วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
เก็บตกสัมมนา T-01 "ป๋าปุย Rider"
วันนี้อัดไปด้วย Chart Pattern ..แท่งเทียน , สามเหลี่ยม , ธง , ลิ่ม และก็ Target Pricing จาก Trend ต่างๆ .. "มีคำถามขึ้นมาว่า ป๋าปุยครับ ..มันจะแม่นแค่ไหน"
ป๋าปุย : "Technical ก็คือ ความน่าจะเป็น ..มันก็แปลว่า มีมนุษย์ที่เขาเล่นหุ้นมาก่อน แล้วศึกษาว่ามันมี Pattern ต่างๆ -- ที่มันน่าจะเป็นอย่างนั้น"
นักเรียนลึกลับ : อ้าว!! ป๋า แล้วถ้ามันไม่เป็นล่ะ จะทำอย่างไร
ป๋าปุย : "ก็มันน่าจะเป็น แต่มันไม่จำเป็นต้องเป็น --คนส่วนใหญ่ เอา Technical ไปใช้แบบ "ต้องเป็น" เลยเจ๊ง และ เจ็บตัวหนัก เพราะเอา ความน่าจะเป็น ไปใช้แบบผิดๆ ...นี่แหละ สุดยอดแห่งความน่าจะเป็น"
นักเรียนลึกลับ : อย่างนี้ ก็ไม่มีอะไรชัวร์ ..ผมจะกำไรจากหุ้นได้อย่างไร
ภาววิทย์แทรกขึ้นมา : อะจ๊าก!! ผมว่าคำถาม มันผิดแล้ว ... ผมเห็นนักเล่นหุ้นเยอะมาก ชอบถามว่า หุ้นจะขึ้นหรือจะลง -- ผมถามหน่อยว่า คำถามแบบนี้มันจะช่วยให้คุณทำเงินได้ยังไง ..เพราะคนส่วนใหญ่ชอบถามหลังจากซื้อแล้ว -- ถ้าผมบอก "ลง" คุณจะรีบขายไหม ..น่าคิด!! -- จริงๆคำถามทำเงินควรถามว่า หุ้นจะลงเพื่อขึ้น หรือ ลงเพื่อลงต่อ ..ถ้าตอบได้ นี่แหละทำเงิน!!
ป๋ากิ้ง : ขอแทรกบ้าง..อิ อิ -- "ผมถามบ้าง ..ถ้าเจ้ามือเทขายออกมาหนักๆ คุณจะรีบเข้าไปรับไหม" -- ใช่!! คนส่วนใหญ่บอกไม่ แต่จริงๆ ชอบเข้าไปรับ ..อย่าง JAS , IVL , PTL , AJ พอเจ้าทุบปั๊บ รายย่อย รีบกระโดดเข้าไปเลย เพราะคิดว่า มันถูกมาก ..ถามจริงๆ เถอะ เจ้ามือเขาทุบ เท ทำกำไรขนาดนั้น คุณว่า เขาจะรีบลากขึ้นทันทีไหม ... ใช่!! เพิ่งเทขาย เจ้าเขาจะรีบลากทำกระดึ๋ยอะไรเล่า ...."ป๋าปุย มองหุ้นที่เจ้าทุบ ว่าจะเล่นยังไงต่อ"
ป่าปุย : ไม่ยากเลย ..ฮ่า ฮ่า "อย่างแรก นั่งดูการเชีอดรายย่อยก่อน ..ฮ่า ฮ่า มันได้อารมณ์มาก" -- เพราะแน่นอน เจ้าเพิ่งทุบ ถึงเขาเริ่มลาก เขาก็จะไม่ลากขึ้นทีเดียว เพราะถ้าทำอย่างนั้น รายย่อยก็ขายทิ้งใส่ซิ .. ดังนั้น ให้เจ้ามันลากเรียกแขกหนึ่งรอบ ...ดูมันทุบ ดูเลือด ..จากนั้น ก็ลาก Trendline -- มันก็จะได้ สามเหลี่ยม ...รอราคามัน Break ..ถ้าไม่ Break มันก็ไม่ขึ้น จะเข้าไปทำซากอะไร -- จากนั้น ถ้ามัน Break ก็เอา Chart Pattern มาวัด กิ่ง ก้าน ใบ ... แน่นอน ก่อน Peak เดิม ขายทิ้งหนึ่งรอบ ให้สาดเลือด ... ถ้ามันย่อ รอดูเลือดนองออกมา .. จากนั้น รอมัน Break ถ้า Break Peak เดิม คือ มันไปต่อ ...ตามดิ!!
