‘อะไรใช้ ตีมูลค่าหุ้น ?’
ทุกคนมองเห็น ราคาหุ้น เหมือนกันทุกคน ..แต่สิ่งที่คนมองต่างกันคือ ‘มูลค่า’
มีรุ่นน้อง ถามผมเยอะว่า ผมใช้อะไรในการตีมูลค่าหุ้น ...ขอสรุปคร่าวๆ ดังนี้
1. ‘หุ้นที่ให้ปันผลสูง สม่ำเสมอ’ ...หลายคนชอบพูดว่า เวลามีวิกฤต บางบริษัทจ่ายปันผลลดลง หรือ บางปีไม่จ่าย ...ก็ไม่แปลก ...ดังนั้น เวลาวิเคราะห์เราจะคำนวณว่า ถ้าภาวะปกติ บริษัทสามารถจ่ายปันผลได้ประมาณปีละกี่บาท ...คำนวณจากกำไรสะสม และ Cashflow ก็รู้แล้ว
2. ‘หุ้นอยู่ในช่วงต้นรอบ’ ...พอเข้าใจ ‘รอบหุ้น’ เราจะรู้เลยว่า หุ้นทุกตัว วิ่งเป็นรอบ ไปเรื่อยๆ ...เช่น สมมุติหุ้นต้นรอบ ราคา 5 บาท พอมันขึ้นไปจนถึงยอด อาจจะ 15 บาท พอมันจบรอบ มันอาจย่อลงมาที่ 7 บาท ...เป็นวัฏจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ ...ตลาดเลยสร้างเศรษฐีและยาจก ตลอดเวลา วนไปเรื่อยๆ
ใครเข้าใจตรงนี้ ก็เหมือน เข้าใจสัจธรรมของตลาดหุ้น ...คนมีความรู้เรื่องหุ้น ถึงไม่ต้องกลัวไม่รวย เพราะ เมื่อรอบมันมาถึง เดี๋ยวก็รวยเองครับ
3. ‘บริษัทที่ทำธุรกิจที่จำเป็น’ ...ในวิกฤตผมมักจะหาหุ้นที่ทำของจำเป็น เพราะ พอวิกฤตผ่านไป คนจะวิ่งเข้าหาของจำเป็นก่อน
แต่ถ้าภาวะปกติ ผมจะหาธุรกิจที่ทำของไม่จำเป็น ของไร้สาระ เพราะ ในภาวะปกติ คนจะใช้เงินไร้สาระกว่า ดังนั้น ของไม่จำเป็น ทำกำไรดีกว่า ...สรุป คือ อ่านสถานการณ์ให้ขาด ชนะทุกรอบครับ
4. ‘ดูค่าของเงิน’ ...บางครั้งผมจำเป็นต้องซื้อหุ้น ไม่ใช่เพราะหุ้นมันดี แต่เงินสดมันแย่ต่างหาก ...เช่น ภาวะปัจจุบัน รัฐบาลทั่วโลก เพิ่ม Supply เงินแบบไร้สาระ ...ไม่ต้องเป็นนักเศรษฐศาสตร์ ก็คิดได้ว่า อะไรที่ Supply มันเพิ่ม มูลค่ามันต้องลดลง ...ดังนั้น เราต้องมองหาสินทรัพย์ ที่มันรักษามูลค่าได้ดีที่สุด หรือ แย่น้อยที่สุด แล้วกอดมันไว้
5. ‘ใช้ความกลัวเป็นเพื่อน’ ...บางครั้งเราก็ งง จนมองไม่ออก ว่าควรทำอะไร ...ถ้าผมมองไม่ออก ผมจะใช้ ความกลัว มาเป็นเพื่อนช่วยตัดสินใจ ...ดังนั้น เมื่อไหร่ที่ผมกลัว ผมจะรู้เลยว่า ตอนนั้นมี ประตูโอกาสเปิดอยู่ ...ผมก็แค่มองหาว่า ประตูโอกาสนั้นอยู่ตรงไหน
