แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

แกะรอยรอบ Social Network (แฉตัวเอง!!) ตอนที่ 1

กลับมาเจอเพื่อนเก่าๆ ที่ห่างหายไปนับสิบๆปี ด้วย “Facebook”



เรื่องมันมีอยู่ว่า ปีที่แล้ว ได้เกิดมีเด็กธรรมศาสตร์คนนึง อยากจะรวมกลุ่มเพื่อนๆที่ห่างหายกันไปนาน …”จึงเอา Facebook ขึ้นมาแล้วก็ตั้งเป็น Group “Kor Kai Friends”

เกริ่นหน่อยเกี่ยวกับกลุ่มก้อนใน เด็กบัญชีธรรมศาสตร์ ..ผมถือเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่ม กอไก่ ที่ถูกตั้งขึ้นมาเป็นกลุ่มๆในคณะบัญชี หลังจากที่เด็กใหม่สอบติดแล้วกำลังจะเดินทางเข้ามาเป็นน้องใหม่ในคณะนี้

“มันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น สำหรับเด็กใหม่อย่างผมในเวลานั้น ที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม กอ ไก่ ..แต่พอหันไปกลุ่ม ข ไข่ หรือกลุ่มอื่นๆ กลับมองเห็นกลุ่มนั้น มีสาวสวยที่น่าตาน่าดึงดูดใจมาก “หน้าซีด!! อยู่คนละกลุ่ม ซวยเลยตู” (สาเหตุที่คณะบัญชีธรรมศาสตร์ รุ่นพี่ของแต่ละกลุ่มก็จะแบ่งรุ่นน้องออกเป็นกลุ่มๆ จุดมุ่งหมายก็เพื่อ แข่งกันร้องเพลงเชียร์)

“อ้า!!” คนนอกอาจไม่รู้ว่า …การแบ่งกลุ่มของเด็กคณะบัญชีธรรมศาสตร์ เป็นกลุ่มย่อยๆ ก,ข,ค,ง,จ,ฉ,ช…. แล้วเอาทุกกลุ่มมาแข่งกันร้องเพลง เพื่อชิงถ้วยรางวัลของคณะ มันมีความหมายมากกว่า แค่แบ่งกลุ่มร้องเพลง

โดยปกติแล้ว การเรียนในสถาบันทั่วไป ก็คือ เรียนจบก็สะบัดตูดแล้วจากไป แต่ที่ธรรมศาสตร์เขาต้องการให้ ผู้เรียนรู้สึกว่า นี่คือสถาบันที่ตัวเองเป็นส่วนหนึ่ง (ตรงนี้มหาวิทยาลัยที่เข้ายากๆ ทุกแห่ง ก็พยายามทำ ..อย่างของต่างประเทศ Harvard หรือตัวย่อ HBS นี่ก็ “ตักสิลา ของธุรกิจเลย” …นี่ยิ่งบ้าสถาบันเข้าไปอีก และจะว่าไปแล้ว ไอ้ Facebook เองนี่ ก็มีจุดเริ่มต้น หรือ รากฐานความคิด มาจาก Harvard นั่นเอง)

ผมว่าหลายๆคนคงได้ดู หรือไม่ก็อ่านหนังสือเกี่ยวกับ Social Network มาบ้าง ..อย่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ค จริงๆไม่ใช่ บิดาของ Social Network อะไรหรอก ..ไอ้ Social Network จริงๆ มันก็คือ รากฐานของสถาบันการศึกษาที่เราเรียกว่า สมาคมศิษย์เก่า ที่ตั้งมาเป็นร้อยๆปีแล้ว เพียงแต่ Facebook มันเป็นการพัฒนาโครงสร้างการติดต่อ ที่วางอยู่บน Internet ซึ่งทำได้ดีกว่า Social Network บน Internet อื่นๆ เช่น Hi5 , Myspace …ก็เลยดังสุดๆ

“บางครั้งคุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้สร้าง เพียงแค่เลียนแบบเขา แต่ทำได้ดีกว่า ใช้ง่ายกว่า ก็สามารถรวยได้ -- นี่แหละที่ Facebook ทำ”

