นี่เป็นกราฟแสดงช่วงเวลาของ Recession ในอเมริกา...หลายคนบอกว่า "ไม่เห็นอยากรู้ ..แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น" เพราะประเด็นมันอยู่ที่ว่า โลกเราถูกกำหนดโดยอเมริกา เพราะเงินตราที่ใช้กันอยู่ทั่วโลก ก็คือเงินดอลลาห์ 70% (ซึ่งอย่างที่เรารู้กันว่า ประเทศทั่วโลกเดิมทีสมัยก่อน เราใช้ Gold Standard แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ เราใช้ American Standard "ใช่แล้ว!!มันคือ โถส้วมดีๆนี่เอง")
หลังจากอเมริกาประกาศยกเลิกผูกค่าเงินกับทอง มาใช้ Green Back ..ไอ้ Green Back ก็คือน้ำหมึกสีเขียวที่เอามาพิมพ์ลงไปในกระดาษ ที่เรียกว่า "เงินดอลลาห์นั่นแหละ" ที่ Back มูลค่าของเงินทั่วโลก ...และนี่เป็นความบ้าที่มาของเงินเฟ้อ ที่กำลังก่อตัว ..เพราะอเมริกันมันพิมพ์เงินไม่หยุดเสียที !!
ผมยกเอาประวัติ Recession หรือ ช่วงเศรษฐกิจของอเมริกาตกต่ำมาให้ดู เพราะมันเกี่ยวกับชีวิตของมนุษย์ทุกคนบนโลก ตามเท่าที่เรายังใช้เงินดอลลาห์(ที่เน่าๆ แบงค์กงเต๊ก) เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนอยู่
(ลองคลิ๊กเข้าไปที่รูป) จะเห็นได้ว่า จริงๆแล้วโลกเราก็อยู่ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจตลอดเวลา และมันก็วนเวียนไป วนเวียนมา จนเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า History repeat itself !!... ก็มันก็หมุนเป็น Cycle ไปเรื่อยๆ
อย่าง Recession รอบที่เพิ่มผ่านมาปี 2008 อเมริกาก็อยู่ใน Recession ทั้งหมด 1 ปี 6 เดือน ..ตอนนี้ก็พ้นจุด Recession มาแล้ว ..แต่ประเด็นคือ รอบนี้มันต่างๆตรงที่การแก้ปัญหา--- เพราะรอบนี้มันกลายเป็นว่า อเมริกาพยายามฝืน Cycle เพราะที่จริงรอบนี้มันควรจะแรงกว่า Recession และควรกินเวลายาวนาน ...เพราะเศรษฐกิจมันพังด้วย Real Estate ซึ่งมันเป็นปัญหาที่แก้ยากที่สุด
ดูอย่างบ้านเราตอน Real estate พังเราก็ใช้เวลาเป็น 10 ปี เพิ่งเริ่มมาฟื้นก็ปีนี้เองแหละ ..ส่วนญี่ปุ่นผ่านไป 20 กว่าปี ยังไม่ฟื้นเลย ....แต่จุดที่น่าสนใจคือ อเมริกา เนื่องจากมีศักยภาพในการ Control เงินของทั้งโลก จึงเลือกแก้ปัญหา Real Estate ด้วยการสร้าง Inflation (แก้ปัญหาบ้าน ด้วยเงินเฟ้อ..โดยการพิมพ์เงินนี่แหละ!!)
ความซวยมันตกอยู่กับคนทั่วโลก ที่ไม่ว่ายังไง คุณก็ไม่สามารถหนีปัญหาเงินเฟ้อที่อเมริกาสร้างได้ ...ตอนนี้ผมเห็นรัฐบาลทั่วโลกพยายามต้านกลไกของอเมริกา โดยการพยายามทำให้เงินตัวเองอ่อนบ้าง "จะบ้าหรือ"
ผมว่าถ้า เราฉลาดหน่อย ทำไมไม่ปล่อยให้ "ไอ้กัน" รับกรรมบ้าง การที่เงินมันเฟ้อ ก็คือ ค่าเงินมันจะลด ..สิ่งที่เราควรทำคือ ไม่ต้องไปแข่งลดค่าเงินกับมัน ---"เราต้องใช้โอกาสนี้สร้างตลาดบริโภคภายในประเทศให้แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ เราต้องลงทุนให้มากใน Asset ต้องสร้างงานจาก Mega Project ต้องขยายกำลังการผลิต และสนับสนุนการค้าขายในประเทศ ส่งออกให้น้อยลง กินให้มากขึ้น" ..และให้เงินดอลลาห์ มันอ่อนดีแล้ว เราจะได้ซื้อของอเมริกาถูกๆ ..นี่แหละโอกาสที่จะซื้อของถูกจากอเมริกา "ซื้อมันให้หมด ยิ่งซื้อ Asset มันได้ยิ่งดี"
รอให้ค่าเงินดอลลาห์มันอ่อนกว่านี้ ... เราก็ค่อยรวมตัวกันไป โกยของอเมริกาให้มันมือ ..เหมือนอย่างที่ "ไอ้กัน" มันมาโกยสินค้าส่งออกเราสมัย "ต้มยำกุ้ง" นั่นแหละครับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
เมื่อคืน 1 มีนาคม 2555 คุณแม่โทรมาบอกว่า "แพ้ท!! คุณตาท่านเสียแล้ว" ผมก็รู้สึกใจหายอย่างมาก เพราะคุณตาเป็น เสมือนต้นแบบ ที่สอนให้ผ...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
6 ปัจจัย ที่ทำให้พอร์ตคุณโตแบบก้าวกระโดด 1. ’เคยพอร์ตระเบิด แต่ยังไม่เลิกเล่นหุ้น’ …ต้องบอกว่า นักลงทุนที่สามารถปั้นพอร์ตให้โตก้าวกระโดดแทบ...
-
6 ข้อที่ผมหลงใหล …เกษียณแล้วไปไหน ? 1. ‘ถึงจุดที่ต้องถอดหัวโขนแล้ว แต่ Ego ยังอยู่‘ …หลายครั้งที่คนเกษียณจะมองว่าตัวเองหมดความสำคัญ (ให้หาส...
-
'คาถาหาโอกาส ..ท่องในใจ ใครเจอเราคนนั้นโชคดี!!' วันนี้พี่หนิง เรียกตัวผมไปสัมภาษณ์ที่ช่อง 3 ..ประเด็น การหาโอกาสธุรกิจ และ ...
-
10 ข้อเสีย ของลูกคนรวย เดี๋ยวนี้เราเห็นชีวิตคนรวยมากขึ้น จาก Social ..ส่วนใหญ่ก็มักจะปลอม ..ไอ้มีจริงๆ ไม่ค่อยโชว์ ..แต่ทั้งหมด เรา...
-
6 ข้อ จัดการยังไงในวันที่หุ้นไทยไม่มีอนาคตแล้ว 1. ’การหาข้อมูลที่แตกต่าง‘ …ปกติเราจะรับข้อมูลทางเดียว คือ ดูข่าว อ่าน หรือดู แบบที่ใครๆ ก็ด...
-
5 ข้อ ทำไมเราไม่ควรล้างพอร์ตแม้ว่าตลาดจะแย่แค่ไหนก็ตาม 1. ‘เวลาหุ้นลงเราก็แค่ขายหุ้น แต่จุดที่เราอยากจะล้างพอร์ตแปลว่า ตลาดแย่จนไม่ไหวแล้ว‘...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น