แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

วิธีคิดที่ไม่ธรรมดา ของคุณ สุระ แห่ง Banana IT



วันนี้มีโอกาสได้คุยกับ คุณ สุระ ผู้ก่อตั้ง Com7 เจ้าของ ร้านในเครือ Banana IT ..เดี๋ยวนะ อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการมาเชียร์หุ้น แต่จะมาเล่ามุมมองวิธีคิดของเจ้าของให้ได้ศึกษากัน


คุณ สุระ เริ่มต้นชีวิตผู้ประกอบการ จากร้านขายคอมพิวเตอร์ใน พันทิป พลาซ่า (ถ้าใครเกิดทัน สมัยก่อน ถ้าใครจะซื้อคอมพิวเตอร์ ก็ต้องไป พันทิป พลาซ่า เพราะเรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวม อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น)


จากร้านขายคอมพิวเตอร์เล็กๆ จนก้าวขึ้นมาสร้าง Brand Banana IT ที่วันนี้นับเป็นหนึ่งใน เชนร้านขายคอมพิวเตอร์และมือถือ ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น มูลค่าบริษัทอยู่ประมาณ 20,000 ล้านบาท ณ วันที่คุยกัน นับว่า ‘ไม่ธรรมดา’


พูดถึงร้านขายคอมพิวเตอร์ เราจะเห็นภาพของ ธุรกิจ SME ที่เจ้าของ ทำเอง ประกอบเครื่องเอง ...การขยายสาขาจนวันนี้มีร้าน Banana IT กว่า 400 สาขา ครอบคลุม เกือบทุกห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ ..แล้วยังคง ขยายอย่างต่อเนื่องทุกๆปี 


ล่าสุด Banana IT จับมือกับ KBANK และ ร้าน True Cafe ให้มาร่วมกันขยายสาขา ..ทำให้คนสงสัยว่า มันคืออะไร ทำเพื่ออะไร ...ในยุคนี้ที่ธนาคาร และ ธุรกิจต่างๆ พยายามลดจำนวนหน้าร้านลง แล้วขายออนไลน์ แต่คุณ สุระ กลับเปิดเพิ่ม และ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดขยาย


ผมเลยยิงคำถามตรงๆ ไปเลยว่า ‘ต่อไปออนไลน์ กำลังมากินยอดขายของสาขา แต่ทำไม Banana IT ถึงทำตรงข้าม ?’


คุณ สุระ เล่าให้ฟังว่า ..’อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าผม ไม่ให้ความสำคัญกับออนไลน์ ...ในส่วนของออนไลน์ คุณสุระ ก็ให้ความสำคัญเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของการขยายสาขาเช่นกัน’


‘งง ? ...แล้วออนไลน์ มันมาร่วมกับหน้าร้านยังไง ..ในเมื่อ หน้าร้านมีต้นทุนที่สูงกว่า ในขณะที่ออนไลน์เน้นการตัดราคา ...มันเหมือน ตรงข้ามกันหรือเปล่า ?’


พอถามไปแบบนี้ คุณ สุระ เริ่มอธิบายอย่างละเอียดเลยว่า สินค้าแต่ละชนิด ไม่เหมือนกัน เราต้องเข้าใจธรรมชาติของแต่ละสินค้าก่อน 


เช่น ถ้าเป็นเสื้อผ้า หรือ Fashion การขายออนไลน์ มันเข้ามาแข่งกับหน้าร้านโดยตรง เพราะ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ ความหลากหลายของสินค้า ...วันนี้เราจะเห็นว่า บางคนเปิดขายหน้าร้าน ต้นทุนสูง ทำให้เอาสินค้ามาวางไม่หลากหลายแถมราคาสูงกว่า 