นักเรียนลึกลับ : อ้าว!! แล้วถ้ามัน Break New High แล้วทำไมมันต้องขึ้นล่ะป๋า!!
ป๋าปุย : "ไอ้นี่นิ เดี๋ยวปั๊ด หลังแหวน" ก็บอกแล้วว่า Technical คือ ความน่าจะเป็น "อั๊วไม่เคยพูดเลยว่า Break New High แล้วต้องขึ้น เพียงแต่ มันน่าจะขึ้นก็เท่านั้นเอง"...
ภาววิทย์ : ดังนั้น สรุปว่า เล่น Technical ต้องมี Stop Loss ใช่ไหมป๋า!!
ป๋าปุย : "ถูก!!!" .... ขับรถก็ต้องมีเบรค แต่คนส่วนใหญ่ เรียนแต่เหยียบคันเร่ง .."มันถึงได้เจ๊งกัน เลือดสาด"
ป๋ากิ้ง : "โห!! สนุกๆจริง ..เกมเลือด สาด เท ..เลือด สาด ...เท ..."
ป๋าปุย : เคยฟังนิทานเรื่องนี้ไหม ..."มีเด็กน้อยคนหนึ่ง กำลังออกศึกษาโลกกว้าง แล้วรู้มาว่า มีเศษเหรียญอยู่บนทางด่วน"
ภาววิทย์ : ฮ่า ฮ่า ..ฮามาก "คือ เด็กคนนั้น ก็วิ่งไปเก็บเศษเหรียญบนทางด่วน ใช่ไหมป๋า ... ได้เหรียญ แต่เสียเลือด!! ... โดยสิบล้อชน แขนขาด ได้มา 3 บาท"
ป๋ากิ้ง : เอ่อ!! ผมว่า ชักจะมึนเลือดแล้ว ..ป๋าปุย สรุปสุดยอดวิชาวันนี้หน่อย!!
ป๋าปุย : ได้ เอา 2 Slide นี่ไป ท่องให้ขึ้นใจ .... Seat Belt & Air bag "มีไว้ ทำได้ ...ชนะคนกว่า 80% ทั้งตลาด"
ภาววิทย์ : จริงเหรอ ...มันคืออะไรป๋า
ป๋าปุย : อ้าวนี่ไง Seat Belt & Air Bag ก็คือ Stop Loss ...ผมเลยเอา แนวทาง Stop Loss แบบง่ายๆ มาให้ดู Seat Belt ก็คือ ราคาปิดกราฟ Day สองแท่งก่อนหน้า ถ้าราคาหลุด ราคาปิดต่ำสุด ของสองแท่งก่อนหน้า Seat Belt ก็กระตุก (นี่แหละ Trailing Stop เลื่อน Stop Loss ขึ้นตามราคาที่ขึ้น-- เฮ้ย!! แต่การเลื่อน Stop Loss เลื่อนเฉพาะเวลาขึ้นเท่านั้นนะ ถ้าขืนมึงเลื่อน Stop Loss เวลามันลง นี่ แม่เจ้า!! คุณจะกลายเป็น VI ทันที -- VI จำเป็นนะ..อิ อิ)... แต่ถ้าใจสู้ ก็รอ Air Bag ทำงาน ...ตัว Air Bag ก็คือ ราคาปิดต่ำสุด ของแท่ง Week ที่แล้ว ..ถ้าหลุด "ทิ้ง" -- Air Bag ทำงาน!!