เอาล่ะ หลายคนอ่านถึงตรงนี้ อาจเริ่ม งง ว่า ผมเล่าจาก Facebook สร้าง Group ขึ้นมา แล้วก็เล่าที่มาของ โครงสร้างแนวคิดของ Social Network จากนั้นก็โยงกลับมาที่ Facebook … “นี่แหละ ผมว่า หลายๆคนคงเริ่มเห็นภาพที่ผมพยายามจะสื่อแล้ว”

โครงสร้างของ Social Media จริงๆแล้ว ก็คือ โครงสร้างของ การรวมกลุ่มแบบ Exclusivity คล้ายๆสมาคมศิษย์เก่าของที่ต่างๆ เพียงแต่การวาง Platform ในการติดต่อสื่อสารกันของ Facebook มันวางอยู่บน Internet เลยทำให้การติดต่อสื่อสารกันของสมาชิก มันง่ายและประหยัดกว่า การส่งจดหมายแบบเดิมๆที่สมาคมเหล่านี้ใช้อยู่

“คุณกรณ์ สารภาพลงไปใน Facebook ของเขาเลยว่า เขาชอบ Facebook มาก เพราะมันทำให้เขาสามารถติดต่อกับประชาชนได้ง่าย แถมไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย (แต่เท่าที่ดู แกไปจ้างดารามาแสดง วนิดา อะไรของแก ก็คงเสียเงินไม่น้อย ..ไม่เสียยังไงเนี่ย) ..แหะ ๆ ๆ ก็อย่างที่แก บอกแหละครับ คือ ถ้าคุณ กรณ์ต้องการสร้าง Impact อย่างที่เขาทำได้โดนผ่าน Facebook หากต้องใช้สื่ออื่นในการติดต่อ เช่น ผ่านทีวี , วิทยุ หรือ สิ่งพิมพ์ คงต้องใช้งบประมาณมหาศาลเลยทีเดียว”

….หากใครจะให้คำนิยามของ Social Media อย่าง Facebook ผมว่าเราต้อง นิยามมันว่า “Leverage Communication Tool for Small Guy!!”

อ่ะจ๊าก!! ขออีกรอบ “Leverage Communication Tool for Small Guy!!” แปลว่าไรฟะ …หุ หุ หุ ก็แปลว่า สมัยก่อน คนตัวเล็กๆ ไม่ได้มีอำนาจในการติดต่อสื่อสารกับคนจำนวนมากๆได้ แต่ไอ้ Facebook ทำให้ คนตัวเล็กๆที่ไม่มีสิทธิมีเสียบง แมลงหวี่ แมลงวัน อย่างผม สามารถใช้ Facebook ส่วนตัวของผม ติดต่อกับนักลงทุนได้เป็นหมื่นๆคนในคราวเดียว “พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก”

--- ถ้ามองให้ดี ไอ้ที่นิยายหลายเรื่องเคยพูดไว้เกี่ยวกับ One Man Media “คนๆเดียว สู้กับ ไทยรัฐ หรือ สู้กับช่อง 3 ..ผมว่าสิ่งนั่นมันกำลังจะเกิดขึ้น”

เรื่องของ Leverage ในแง่ของนักลงทุน ก็คือ คุณใช้เงินจำนวนที่น้อยกว่า แล้ว Bet กับเงินจำนวนที่มากกว่า โดยใช้เครื่องมือทางการเงินอย่าง Futures หรือ Options ..แต่ในโลกแห่งการสื่อสาร คุณสามารถใช้เงินที่น้อยกว่า แต่สามารถเข้าถึงคนที่มากกว่า มันก็คือ Leverage ทาง Communition นั่นเอง “สุดโข้ย มัก มัก”

และ อานิสงค์ จาก Facebook เด็กธรรมศาสตร์ กลุ่ม กอ ไก่ ก็เลยสามารถมาเจอกันอีกครั้ง หลังจากแตกกระจายกันไปนาน “นี่แหละพลังของ Facebook”

(ติดตามตอนต่อไป …ฮ่า)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