แบบนี้คนซื้อก็จะเลือกซื้อออนไลน์ เพราะ 

1. ถูกกว่า

2. หลากหลายกว่า 


แต่ถ้าเราพูดถึง คอมพิวเตอร์ หรือ มือถือ ที่ไม่ว่าจะซื้อที่ไหน มันก็เหมือนกัน ...ยกตัวอย่าง ถ้าซื้อ iPhone ไม่ว่าคุณจะซื้อที่ไหน มันก็คือแบบนั้น ทำให้แข่งกัน 2 เรื่อง คือ

1. ราคา

2. การบริการ


สินค้าอย่าง เทคโนโลยี พอมีเรื่องการบริการ คนซื้อก็จะเลือกมากขึ้น นอกจากแค่ราคา เขาต้องเลือกคนขายที่น่าเชื่อถือ และ ดูแลเขาหลังการขายได้ อันนี้หน้าร้านก็มีส่วนช่วยในการตัดสินใจ


คุณสุระ เล่าให้ฟังว่า สินค้าอย่าง มือถือ ยอดขายที่เราเห็นทั้งระบบ เลย ของประเทศไทย ขายมือถือกันปีละ 200,000 ล้านบาท ...คอมพิวเตอร์แต่ละปีอยู่ที่ 200,000 ล้านบาท เหมือนกัน ...รวมกันทั้งหมด 400,000 ล้านบาท มียอดขายออนไลน์ แค่ 5% 


นี่ขนาดเราเห็นว่า ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็น Lazada หรือ เว็บออนไลน์ แข่งขันกัน ลด แลก แจก แถม ก็มียอดขายรวมแค่ 20,000 ล้าน หรือแค่ 5% เท่านั้น


ที่เอาตัวเลขของตลาดมาให้ดู เพื่อให้เห็นภาพว่า 

ก่อนจะวางแผนออนไลน์ ต้องเข้าใจตลาดรวมก่อน ...ดังนั้น สินค้าที่ Banana IT ขาย จะต้องขยายควบคู่กันทั้ง 2 ช่องทาง ...ยกตัวอย่าง สาขาเล็กของ Banana IT บางครั้งก็ไม่ได้วางขายทุกสินค้า แต่ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าออนไลน์ แล้วมารับที่สาขา ทำให้สะดวกมากกว่า 


คิดง่าย คุณจ่ายเงินหลักหมื่น ถ้าซื้อออนไลน์ อย่างเดียว คนอาจไม่มั่นใจ แต่ที่ซื้อสินค้าหลักร้อย อันนั้นจ่ายง่ายไม่ต้องคิด


ผมฟัง คุณ สุระ อธิบาย ทำให้รู้เลยว่า ทุกการตัดสินใจในธุรกิจ ต้องรู้จริงในสิ่งที่ทำอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่ทำธุรกิจตามกระแส 


ผมเลยถามว่า ‘อะไรคือ จุดแข่งของ Banana IT ที่ทำให้เติบโตจากร้านขายคอมพิวเตอร์เล็กๆ ในพันทิป จนกลายเป็น ธุรกิจ 2 หมื่นล้านได้ ?’


1. การพร้อมเปลี่ยนแปลง ...อันนี้คือ จุดแข็งของ Banana IT เลย ...จะเห็นว่า จากเดิมขายคอมพิวเตอร์ประกอบตั้งโต๊ะ ...มาเป็นผู้ขาย iPhone ทีใหญ่ที่สุดในประเทศ ...แล้วที่หลายคนอาจไม่รู้ คือ หนึ่งสิ่งที่ทำกำไรให้ Banana IT อย่างมหาศาล คือ การขาย SIM (คิดง่ายๆ Banana IT ขาย SIM ให้บริษัท TRUE ปีละ 200,000 คน) ....ที่เล่าให้ฟัง เพื่อจะชี้ให้เห็นภาพว่า ธุรกิจที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลง แปลว่า ต้องไม่จำกัดตัวเอง จากความสำเร็จเดิม 


