วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
การหาเงิน ที่ไปสายตรงที่สุด คืออะไร
"การหาเงิน ที่ไปสายตรงที่สุด คืออะไร"
มาคุยเรื่องการหาเงินกันก่อน
คนส่วนใหญ่คิดว่า “การหาเงินต้องทำงาน” ...เราถึงเรียนหนังสือ แล้วเรียนต่อมหาวิทยาลัย เพื่อสุดท้ายจะได้มีความรู้ไปหางาน ...เพื่อสุดท้าย พอมีงานทำ ก็จะได้เงิน
เฮ้ย!! ทำไมมัน “อ้อมโลกอย่างนั้นล่ะ”
คุณเคยตั้งคำถามไหมว่า “ในโลกนี้ มีวิธีหาเงินที่ง่ายกว่า ไปหางาน แล้วทำงาน ถึงจะหาเงิน ...คือ มีไหมที่เราเรียนรู้วิธีหาเงินได้เลย”
มีครับ ...มาดูวิธีหาเงินกัน
1. “หาปริญญา เรียนให้เก่ง แล้วหางานทำ” ..อันนี้เป็นสิ่งที่ถูกสอนกันมา ...เรียนให้เก่งนะลูก ..เรียนเก่งจะได้สอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ได้ ...พอเรียนจบแล้ว เดี๋ยวจะได้ทำงานในบริษัทดีๆ ...วิธีนี้ใครๆ ก็พูด ผมคงไม่ต้องเอ่ยถึงมาก ไปดูวิธีต่อไปเลย
2. “หางานทำเลย” ...อันนี้คนส่วนใหญ่ก็รู้ คือ ไม่มีความรู้ ไม่มีใบปริญญา ..นั่งรถไปกรุงเทพเลย ...ไปดูว่า มีประกาศรับสมัครงานที่ไหนบ้าง ...ข้อเสียของวิธีนี้ คือ “เราจะได้ งานหนักเงินน้อย” ..นี่เคยได้ยินคนบ่นๆ ว่า ทำงานหนักมาก แต่ไม่รวยสักที ก็เพราะ เขาทำงานแบบนี้ ...งานที่เน้นแรงงานเป็นหลัก ...ต้องออกแรงถึงจะได้เงิน ...ทำงานที่ใครๆ ทำแทนก็ได้ ...ก็เลยเหนื่อยไง เพราะ งานแบบนี้ทำเท่าไหร่ เงินก็ยังน้อย ไม่มีทางรวย ..ถ้าเราไม่ทำก็มีคนอื่นอยากทำแทน
3. “หาความรู้ก่อนทำเงิน” ผมอยากเน้นในส่วนที่สามนี้ คือ ในยุคนี้เราสามารถทำเงินได้เลย หากเรามีความรู้ ..เช่น ตลาดหุ้น ถ้ามีความรู้ก็หาเงินได้ทันที เขาไม่ได้ถามว่า จะเล่นหุ้น จบอะไรมา ..ไม่สน
..สนอย่างเดียว คุณมีความรู้ให้หาเงินได้เป็นพอ / ทำ Start-Up เริ่มธุรกิจส่วนตัว
...อันนี้ไม่ต้องจบปริญญาก็ได้ แต่คุณต้องมีความรู้ในสิ่งที่ทำ ..ไม่ง่ายนะ แต่มันก็เป็นสนามเปิด ที่ไม่ได้ถามว่าจบอะไรมา ...สิ่งเดียวที่เขาใช้วัดว่าคุณจะประสบความสำเร็จจากการทำ Start-Up หรือ ธุรกิจส่วนตัว ก็คือ “คุณต้องแก้ปัญหา และ สร้างประโยชน์ ให้ลูกค้าให้มากที่สุด ...ถ้าคุณทำได้ ลูกค้าก็จะจ่ายเงินให้คุณ”
ที่เล่ามาเพื่อจะบอกว่า “การหาเงิน” มันมีโอกาส มากกว่า ต้องเรียนหนังสือเก่ง ...ไม่ต้องเรียนเก่งก็ได้ แต่คุณต้องเก่งในสิ่งที่ทำ
อันนี้แหละที่เราอยากคุยกันแบบเจาะลึก คือ “หาความรู้ให้เก่ง ในเรื่องที่อยากจะทำ แล้วหาเงินกันเลย”
ผมแนะนำให้คนอายุ น้อยๆ เริ่มหาเงินเลย เรียนไปหาเงินไปก็ได้ ...ลงทุนเลย เรียนไป ลงทุนไป ...พอเรียนจบ ก็จะเก่งเลย เพราะ เรียนและทำจริงควบคู่กันไป
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
เมื่อคืน 1 มีนาคม 2555 คุณแม่โทรมาบอกว่า "แพ้ท!! คุณตาท่านเสียแล้ว" ผมก็รู้สึกใจหายอย่างมาก เพราะคุณตาเป็น เสมือนต้นแบบ ที่สอนให้ผ...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
6 ปัจจัย ที่ทำให้พอร์ตคุณโตแบบก้าวกระโดด 1. ’เคยพอร์ตระเบิด แต่ยังไม่เลิกเล่นหุ้น’ …ต้องบอกว่า นักลงทุนที่สามารถปั้นพอร์ตให้โตก้าวกระโดดแทบ...
-
6 ข้อที่ผมหลงใหล …เกษียณแล้วไปไหน ? 1. ‘ถึงจุดที่ต้องถอดหัวโขนแล้ว แต่ Ego ยังอยู่‘ …หลายครั้งที่คนเกษียณจะมองว่าตัวเองหมดความสำคัญ (ให้หาส...
-
'คาถาหาโอกาส ..ท่องในใจ ใครเจอเราคนนั้นโชคดี!!' วันนี้พี่หนิง เรียกตัวผมไปสัมภาษณ์ที่ช่อง 3 ..ประเด็น การหาโอกาสธุรกิจ และ ...
-
10 ข้อเสีย ของลูกคนรวย เดี๋ยวนี้เราเห็นชีวิตคนรวยมากขึ้น จาก Social ..ส่วนใหญ่ก็มักจะปลอม ..ไอ้มีจริงๆ ไม่ค่อยโชว์ ..แต่ทั้งหมด เรา...
-
5 ข้อ ทำไมเราไม่ควรล้างพอร์ตแม้ว่าตลาดจะแย่แค่ไหนก็ตาม 1. ‘เวลาหุ้นลงเราก็แค่ขายหุ้น แต่จุดที่เราอยากจะล้างพอร์ตแปลว่า ตลาดแย่จนไม่ไหวแล้ว‘...
-
6 จุดตายของธุรกิจรุ่นใหม่ ที่ทำไมขายดีแต่เจ๊ง 1. ‘ไม่เข้าใจต้นทุนของตัวเอง’ …คนรุ่นใหม่มักเร่งขยายธุรกิจจนลืมต้นทุน …ยิ่งขยายกำไรเลยยิ่งลด ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น