ปี 2555 ที่มาถึง ...ที่แน่ๆ มีแต่ทำนายหายนะ "ประเทศพัง" ตั้งแต่ น้องปลาบู่ ..หมอดู คู่หมอเดา ..โหร ค่ายต่างๆ -- พออ่านคำทำนายได้ครบ ก็สรุปว่า "จิตตกทันที"
มีเรื่องเล่าขำขำ เกี่ยวกับ หมอดู ... ผมสังเกตจากตัวเองนี่แหละ ช่วงไหนที่ "จิตตก หรือ รู้สึกว่าไม่ค่อยดี" จะอยากไปดูหมอมาก ...ลืมนึกไปว่า คนที่ไปดูหมอส่วนใหญ่ก็คือ คนที่กำลังแย่ ...ดังนั้น ถ้าหมอคนไหนฉลาดและอ่านสถิติเป็น ก็สามารถฟันธงได้ง่ายๆ เมื่อลูกค้าเดินเข้ามา --- "มึง!! กำลังดวงตก ... อาจถึงชีวิต ..."(อ่ะนะ!! ถ้ากู ดวงดี กูจะมาดูดวงทำไม...555) ..ตกลงจะคิดค่าสะเดาะเคราะห์เท่าไหร่ดี "เครียด"
ถ้ามองไปไกลกว่าบ้านเรา จะเห็นว่า ภัยธรรมชาติมันเกิดขึ้นบ่อย และถี่มากขึ้นเรื่อยๆ ..สาเหตหลักๆก็มาจาก Global Warming ที่มนุษย์เราทำให้โลกร้อนนั้นแหละ ...น้ำแข็งละลาย น้ำท่วม อากาศแปรปรวน แผ่นดินไหว ..ซึ่งหากเราเข้าใจ ก็ต้องปรับ "วิธีคิด" แล้วอยู่กับมันให้ได้ อย่างเข้าใจ
ในมุมของนักลงทุนคนนึงอย่างผม เรามองแค่ Demand & Supply ของสิ่งต่างๆ เป็นหลัก เพราะ Demand & Supply คือ ตัวกำหนด "ราคา" ของทุกสิ่ง ... อะไรที่มีน้อยๆ คนต้องการมาก มันก็จะแพง เช่น อาหาร ..หากมีภัยธรรมชาติ Supply ของอาหารก็จะลดลง แต่คนต้องการกินอาหาร ไม่ได้ลดลง ดังนั้น จากนี้ไป ภาพใหญ่ก็คือ อาหารและ Commodity จะเป็น Trend ขาขึ้น
..อะไรที่มี Supply มากๆ อย่างพิมพ์เงินแก้เศรษฐกิจแบบบ้าบอๆ มูลค่าของเงินก็จะลงแล้วเกิด "เงินเฟ้อ" เป็น Trend ขาลง ...ก็แค่นั้นเอง
อย่างประเทศอเมริกา และ ยุโรป ที่เคยเป็นเสาหลักเศรษฐกิจโลก มันกำลังแย่ลง เพราะถ้ามองกันลึกๆแล้ว ประชากรของ อเมริกา กับ ยุโรป รวมกันยังไม่ถึง 1 พันล้าน (เทียบกับประชากรทั้งโลก 7 พันล้าน) ...แต่พันล้านคนนี้ คุมเงิน 90% ก็คือ เงินดอลลาร์ และ เงินยูโร ... บัดนี้ ความมั่งคั่งต่างๆ ซึ่งแน่นอน ประเทศใดที่รวยขึ้น ราคา Asset (ที่ดิน) ก็จะขึ้นตาม ดังนั้น Real-estate เป็นแก่น ..จากนั้น ทุกอย่างก็โตบน "แก่น" ...ถ้าจะมองภาพให้ชัดๆว่า อเมริกา และ ยุโรป จะเป็นอย่างไรต่อไป ก็ดูญี่ปุ่น นั่นแหละ!!