อย่างเคยขายคอมเยอะ วันนี้ ขายมือถือมากกว่า ...เดิมที iPhone ขามากที่สุด วันนี้ Android เริ่มแซง ...’ถ้าอนาคต อะไรที่มา อันนั้น Banana IT ต้องขายมากที่สุด โดยไม่ได้จำกัดแค่ คอม หรือ มือถือ’


2. การกล้าทดลองสิ่งใหม่ๆ แล้ว พร้อมหยุดทำ ไม่ดันทุรัง ...สินค้าอย่าง IT เปลี่ยนแปลงเร็ว ดังนั้น Banana IT ต้องพร้อมทดลองสิ่งใหม่ๆ ...ถ้าดีก็รีบขยาย ...ถ้าไม่ดีก็หยุดทำ ...เช่น


- เปิดร้านใหม่ ถ้าไม่ดี ก็พร้อมปิด เพราะ Banana IT ไม่ได้ลงทุนการตกแต่งเยอะ จะเน้นที่เรียบง่าย ...อุปกรณ์ในร้านสามารถปรับเปลี่ยนได้ทันที


- 7/10 ...การทดลองสิ่งใหม่ เราเถื่อไว้เลย 7/10 คือ ขอแค่ถูก 3 ใน 10 ครั้ง ก็คือ สำเร็จแล้ว เพราะ ทุกครั้งที่พลาด เราเตรียมจำกัดความเสียหายไว้เรียบร้อย


3. การกล้า Partner กับธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้อง ให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน


- TRUE Cafe เขาอยากขยายร้าน แต่บางสาขาก็ไม่กำไร ดังนั้น เราเสนอ Model ให้มาใช้พื้นที่ร่วมกัน ก็ลดต้นทุนทั้งคู่แถมแบ่งลูกค้า


- การขาย SIM ก็เหมือน การช่วย คู่ค้า ซึ่งคือ TRUE ในการหาลูกค้าเพิ่ม ...ลูกค้าได้ส่วนลด ..TRUE ได้ลูกค้าใหม่ ...Banana IT ได้ส่วนแบ่งกำไร ...ทุกคนได้ประโยชน์


- ธนาคารอย่าง KBANK เขาอยากปิดสาขาที่ไม่คุ้ม เช่น สาขา Stand Alone เราก็เสนอให้เขามาแบ่งที่เช่าในห้าง ...ลูกค้าธนาคารสะดวกขึ้น เพราะ ธนาคารเปิดยาวขึ้น ...ค่าเช่าก็ลดลง ..แถมแบ่งลูกค้ากัน  


- ร้านมือถือ Stand Alone ...เช่น ร้านมือถือตู้ หรือ ร้านที่เปิดตามห้องแถว ...วันนี้เราก็เสนอ Model Franchise ...ทาง Banana IT ได้คนช่วยขาย ...คนช่วยขาย เขาก็ต้นทุนทำธุรกิจต่ำลง ...คราวนี้ จากที่เราไม่สามารถเข้าไปขายในพื้นที่ห่างไกล เพราะ ไม่คุ้ม ...ต่อไปก็จะคุ้ม ...


....


มีมากกว่านี้ เล่าไม่หมด 


คุณ สุระ เล่าไป ผมก็นั่งฟัง เหมือน กำลังเรียน วิชาการตลาด จากผู้ประกอบการที่รู้จริงทำจริง ...แถมเป็นความรู้ ที่มาจากการลองผิดลองถูก ...เรียกว่า เป็นตำราการตลาดที่เดินได้จริงๆ


