที่องค์กรอย่าง Google หรือ Facebook ได้แสดงให้เราเห็นว่า ..หากโจทย์การเดินทางของคุณ คือ การเดินทางเพื่อสร้างประโยชน์ และพลิกชีวิตของคนอื่นให้ดีขึ้น ... ยิ่งคุณสร้างประโยชน์แก่ผู้อื่น และ เปลี่ยนชีวิตของคนอื่น ได้มากและสร้างสรรค์ ด้วยต้นทุนที่ต่ำเท่าใด ..มันคือ ความสำเร็จ ที่ยิ่งใหญ่กว่า Blue Ocean ทางการตลาดเสียอีก ...

สุดท้ายแล้วผมเชื่อว่า แต่ละคนสามารถเลือก ว่าต้องการมีเส้นทางชีวิตแบบไหน ... "คุณเชื่อหรือไม่ว่า Mind Set ของแต่ละคน ณ วันแรกที่เริ่มทำงาน หรือ ลงทุน มันได้กำหนดผลลัพธ์และความสำเร็จของคุณเรียบร้อยแล้ว ...มีสิ่งที่ผมชอบพูด ติดตลกเสมอๆว่า ...อยากรู้ว่าใครจะประสบความสำเร็จ หรือ ล้มเหลว แค่นั่งคุย 5 นาที ก็รู้แล้ว ..เพราะ Mind Set มันเป็นตัวกำหนด พฤติกรรมของเรา ...ความคิด จึง กำหนดการกระทำ และ มันก็คือ เครื่องชี้วัดความสำเร็จ ที่เราค่อยๆเดินตามไปนั่นเอง"

หากวันนี้ คุณอยากก้าวเดินไปในทางของ ผู้ที่ประสบความสำเร็จ และ มั่งคั่ง ...มันต้องเริ่มที่เราเข้าใจ เป้าหมายของเราชัดเจนหรือยัง ...เส้นทางที่เราเดิน เราเข้าใจ เส้นทางนั้นๆ มากน้อยเพียงใด ... ก็ฝากประโยค Classic ของ Steve ให้คิดกันลึกๆ อีกครั้ง ..."ให้ทำในสิ่งที่รัก และทำให้ดีที่สุด" ...ส่วนที่ผมอยากจะขอเสริมแง่คิด คือ "คุณต้อง เมตตา" ..และนั่นคือ ความสำเร็จแบบ Win-Win ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ..เพราะหากทุกคนในประเทศ มุ่งทำงานเพื่อสร้างสรรค์ให้ชีวิตและความเป็นอยู่ของคนอื่น ดีขึ้น มั่งคั่งขึ้น ..ตามแต่กำลังความสามารถของตัวเองจะทำได้ ...สุดท้ายแต่ละคนก็จะได้ผลลัพธ์นั้นๆ กลับเข้าหาตัวเอง และกลายเป็นสังคมแห่งการให้ และ มั่งคั่งนั่นเอง

"อาชีพอะไร" ...ผมอยากให้มอง ข้ามกรอบของคำว่า อาชีพ เพราะมันจำกัด ให้คุณต้องทำ สิ่งที่คนอื่นทำได้ดีอยู่แล้ว ... "อาชีพ" ที่ดี คือ ทำอะไรก็ได้ ที่เราชอบ ..แล้วถ้ามันสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็น ในแง่ของความสุข หรือ ความสบาย ...และเขาเหล่านั้น ยินดีที่จะจ่ายเงินแลกเปลี่ยน ประสบการณ์นั้นๆ มันก็คือ "อาชีพ" แล้ว... ดังนั้น มันไม่ใช่การเลียนแบบ หรือ เห็นคนอื่นทำแล้วทำบ้าง แต่มันคือ การสร้างสรรค์อะไรก็ได้ ที่จะเปลี่ยนชีวิต ของคนอื่นให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางในทางหนึ่งก็ตาม ... ยิ่งสิ่งนั้นๆ สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่คนอื่นมากเท่าไหร่ ในต้นทุนที่ต่ำ มันคือ ธุรกิจที่จะยิ่งใหญ่มหาศาลในอนาคต

-- ทุกวันนี้เรามีสื่ออยู่ในมือ (หากเราหยุดปลูกผัก มันจะเริ่มเป็นกระบอกเสียงแห่งโอกาส ...ทั้ง Facebook และ YouTube) ...เรามีเวทีที่เราสามารถสร้างได้เอง เช่น Blog (มันเป็นพื้นที่ทางความคิด ที่ใครๆก็เริ่มได้ฟรี) ...เรามี อากู๋ (Google ที่สามารถหาความรู้ได้อย่างไม่จำกัด) ...ประเทศเรามีทรัพยากร และพื้นที่การเกษตร และ การท่องเที่ยวที่อุดมสมบูรณ์ .... มี OTOP และสิ่งต่างๆ ที่รอการพัฒนา ...เรามีโรงงานนรก ที่รอคนรุ่นใหม่ มาสร้างตลาด ใส่นวัตกรรม และสร้างมูลค่าเพิ่ม ... เรามีตลาดทุน และเงินทุนมหาศาล ที่วางอยู่ในธนาคาร รอแต่คนที่มีความสามารถมาบริหาร ... "แต่คุณจะต้องเร่ิมจากการพัฒนาความสามารถ และปัญญาของเราให้ดี ให้เก่ง ในสิ่งที่เราจะทำ -- อย่างมุ่งมั่น"

... "เริ่มที่ตัวคุณ ..ถามว่าเราจะสร้างสรรค์ และสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น ด้วยสินค้าและบริการ อะไร ..อย่างไร ...นั่นแหละคือ โอกาส!!" (ที่เราสร้างเอง) ...กล้าที่คิด และ กล้าที่จะทำ !!

"คุณ คือ คนที่ยิ่งใหญ่!!"

4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ8 ตุลาคม 2554 เวลา 10:42

    ความสำเร็จก็เหมือนการปลูกผัก อย่างที่อาจาร์ยภาวบอกนั่นล่ะคับ
    พืชผักที่เราปลูก มันจะโต
    สวยงาม
    รึไม่ ? มันอยู่ที่เมล็ดผักที่เราปลูกไม่ดีหรือ เราไม่หมั่นดูแลเอาใจใส่มันกันแน่?

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมาก ที่ให้แง่คิดดีๆ ครับ

    ตอบลบ
  3. ได้เเง่คิดดีมากเลยครับ

    ตอบลบ

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