วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558
บทเรียนจาก Omakase จริงๆ
"บทเรียนจาก ร้านอาหารตามใจเชฟ ...มีด้วยหรือ ?
ม่ีครับ ..เขาเรียกร้านแนวนี้ว่า ‘โอมากาเซะ’ - Omakase เป็นร้านญี่ปุ่น แนว "อาหารตามใจเชฟ" ..คำว่า Omakase เป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า "I'll leave it to you" (ถ้าแปลเป็นไทย ก็คือ เชฟจะทำอะไรก็จัดมาเลย !!)
ดีไหม ? ...ผมว่าดีนะ ถ้าเรามีร้านอาหารสักร้าน ที่ลูกค้าเลือกไม่ได้ ...เราเลือกเองว่า ลูกค้าต้องกินอะไร
แล้วจะดีมากเลยที่ ลูกค้าทั้งเลือกไม่ได้ แถมต้องจ่ายแพง มาก ๆ ...ครับ !! ฟังดูโคตรขัดความรู้สึก แต่เชื่อไหมว่า ร้านอาหารแนวนี้ ฮิตในหมู่คนรุ่นใหม่ และ ก็ฮิตมากขึ้นเรื่อยๆ ...เคยถามไหมว่า ทำไมคนเราถึงชอบร้านแนวนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ผมว่า คนทำร้านอาหาร โดยเฉพาะตามสั่ง ฟังเรื่องนี้แล้วน้ำตาแทบร่วง ...โดยเฉพาะคนที่เคยทำร้านอาหารอย่างผม จะทราบเลยว่า ร้านอาหารมีสิ่งที่ปวดหัวมากที่สุดคือ Stock สินค้า ..เราไม่รู้ว่า ลูกค้าจะเข้ามากหรือน้อยวันไหน ทำให้ต้องสั่ง Stock มาเกิน บางครั้งก็เหลือทิ้ง ..บางทีก็ต้องทิ้ง เพราะไม่มีใครสั่งจนไม่สด ...ผมเคยฝันว่า จะเป็นไปได้ไหมที่ เราสามารถรู้ความต้องการของลูกค้าล่วงหน้า -- แต่กลายเป็นว่า ร้านอาหารญี่ปุ่นแนว Omakase ทลายข้อจำกัดทุกข้อ ...ผมยกให้เป็น สุดยอดแนวคิดของร้านอาหารเลยก็ว่าได้
ดังนี้
1. ลูกค้าให้เชฟเลือกเมนูอาหารให้ ทำให้เชฟสามารถเลือกวัตถุดิบที่สดที่สุด ดีที่สุดในตลาด มาให้ลูกค้า เพราะ เชฟกำหนดเมนู ..ผลก็คือ ได้วัตถุดิบอาหารขั้นเทพ และ ดีที่สุดในแต่ละฤดูกาล
2. ไม่มี Stock เหลือทิ้ง เพราะ ร้านอาหารแนว Omakase ต้องจองล่วงหน้า (ไม่งั้นแทบไม่มีที่นั่ง) ทำให้รู้ว่า แต่ละวันจะใช้วัตถุดิบเท่าไหร่ค่อนข้างแน่นอน กำหนด Stock ได้เป๊ะ !!
3. ร้านแนว Omakase ขาย "ตัวเชฟ" พอๆกับ ขาย "อาหาร" ..ส่วนใหญ่เป็นเชฟมีชื่อ หรือ กำลังจะมีชื่อ เพราะ การกินอาหารแนวนี้ มันเหมือนการแสดงโชว์ มากกว่า การนั่งกินอาหาร ..ใช่!! มันคือ งานศิลปะประเภทหนึ่ง แต่เพียงแค่มันหยิบใส่ปากแล้วเคี้ยวได้ ก็เท่านั้นเอง ...ดังนั้น ร้านแนวนี้ตั้งราคาอาหารไว้สูงมาก ..ทำให้สามารถให้สิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ..บริการให้สุด ..วัตถุดิบให้สุด ...ให้สิ่งสุดยอดไม่ต้องยั้ง
ลองเอาแนวคิดของร้าน Omakase มาดูปรับใช้กับการทำธุรกิจของเรา ผมว่าน่าสนใจ
เพราะ วันนี้คนรุ่นใหม่ เขา เบื่อกับทางเลือก ..แถมอยากได้สิ่งที่ดีที่สุด ...ลองคิดซิครับว่า ธุรกิจเราจะตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่อย่างไร ?
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
เมื่อคืน 1 มีนาคม 2555 คุณแม่โทรมาบอกว่า "แพ้ท!! คุณตาท่านเสียแล้ว" ผมก็รู้สึกใจหายอย่างมาก เพราะคุณตาเป็น เสมือนต้นแบบ ที่สอนให้ผ...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
6 ปัจจัย ที่ทำให้พอร์ตคุณโตแบบก้าวกระโดด 1. ’เคยพอร์ตระเบิด แต่ยังไม่เลิกเล่นหุ้น’ …ต้องบอกว่า นักลงทุนที่สามารถปั้นพอร์ตให้โตก้าวกระโดดแทบ...
-
6 ข้อที่ผมหลงใหล …เกษียณแล้วไปไหน ? 1. ‘ถึงจุดที่ต้องถอดหัวโขนแล้ว แต่ Ego ยังอยู่‘ …หลายครั้งที่คนเกษียณจะมองว่าตัวเองหมดความสำคัญ (ให้หาส...
-
'คาถาหาโอกาส ..ท่องในใจ ใครเจอเราคนนั้นโชคดี!!' วันนี้พี่หนิง เรียกตัวผมไปสัมภาษณ์ที่ช่อง 3 ..ประเด็น การหาโอกาสธุรกิจ และ ...
-
10 ข้อเสีย ของลูกคนรวย เดี๋ยวนี้เราเห็นชีวิตคนรวยมากขึ้น จาก Social ..ส่วนใหญ่ก็มักจะปลอม ..ไอ้มีจริงๆ ไม่ค่อยโชว์ ..แต่ทั้งหมด เรา...
-
9 ข้อ คนรวยรุ่นใหม่ เขารวยจากอะไรกัน 1. ‘รวยจากความดัง‘ …ยุคนี้เราปั้นตัวเองได้ด้วย Social ..ใช้ความความดังหาเงิน 2. ’ทำของแปลกใหม่‘ …พอแป...
-
5 ข้อ ทำไมเราไม่ควรล้างพอร์ตแม้ว่าตลาดจะแย่แค่ไหนก็ตาม 1. ‘เวลาหุ้นลงเราก็แค่ขายหุ้น แต่จุดที่เราอยากจะล้างพอร์ตแปลว่า ตลาดแย่จนไม่ไหวแล้ว‘...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น