‘คนเงินไม่เยอะ ควรซื้อหุ้นเล็ก หรือ หุ้นใหญ่ดี’
นี่เป็นอีกคำถามคลาสสิคสำหรับมือใหม่ ชอบถามผมว่า ‘พี่ครับ ผมเงินไม่เยอะ จะเล่นหุ้นเล็กหรือหุ้นใหญ่ ดีกว่า ?’
ก่อนอื่น ผมต้องถามกลับว่า ‘เป้าหมายคืออะไร ...อยากมั่นคง หรือ อยากรวยเร็ว ?’ ...เพราะจริงๆ มันไม่ได้เกี่ยวกับ ขนาดของพอร์ต แต่มันเกี่ยวกับ เป้าหมายที่เราต้องการจะได้ มากกว่า
มันต่างกันมากเลย ...อธิบายอย่างนี้
1. ‘ถ้าอยากมั่นคง ผมก็จะบอกว่า ให้เล่นหุ้นใหญ่’ ...ยกตัวอย่าง สมมุติคุณซื้อหุ้นอย่าง AOT , CPALL ,PTT อะไรพวกนี้ มันคือ หุ้นที่เชื่อขนมกินได้ว่า ไม่มีทางเจ๊ง
แต่ข้อเสียของหุ้นที่ไม่มีทางเจ๊ง คือ มันจะเป็นหุ้นสิบเด้ง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย จากจุดนี้
ในอดีต มันอาจจะเป็นหุ้น 10 เด้ง หรือ 100 เด้ง มาก่อน ...แต่ถ้าถามว่า หลังจากนี้ มันจะเป็นหุ้น 100 เด้งได้ไหม ? ...ตอบเลยว่า ‘ไม่ได้!!’
แต่ถ้าถามว่า ผ่านวิกฤตไป มันจะดีไหม ...ตรงๆ นะ มันรอดอยู่แล้ว ....ผมแทบไม่เคยสงสัยเลยนะ ว่าหุ้นใหญ่ๆ แบบนี้ สุดท้าย ถึงราคามันจะลงไปแค่ไหน ...วันนึงมันก็ต้องกลับมาเป็นขาขึ้น ทำ New High ใหม่ ...แต่ถ้าจะหวัง รวยเปลี่ยนชีวิต มันไม่ใช่ไง
ถ้าคุณเป็นเศรษฐี มีพอร์ตแบบ ร้อยล้านขึ้น ผมจะบอกว่า ‘คุณเก็บหุ้นพวกนี้เป็นหลัก’ เพราะ ถ้าคุณมี 100 ล้าน มันได้ 1 เด้ง คุณก็ดีใจโคตรๆ แล้ว
แต่ถ้าพอร์ตคุณ ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น ผมจะแนะนำให้คุณเก็บหุ้นแถว 2 ..หุ้นชั้น 2 ให้มากขึ้น
2. ‘ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คราวนี้ คุณจะเล่นหุ้นชั้น 1 มันก็ยาก’ ....คิดแบบนี้ ถ้าหุ้นมันจะขึ้นสัก 5 เด้ง ...กำไรบริษัท ต้องโตอย่างน้อย 100% - 200% ...คุณคิดดูนะ ถ้าคุณจะให้ 7-11 กำไรโตอีก 100% มันง่ายไหมล่ะ ?
ไม่ง่าย !! ...ผมว่า 7-11 ต้องควบรวมบริษัทอื่นอีกมหาศาล โคตรเหนื่อย ....เทียบกับ หุ้นแถวสอง ที่บริษัทกำไรสัก 50 ล้านต่อปี
ถ้าจะโตเป็น 100 ล้าน มันไม่ได้ยากเท่า 7-11 โต 2 เท่า
แต่!! ...แต่ความเสี่ยงย่อมสูงขึ้น จริงไหม ?
การซื้อหุ้นชั้น 2 แถว 2 ...ผมต้องหา ตัวที่เป็นผู้นำในธุรกิจที่เขาทำ ซึ่งตรงนี้ ต้องใช้พลังในการวิเคราะห์พอสมควร ...ไม่ใช่หุ้นแถว 2 ซื้อได้ทุกตัว ...เพราะ เอาเข้าจริง หุ้นแถว 2 บางตัวอาจไม่รอด ...เจ๊งได้นะ !!