"ญี่ปุ่น" เจริญถึงขีดสุดในปี '80s (ช่วงนั้นญี่ปุ่น อู่ฟู่มาก ..ส่งผลให้ ราคาที่ดินในญี่ปุ่นแพงอย่างบ้าคลั้ง) จากนั้น Bubble Real-estate ในญี่ปุ่นก็แตก (คล้าย Sub-prime อเมริกานี่เอง) จากนั้นเป็นต้นมา ราคา Asset ในญี่ปุ่นก็ยังไม่กลับไปที่จุด Peak อีกเลย .... ที่มันคล้ายกัน ก็เพราะญี่ปุ่นใหญ่มาก ดังนั้น พอราคา Asset ของ ญี่ปุ่นเกิด Bubble แตกในเวลานั้น จนถึงบัดนี้ ไม่มีใครที่รวยพอที่จะไปซื้อให้มันแพงกว่านั้น ..และอย่างที่เรารู้กัน คือ ทุกอย่างมีขึ้น ก็ย่อมมีลง ...และลงจะสุด ก็ต่อเมื่อมันสุด และมีคนยอมซื้อแพงขึ้น ..และเมื่อใดที่มันมีคนยอมซื้อแพงกว่าเดิม มันก็จะเริ่มขึ้น -- คิดง่ายๆ อย่างในกรณีประเทศเล็กๆ อย่างเมืองไทย ก็เคย Bubble แตกปี 1997 แต่จากวันนั้น ถึงวันนี้ เศรษฐกิจเราขยายตัวไปอีกไกล ..ประชากรในวันนั้น ถึงวันนี้ ก็ยังคงขยายตัว ...ทำให้คนที่มากขึ้น และรวยเพิ่มขึ้น มันก็ทำให้ ราคาที่ดินของเราในปัจจุบัน มันเลยปี 1997 ไปมากแล้ว
คำถามคือ อะไรคือ ตัวชี้วัด ว่าเศรษฐกิจประเทศนั้นๆ จะขึ้นหรือลง ... คิดง่ายๆ หนึ่ง ประชากร สอง การใช้จ่าย ... ประเทศที่ประชากรจะรู้สึกดี ไม่ใช่ประเทศนั้นรวย (เพราะตอนนี้คนอเมริกา ไม่ได้มีความสุขมากกว่าคนไทย ทั้งที่ GDP ต่อหัว รวยกว่าเราเยอะ) แต่มันขึ้นกับว่า เศรษฐกิจต้องอยู่ในทิศทาง Trend ขาขึ้น "เพราะโดยธรรมชาติของมนุษย์ เราจะมีความสุข เมื่อเรารู้สึกว่าเราพัฒนาขึ้น ก็เท่านั้นเอง" ...ดังนั้น ถ้าจะมาดูโลกเราว่า ณ จุดปัจจุบัน ประเทศใดที่ จะพัฒนา ในเรื่องของ "ประชากร & การใช้จ่าย" ให้เพิ่ม ก็เห็นจะมีแต่ เอเชีย ..นำมาโดย BRIC ( Brazil , Russia , India , China) และ ก็ ASEAN เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรานี่แหละ ที่ประชากร 600 ล้านคนจะรวมเป็น AEC ในปี 2015 -- "นี่แหละอนาคตโลก" ...ในภาพใหญ่ มันเคลื่อนตัวมาที่เรา
แต่!! ...(แต่) แต่ในภาพเราเอง เราอาจจะมองไม่เห็นสิ่งที่กำลังมา เพราะเรามัวแต่วุ่นอยู่กับ การทะเลาะกันทางการเมือง ภัยธรรมชาติ และ ความคิดลบๆต่างๆ ที่มันวนเวียนอยู่ ...ภาพที่เห็นเราก็คล้ายนักบอล ที่ตะลุมบอลกันอยู่ในสนาม โดยไม่รู้ว่า นอกสนามมันมีอีกมุมที่ต่างกับมุมมองในสนาม
แต่ก็ใช่ว่าผม จะมองอะไรบวก Think Positive ไปหมด .."ไม่ใช่" เพียงแต่ นักลงทุนต้องมองด้วยเหตุผลไม่ใช่อารมณ์ อย่างแรกเราต้องมองให้ออกว่า จริงๆแล้ว ภาพใหญ่คืออะไร ...อย่างภาพใหญ่เวลานี้ การลงทุนและทิศทางเศรษฐกิจระดับโลก มันเคลื่อนมาในเอเชีย ..เป็นภาพใหญ่ ก็ตั้งเป็นโจทย์ไว้ .... จากนั้น มามองภาพเล็ก คือ ความวุ่นวายการเมือง และ การวุ่นวายในภัยธรรมชาติ -- สรุป ถ้ามองง่ายๆ มันคงต้องมีวิกฤตที่ทำให้ตลาดลงแรงในปีหน้า อย่างน้อยก็ 2-3 ครั้ง ...ดังนั้น ถ้าเข้าใจว่า ภาพใหญ่คือ ขึ้น ...และวิกฤตก็คือ โอกาส เราก็พอจะวางแผนการลงทุนของเราแบบไม่ยาก เช่น อาจแบ่งเงินเป็นก้อนๆ ...แล้วรอลงทุนในเวลาที่เกิดวิกฤต ก็เท่านั้นเองครับ!!
ดังนั้น ผมก็มองว่า ปีมังกรนี้ น่าจะเป็นปี แห่งโอกาส สำหรับคนที่ มี "Stock Wish List" ..ได้หาจังหวะทยอยเก็บหุ้นดี เข้า Port การลงทุนระยะยาวนั่นเองครับ
"ผม Comment ไว้หลายรายการทีวี -- ว่าการลงทุนแท้จริงแล้วอยู่ที่มุมมอง ..หุ้นจริงๆ ถ้ามองอีกแบบ มันก็คือ เครื่องผลิตเงินดีๆนี่เอง ...หุ้นดีๆ มันปันผลให้เราทุกปี ...โดยแค่เราถือไว้เฉยๆก็รวยแล้ว (ไม่ต้องขายเลยก็ได้) ...และจะดียิ่งกว่า หากเราสามารถซื้อหุ้นดี ในเวลาที่ถูก ...และนั้นแหละ จุดที่ผมพูดถึง -- โอกาสในวิกฤตไง!!"