6. ‘ดูว่าเจ้าของซื้อหรือขาย’ ...ช่วงหุ้นแพง เจ้าของมักทำ Big Lot ขายหุ้นตัวเองออกไป ช่วงนั้นน่ะ เดาได้เลยว่าหุ้นแพง ....แต่ช่วงหุ้นถูก เจ้าของจะซื้อหุ้นเพิ่ม บางทีเจ้าของ ยอมกู้ธนาคารมาซื้อหุ้นตัวเองเพิ่ม ก็เดาง่ายๆ ว่าหุ้นมันถูก
7. ‘ดูว่าบริษัทลงทุนเพิ่มไหม’ ...อันนี้ต้องดูงบ Cashflow ในส่วนของ Investment ถ้า ติดลบ คือ ดี แปลว่า ขนาดวิกฤต บริษัทยังสามารถขยาย ลงทุนเพิ่ม ...แต่ถ้าเป็นบวก ต้องระวัง มันมีกลิ่นตุๆ ละ
ทั้ง 7 ข้อนี้ เป็นเบื้องต้น ที่ช่วยให้เรา เข้าใจ ‘มูลค่า’ หุ้นที่เราสนใจได้ดีขึ้นครับ
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
Sunday, April 5, 2020
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
6 ข้อ กินรวบ กินยาว กินใหญ่ สไตล์เจ้าสัวไทย 1. ลงทุนแบบไม่สนราคาหุ้น …ซื้อเก็บอย่างเดียว …ใช่!! แทบไม่มีขาย ซื้ออย่างเดียว …ถ้าจะขายก็แค่เว...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
ความน่ากลัวของคำว่า New Normal ในโลกธุรกิจและการลงทุน !! 1. เรามักเจอคำอธิบายว่า New Normal ในเวลาที่ไม่ปกติ …เช่น น้ำมันแพงกว่าปกติ จนคนพู...
-
6 ข้อ ที่เราควรรู้ว่าทำไม VI ยัง work ในตลาดหุ้นไทย !! 1. VI คือ การมองยาวในขณะที่อื่นมองสั้น …การมองยาวซื้อแล้วถือ ส่วนการมองสั้นคือการซื้...
-
7 ข้อควรรู้ สินทรัพย์ที่ดี สามารถทำให้เราขาดทุนมหาศาล หรือทำร้ายเราได้อย่างไร ? 1. สินทรัพย์ในภาวะปกติเป็นสิ่งที่เราเอาไว้สะสมความมั่งคั่ง ...
-
8 ข้อสรุป The Almanack of Naval Ravikant Selfmade Billionaire ลูกครึ่งอินเดีย …อพยพมาอยู่อเมริกาตอน 9 ขวบ เลี้ยงโดยแม่เลี้ยงเดี่ยว …เป็นนั...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
ความแตกต่างอย่างสุดขั้ว ‘พอร์ตเพื่อรวย‘ ต่างกับ ’เพื่อรักษาความรวย’ ยังไง ? 1. พอร์ตเพื่อรวย คือ มองหาโอกาส ’เชิงรุก’(Active) …ส่วน เพื่อร...
-
เคยสงสัยไหมว่าบางคน ‘โคตรเก่ง โคตรฉลาด’ แต่ทำไมยังไม่รวยสักที ? 1. มี Lifestyle inflation …พอมีรายได้เพิ่ม ก็มีรายจ่ายเพิ่มมากกว่าตลอด …ใช้...
-
เอาไงกับหุ้นน้ำมัน ในวันที่ผันผวนสุดๆ แล้ว 1. หุ้นน้ำมันยังลงทุนระยะยาวได้ …เพราะโลกเรายังใช้น้ำมันไปอีกนาน 2. หุ้นน้ำมันลงทุนสูง ทำให้ธุรก...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
No comments:
Post a Comment