สรุป ‘ถ้าพอร์ตผมเล็ก ผมจะ ให้น้ำหนัก หุ้นแถวสองมากกว่า แต่ต้องวิเคราะห์ดีๆ ทำการบ้านเยอะๆ’
ถามว่า แล้วหุ้นชั้น 1 ที่ลงมา ก็อาจเก็บไว้บ้าง ‘เพื่อความมั่นคงทางจิตใจ ... Yield คุ้ม (ยังไงก็ดีกว่าฝากธนาคาร) ...แค่มันไม่ได้ทำให้เรารวยก็เท่านั้นเอง’
ที่อธิบายมา น่าจะตอบข้อสงสัยของหลายๆ คนได้นะครับ ...ก็เอาใจช่วย สู้ สู้ ครับ
‘วิกฤต มีโอกาส ...อย่างน้อยก็ควรเริ่ม ออมในหุ้น กันนะครับ’
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สนใจเปิดบัญชีหุ้น หรือ ออมหุ้น คลิ๊กที่นี่เลย
http://bls.tips/pawawitTeam
หรือ โทร 02-618-1111 บอกทีมงาน ว่า “เอาแบบออมหุ้นอัตโนมัติ ที่พี่แพ้ทแนะนำ”
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
สินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซื้อในเวลาที่ไม่มีใครต้องการแล้วถือ จะทำให้เรารวยได้มากที่สุด !! 1. สินทรัพย์ คือ สิ่งที่มนุษย์ต้องการ และ ...
-
งานหนักแต่ให้ผลน้อย ต่างจากงานน้อยแต่ให้ผลเยอะยังไง ? 1. ความชำนาญของเรา …ยิ่งเราชำนาญ เราจะยิ่งสามารถทำงานที่ออกแรงน้อย แต่ให้ผลลัพธ์เยอะ ...
-
ถกหนังสือขายดีระดับโลก The Let them Theory มาใช้กับการลงทุนและการเป็นผู้นำที่ดีขึ้น !! หนังสือเล่มนี้ติด Best Seller ระดับโดย เขียนโดย Mel ...
-
การลงทุนอะไร ที่ผู้เล่นทุกคนกำไรหมด รวยหมด ? 1. ‘เรายังถือสินทรัพย์นั้นไม่นานพอ’ …เพราะทุกอย่างถ้าถือนานพอ จะเข้าสู่วัฏจักร ’เกิดขึ้น-ตั้งอ...
-
7 ข้อควรรู้ สินทรัพย์ที่ดี สามารถทำให้เราขาดทุนมหาศาล หรือทำร้ายเราได้อย่างไร ? 1. สินทรัพย์ในภาวะปกติเป็นสิ่งที่เราเอาไว้สะสมความมั่งคั่ง ...
-
8 ข้อสรุป The Almanack of Naval Ravikant Selfmade Billionaire ลูกครึ่งอินเดีย …อพยพมาอยู่อเมริกาตอน 9 ขวบ เลี้ยงโดยแม่เลี้ยงเดี่ยว …เป็นนั...
-
เข้าใจ Wealth vs Cashflow เพื่อการลงทุนระยะยาวที่ดีขึ้น 1. Wealth คือ ความมั่งคั่งของเราทั้งหมด รวมสินทรัพย์ทุกอย่างที่เราถือครอง บ้าน ที่...
-
เอาไงกับหุ้นน้ำมัน ในวันที่ผันผวนสุดๆ แล้ว 1. หุ้นน้ำมันยังลงทุนระยะยาวได้ …เพราะโลกเรายังใช้น้ำมันไปอีกนาน 2. หุ้นน้ำมันลงทุนสูง ทำให้ธุรก...
-
ความน่ากลัวของคำว่า New Normal ในโลกธุรกิจและการลงทุน !! 1. เรามักเจอคำอธิบายว่า New Normal ในเวลาที่ไม่ปกติ …เช่น น้ำมันแพงกว่าปกติ จนคนพู...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น