"จุดแย่ที่สุดของวิกฤต มันก็คือ จุดเริ่มต้นของโอกาส !! ...คนที่รวยและประสบความสำเร็จ ก็เพราะเขาคิดต่าง และ มีจุดยืนของตัวเอง" --- ขอให้ทุกคนโชคดี มีปัญญา ในการรับปีมังกร 2555 กัน!!
................................................
(เอาโฆษณา เท่ห์ๆ ไปดูกัน...อิ อิ)
การลงทุน ก็เหมือนการปลูกต้นไม้ ... คนส่วนใหญ่หวังรวยเร็วๆ แต่จริงๆ มันไม่ใช่ ..เราปลูกต้นไม้ ก็อาศัยเวลา กว่าที่เราจะได้ผลกิน -- เมื่อถึงเวลา เมื่อนั้นดอกผลแห่งการลงทุน จะโตในอัตราเร่ง และออกผล ให้เรากินไม่มีวันหมด .."นั่นแหละการลงทุนด้วยปัญญา" ... บางคนโชคดี พ่อแม่ปลูกต้นไม้ ให้เราได้กินผล ..แต่สำหรับผม ผมก็ขอปลูกมันเองด้วยเช่นกัน
---- (ความภูมิใจและคุณค่าของมนุษย์ มันก็คือ สิ่งที่เรากระทำ และ แบ่งปันสู่เพื่อนมนุษย์ ...นั่นแหละคนที่มีคุณค่า!!)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
‘เป็นล้านเลยเหรอพี่ ?‘ …ทำอะไรมีเงินเป็นร้อยล้าน !! 1. อยากได้เงินล้าน …ต้องทุ่มพัฒนาทักษะ เพราะ ทักษะจะทำให้เราได้งาน ได้ธุรกิจ ได้โอกาสให...
-
10 ข้อควรรู้ เพื่อเข้าใจตลาดหุ้นมากขึ้น 1. ตลาดหุ้นสามารถเล่นแบบการพนัน และก็สามารถเล่นแบบการลงทุน คนกำหนดคือคนเล่นเอง ไม่ใช่ตลาด ..คน...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
ทำไมคนที่รายได้มั่นคง ควรลงทุนให้เสี่ยง ? 1. รายได้ที่มั่นคงมักจะมีข้อจำกัด คือ มีรายได้เรื่อยๆ แต่ไม่โต …ดังนั้น การลงทุนควรหาโอกาสที่เสี่...
-
6 เคล็ดลับ หาจุดเปลี่ยนชีวิตที่นานๆ จะมาสักทีนึง สำหรับผม ผมเจอจุดเปลี่ยนชีวิตมา 3 ครั้งใหญ่ๆ …ครั้งแรก สมัยเรียน จากเด็กเรียนธรรมดา ..ผมไป...
-
7 ข้อ ทำไมผมถึงชอบตลาดหุ้นไทยในเวลาที่ใครๆ ก็ไม่เอาแล้ว 1. หุ้นไทยเป็นหุ้นอุตสาหกรรมเก่า ที่เข้าใจง่ายกว่า …’หุ้นที่ใครๆ มองว่าดี ส่วนใหญ่ไ...
-
7 ข้อ ความเชื่อในการลงทุนที่เปลี่ยนไป ในตลาดวันนี้ 1. ยิ่งเสี่ยงยิ่งโชคดี …จริงๆ ไม่ใช่ …ต้อง ‘ออกแบบให้ตัวเองมีโอกาสเสี่ยงได้เรื่อยๆ’ อัน...
-
10 อันดับ สินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก 1. ทอง มีมูลค่ารวม 20.5 Trillion 2. Microsoft มูลค่ารวม 2.6 T 3. Apple มูลค่ารวม 2.59 T 4. N...
-
8 ข้อคิด จาก The Psychology of Money 1. ความมั่นคงทางการเงิน คือ ความยืดหยุ่นในชีวิต 2. ความมั่นคงทางการเงิน ไม่ใช่ การได้เยอะ แต่คือ การไม...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
"เมื่อถึงเวลา เมื่อนั้นดอกผลแห่งการลงทุน จะโตในอัตราเร่ง และออกผล ให้เรากินไม่มีวันหมด .."นั่นแหละการลงทุนด้วยปัญญา" ... บางคนโชคดี พ่อแม่ปลูกต้นไม้ ให้เราได้กินผล ..แต่สำหรับผม ผมก็ขอปลูกมันเองด้วยเช่นกัน" อ่านแล้วรู้สึกว่า มีพลังอย่างมากที่จะพัฒนาตัวเองค่ะ ^^
ตอบลบ