แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

7 ข้อ การเปลี่ยนสิ่งเล็กๆ ให้การลงทุนสร้างผลลัพธ์ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด

 7 ข้อ การเปลี่ยนสิ่งเล็กๆ ให้การลงทุนสร้างผลลัพธ์ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด


การเปลี่ยนสิ่งเล็กๆ ให้ผลลัพธ์เปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด เป็นแนวคิดของ Atomic Habits ของ Jame Clear มาใช้กับการลงทุนได้ดังนี้


1. พลังของการพัฒนาเพียง 1% (The Power of 1%) 

การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ทำอย่างสม่ำเสมอในทุกวันจะส่งผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ในระยะยาว หากคุณสามารถปรับปรุงตัวเองได้ 1% ในแต่ละวัน หลังจากหนึ่งปี คุณจะดีขึ้นถึง 37 เท่า ในทางกลับกัน การแย่ลง 1% ทุกวันก็ส่งผลสะสมไปในทางลบเช่นกัน


2. มุ่งเน้นไปที่ ระบบ ไม่ใช่ เป้าหมาย (Focus on Systems, Not Goals)

การมีระบบที่ดีจะทำให้เกิดความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคุณจะละเลยเป้าหมายไปบ้างก็ตาม


3. การเปลี่ยนพฤติกรรมคือการเปลี่ยน ตัวตน (Identity-Based Habits)

การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนที่สุดไม่ได้มาจากการตั้งเป้าหมายว่าจะทำอะไร (เช่น "ฉันต้องการอ่านหนังสือ") แต่มาจากการตัดสินใจว่าคุณต้องการเป็นคนแบบไหน (เช่น "ฉันคือคนรักการอ่าน") ทุกพฤติกรรมที่คุณทำคือการลงคะแนนเสียงให้กับตัวตนที่คุณต้องการเป็น


4. กฎ 4 ข้อของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม (The Four Laws of Behavior Change)

Clear ได้นำเสนอหลักการง่าย ๆ 4 ข้อในการสร้างนิสัยที่ดี และการทำกลับกัน (Inversion) เพื่อทำลายนิสัยที่ไม่ดี

- ทำให้มันชัด 

- ทำให้น่าดึงดูด

- ทำให้มันง่าย

- ทำให้มันน่าพึงพอใจ


5. กลยุทธ์การจัดเรียงนิสัย (Habit Stacking)

ใช้กฎข้อที่ 1 (ทำให้ชัดเจน) โดยการผูกนิสัยใหม่ที่คุณต้องการสร้างเข้ากับนิสัยเดิมที่คุณทำอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน:


ตัวอย่าง: หลังจากที่ฉันดื่มกาแฟตอนเช้า ฉันจะนั่งสมาธิเป็นเวลา 1 นาที


6. กฎ 2 นาที (The Two-Minute Rule) 

ใช้กฎข้อที่ 3 (ทำให้ง่าย) โดยการย่อพฤติกรรมใหม่ให้เหลือเวอร์ชันที่ใช้เวลาทำไม่เกิน 2 นาที จุดประสงค์คือการเริ่มต้นให้ได้ ไม่ใช่การทำให้สมบูรณ์แบบ

• แทนที่จะ "วิ่ง 30 นาที" ให้เปลี่ยนเป็น "ใส่รองเท้าวิ่ง"

• แทนที่จะ "อ่านหนังสือ 1 บท" ให้เปลี่ยนเป็น "อ่านหนังสือ 1 หน้า"


7. ติดตามและห้ามพลาดซ้ำสอง (Track and Never Miss Twice) 

การติดตามความคืบหน้า (Habit Tracking) ช่วยให้กฎข้อที่ 4 (ทำให้น่าพึงพอใจ) เพราะมันทำให้เห็นหลักฐานความสำเร็จของคุณ การรักษาความสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

คุณสมบัติ 7 ข้อ ของคนที่จะรวยจากหุ้นได้เยอะๆ คืออะไร ?

 คุณสมบัติ 7 ข้อ ของคนที่จะรวยจากหุ้นได้เยอะๆ คืออะไร ?


เอาตรงๆ ก็ต้อง อยู่ตรงข้ามกับคนที่เจ๊งจากหุ้น ดังนี้


1. เงินเย็น …เงินร้อนแพ้ตลอด เพราะ ความผันผวนของราคาจะทำให้คนเงินร้อน ไม่สามารถทนได้ และมักขายในราคาที่ขาดทุนเยอะเสมอ


2. เข้าใจพื้นฐานหุ้นเป็นอย่างดี …ถ้าไม่เข้าใจ เราจะคิดว่าหุ้นที่ขึ้นคือดี และหุ้นลงคือหุ้นไม่ดี …แต่โอกาสรวยต้องซื้อหุ้นดี ตอนราคาลง (เราจึงต้องเข้าใจพื้นฐานหุ้นเป็นอย่างดี)


3. ลงทุนยิ่งยาวยิ่งมีโอกาสรวยกว่า …ถ้าลงสั้นเราจะเจอแต่ความผันผวน แต่พอลงทุนยาว ราคามันจะขึ้นผ่านความผันผวน ทำให้เรามีโอกาสรวยได้มากกว่า


4. ความคาดหวังที่อยู่บนความจริง จะมีโอกาสสำเร็จมากกว่า เช่น ต้องการรวยเร็วในเวลาสั้นๆ อันนี้คือ ความคาดหวังที่หายนะที่สุดในตลาดหุ้น , คาดหวังออมหุ้น แล้วได้เงินปันผล ไปเรื่อยๆ มีโอกาสรวยได้มากกว่า