ภาววิทย์ : โอ๊โห Get โคตร!! ... คือ ถ้ามี Seat Belt & Air bag ก็แสดงว่า ไม่มีทางเลือดสาด
ป๋าปุย : แต่นี่เพิ่งเริ่มต้น ..รอดู T02 - T04 แล้วคุณจะรู้ว่า ปวดตับ เป็นอย่างไร ..อิ อิ
จากนั้น เราก็เดินทางหากึ๋น ซึ่งสุดท้ายเราก็ค้นพบว่า ไก่เท่านั้นที่มีกึ๋น แต่ปลาดุกไม่มี ... "นี่แหละ ภารกิจ เรา หากึ๋นปลาดุก ...อะไรฟะ ..อิ อิ" --- จ๊าก!!! นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "จงเข้าใจว่า อย่าหาในสิ่งไม่มี เทคนิคที่ดี มี Stop Loss เพราะเราเล่นกับ ความน่าจะเป็น"
... ความแจ๋ว ก็คือ การฝึก การสังเกต และ ประสบการณ์ จะช่วยให้ความแม่นยำของเรามากขึ้น ... สุดท้ายถ้าถูกทาง Let Profit Run "อย่าพยายาม Cut Profit เหมือนคนส่วนใหญ่ เพราะมัน ไม่ Make Sense เอาเสียเลย!!"
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
เมื่อวันก่อน ผมได้มีโอกาสไปออกรายการวิทยุ Business Line & Life ของคุณม่อน .. มีคนสัมภาษณ์ผมเป็น คนหนุ่มรุ่นใหม่ ทายาทกลุ่ม ธุรกิ...
-
6 ข้อ ปฏิบัติของการเป็น ’นักลงทุนแบบทางสายกลาง’ หลังจากผมลงทุนมานานพอสมควรก็พบว่า ’ทางสายกลาง‘ คือ หลักปฏิบัติที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความ...
-
ท่านธนินท์มักกล่าวในงานสัมมนาต่างๆ ถึงแนวคิด "สองสูง" ของท่าน -- ซึ่งสูงแรกก็คือ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และสูงที่สอง คือขึ้นราคาพื...
-
5 ข้อควรรู้ ‘การคิดเผื่อคนอื่น‘ ทำไมทำให้เราเป็นนักลงทุนที่มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น 1. ’คน Gen ก่อน โดยรวมรวยกว่าคน Gen ใหม่ เพราะ เขาคิดสร้างใ...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
6 ข้อ หลักคิดที่ทำให้เราไม่สามารถซื้อหุ้นในจุดที่ราคาถูกที่สุด และ ขายหุ้นในเวลาที่แพงที่สุด 1. ‘หุ้นไม่มีจุดต่ำสุด‘ …หลายคนคิดว่า ซื้อหุ้น...
-
AEC ย่อมาจาก ( ASEAN Economic Community ) ..ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อ ASEAN รวมตัวกันได้ ก็จะทำให้เกิด Win-Win นั่นก็คือ ภาพรวมเศรษฐกิจในปร...
-
"QE2" ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโลก เนื่องจากลึกๆแล้ว หัวใจของนโยบายนี้ก็คือ "การเปลี่ยนเงินดอลล่าห์ให้เป็นแบงค์กงเต๊...
-
ตอนนี้แนวทางที่พิสูจน์ตัวเอง ได้สวยในระยะยาวก็เห็นจะเป็นแนว Value Investor (จริงๆแนวอื่นก็สวย แต่เผอิญนักลงทุนที่รวยที่สุดในโลก คือ Warren B...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
จ๊าบมากครับ (^.^)
ตอบลบููู^^
ตอบลบ