4. จุดแข็งของ Banana IT คือ ‘ระบบ’ ...คุณ สุระ เล่าให้ฟังว่า สมัยที่ยังเป็นร้านเล็กๆ ในพันทิป ก็เริ่มคิดในเรื่องของการสร้างระบบ คุมสต็อกสินค้า ...ก็ให้หุ้นส่วนคนนึง ที่เป็น IT เขาเขียนโปรแกรม เพื่อให้เห็น สต็อคสินค้า ...คุณ สุระ บอกว่า เขาเป็นร้านแรกๆ ที่คุม สต็อคได้ดีมาก เพราะ เห็นตลอดว่าขายอะไรไป เหลือเท่าไหร่ อะไรขายก่อน หลัง ...ด้วย ‘ระบบ’ นี่แหละ ที่ทำให้คุณสุระ เริ่มจาก 1 ร้าน จนมี 15 ร้าน ในพันทิป ...ใช้ สต็อคเดียวกันหมด ...จากนั้น พอเริ่มขยายไปข้างนอกก็พัฒนาระบบขึ้นเป็นออนไลน์ทั้งหมด


โอวว !! แข็งมาก ...


คุณหยง นั่งฟังแบบเงียบ เก็บข้อมูลตลอด ...ก็ยิงคำถามสำคัญว่า ‘อะไรคือ Tipping Point ในชีวิต ที่ทำให้คุณสุระมีวันนี้ ...ชีวิตเติบโต ร่ำรวยแบบก้าวกระโดด’


คุณ สุระ บอก มี 2 เรื่อง 


1. ‘คือหนี้ !!’ ...ก่อนตัดสินใจเข้าตลาดหุ้น มีหนี้ส่วนตัวจากการขยายธุรกิจอยู่ 2,000 ล้านบาท ...เพราะ อย่างที่รู้กันว่า สินค้า IT ราคาแพง และ กำไรน้อย ...ทำให้การขยายต้องใช้เงินทุนสูงมาก ...พอหนี้โตถึงจุดนึง จึง คิดว่า การเข้าตลาดคือ ‘ทางไปต่อ’ เพราะ ลดหนี้ลง แล้วใช้เงินจากนักลงทุนมาขยายต่อ


การเข้าตลาดทำให้ Banana IT มีเงินมาขยายต่อ แล้วสร้าง Brand จนแข็งแรง อย่างในปัจจุบัน


2. ‘บทเรียนหุ้นลง หลังจาก IPO’ ...อันนี้คุณ สุระ บอกจำจนตาย ....คือ ก่อนเข้าตลาด มีทั้งกองทุนและ นักลงทุนจำนวนมาก อยากได้หุ้น IPO แต่พอเข้าตลาดไป พอหุ้นวิ่งขึ้นเท่านั้นแหละ ทุกคนขายทิ้งหมดเลย ..จนราคาหุ้นลงไปต่ำกว่าราคา IPO


คุณ สุระ พยายาม จะหาคำตอบ ก็เดินสายไปคุยกับทั้งนักลงทุนรายใหญ่ และ กองทุน เพื่อจะถามว่า ทำไม ขายหุ้นทิ้งกันหมด 


พบคำตอบก็คือ ‘เขาแทบไม่เคยเห็นธุรกิจ ขายคอม ขายมือถือ บริษัทไหนที่เข้าตลาดแล้วดีเลย !!’


คำตอบนี่แหละ ที่ทำให้คุณ สุระ ตั้งใจว่า ‘เขาจะไม่ใช่แค่ร้านขายคอม หรือ ขายมือถือ ธรรมดา ...แต่เขาจะทำ Banana IT เป็นธุรกิจขายเทคโนโลยี โดยไม่ยึดติดว่าต้องเป็นอะไร ...แล้วกล้าเปลี่ยนแปลง และ ทดลองสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา’


นี่คือ คือ คุณ สุระ ....ผู้ประกอบการ ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แล้วสามารถสร้างตัวจากร้านคอมเล็กๆ เป็นอาณาจักร 20,000 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน


ย้ำอีกที่ นี่ไม่ใช่บทความที่เขียนมาแนะนำหุ้น แต่เขียนมาแชร์มุมมอง การสร้างตัว สร้างธุรกิจ และ วิธีคิด ของ Self-made แถวหน้าอีกคนของเมืองไทย  ....คุณ สุระ คณิตทวีกุล


คำนับ 2 จอก !!! 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