5. นิสัยที่ไม่ชอบแห่ตามคนส่วนใหญ่ มีโอกาสรวยมากกว่า …พูดง่ายๆ คนที่ไม่ชอบตาม มวลชน และ ข่าวดี มักติดดอยน้อยกว่า ก็เลยรวยได้มากกว่า


6. คนที่มีหลักการที่ชัดเจน มีโอกาสสำเร็จจากการลงทุนมากกว่า เช่น คนที่ชอบซื้อหุ้นเวลาตลาดมีวิกฤต ซื้อทุกรอบที่ตลาดลงเยอะๆ 


7. คนที่ไม่เคยผิดพลาดจากตลาดหุ้น มักมีแนวโน้มที่จะเสียหายหนัก ในอนาคต …พูดง่ายๆ ถ้าไม่เคยเจ๊ง ไม่เคยดอย อย่าซ่า 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

7 ข้อ ต้องรู้ในการตีราคาหุ้นไทยกันใหม่

  7 ข้อ ต้องรู้ในการตีราคาหุ้นไทยกันใหม่ 


1. ‘P/E ตลาดที่ลดลง’ …แปลว่า ถูกลงพร้อมกันทั้งตลาด


2. ‘หุ้น Growth โดนลงโทษ‘ ..ในตลาดขาขึ้น P/E 30 เท่า อาจเป็นเรื่องปกติ …ในขาลง P/E 10 ก็เป็นเรื่องปกติ …แปลว่า หุ้นลงได้ 3 เท่า โดยที่พื้นฐานไม่เปลี่ยน


3. ’ปันผล Yield ช่วยค้ำราคาหุ้น’ …ในตลาดขาลง หุ้นที่ราคาแข็ง ไม่ลงหนัก คือ หุ้นที่ปันผลสูง


4. ‘หุ้นที่ไม่มีสภาพคล่อง ราคาจะไม่สะท้อนพื้นฐาน’ …หุ้นที่ไม่มีสภาพคล่องหรือหุ้นเบา อาจมีราคาที่แกว่งแบบไม่สอดคล้องกับพื้นฐาน


5. ‘ต้องประเมินในเชิงคุณภาพมากกว่าตัวเลข‘ …ตรงนี้ใช้ศิลปะกับประสบการณ์ในการมองธุรกิจมากขึ้น


6  ’หนี้เป็นส่วนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ‘ …ในยุคดอกเบี้ยขาขึ้น ต้องระวังบริษัทที่มีหนี้เยอะๆ เพราะต้นทุนการเงินสูงขึ้น จนอาจเป็นวิกฤตได้เลย


7. ’พยายามอ่านเกมของผู้ถือหุ้นใหญ่’ …อ่านให้ออกว่า เราอยู่ฝั่งเดียวกับผู้ถือหุ้นใหญ่


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

สร้างพอร์ตปันผลในเวลานี้ อย่างไรให้เกษียณสบายๆ

 สร้างพอร์ตปันผลในเวลานี้ อย่างไรให้เกษียณสบายๆ 


1. การสร้างพอร์ตเกษียณต้องตั้งเป้าซื้อหุ้นเพื่อเอาปันผล …เน้นถือยาวรับ Passive Income ไม่ขาย …ซื้อแล้วถือไม่ขาย


2. การจะซื้อแล้วไม่ต้องขาย ต้องซื้อต้นรอบ ..ต้นรอบจะได้หุ้นราคาถูก และปันผลสูง …ส่วนใหญ่ 5% ขึ้น


3. เลือกธุรกิจที่เป็น Cash Cow …ธุรกิจอิ่มตัวนั่นเอง ไม่เน้นโต …เลือกธุรกิจที่สินค้าและบริการที่ลูกค้าแน่นอน 


4. สร้างพอร์ตที่มีทั้งหุ้นใหญ่และหุ้นเล็ก …หุ้นใหญ่จะให้ปันผลที่สม่ำเสมอ …ส่วนหุ้นเล็ก จะได้การเติบโตของราคาหุ้นด้วย


5. เลือกหุ้นที่เจ้าของถือเยอะ …ดูง่ายๆ คือ ผู้ถือหุ้น ..หนี้ไม่สูง หรือ ทยอยลดหนี้ …จ่ายปันผลเยอะ …โอกาสเพิ่มทุนต่ำ


6. ถ้าเริ่มซื้อได้ที่ต้นรอบ ก็สามารถทยอยซื้อไปเรื่อยๆ แล้วให้ไปขายประมาณ 1 ใน 3 เวลาที่ตลาดคึกคัก ช่วงหุ้นแพง (แล้วเอาเงินสดที่ขายได้ ไว้รอซื้อเวลาหุ้นลงรอบถัดไป)


7. พอร์ตปันผลนี้ควรแยกให้ชัดเจนกับพอร์ตเทรด …การแยกให้ชัดเพื่อให้เราไม่มาจับจดกับพอร์ตนี้ …ให้มองพอร์ตนี้ซื้อหุ้นปันผล เหมือนออมเงิน ออมหุ้น เก็บไปเรื่อยๆ 


การสร้างพอร์ตแบบนี้ ใช้เวลาประมาณ 10 ปีขึ้นไป …เราจะเข้าใจเมื่อเราทำผ่านรอบใหญ่ของตลาดนั่นเอง


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