วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553
Bancassurance-ใครได้ใครเสีย
วันนี้ถ้าใครเดินผ่านธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นธนาคารใดก็ตาม คำทักทายแรก ก็คือ "คุณมีเงินออมเพิ่มค่าหรือยังคะ" ก้าก..เงินออมเพิ่มค่า มันก็คือ ประกันชีวิตดีๆนี่เอง ที่ขายผ่านธนาคาร --คำถามที่ว่าธนาคารได้อะไร แน่นอนได้ค่านายหน้ามหาศาล ลูกค้าได้ประโยชน์เช่นกัน เพราะได้ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก --อ้าวอย่างนี้ก็ win-win ซิครับ
สรุปว่าถ้าคุณมีเงินก้อนเอามาซื้อประกัน ผลตอบแทนที่คุณได้คือ ต่ำกว่า 3% ในเวลา 15 ปี -- ซึ่งถ้าท่านเอามาให้ผมบริหารผมสามารถให้ผลตอบแทนท่านเหนือกว่า ประกัน --- วิธีง่ายสุด คือ ผมเอาเงินก้อนท่านมา ซื้อพันธบัตรรัฐบาล ผลตอบแทนประมาณ 5 -6 % ผมคืนท่าน 3% แสดงว่าผม กำไรเนาะๆโดยไม่เสี่ยง 2 -3% นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดโดยผมไม่เสี่ยง และนอกจากนี้ถ้าในตลาดมีโอกาสดีกว่านี้ผม ก็สามารถไปลงทุนใน Bond ของบริษัท หรือ ถ้าหุ้นตกลงมามากๆผมก็สามารถเอาเงินมาซื้อหุ้น
(อย่างเช่น ปีนี้หุ้นคนส่วนใหญ่บอกว่าแพง แต่ถ้ามองให้ดี คือถ้าซื้อแล้วได้ผลตอบแทนคือ เงินปันผล มากกว่า 5% และถือรอจนสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย (ยังไงก็ไม่ถึง 15 ปี ดังนั้นเงินที่ท่านเอามาฝากไว้ 15ปี ผมสามารถทำให้เกิดผลตอบแทนที่มหาศาลกว่า ที่ผมให้ท่านมากนัก)
คำถามที่เกิดขึ้น คือ แล้วธุรกิจประกันชีวิต ดีอย่างนั้นเชียวหรือ --- อันนี้ต้องดูสถานการณ์ ถ้าอย่างในปัจจุบัน Alternative choice ที่ให้ผลตอบแทนในตลาดที่สูงกว่า 3% มีน้อยทำให้ Bancassurance ดูน่าสนใจขึ้นมาทันที แต่ถ้าสมมุติว่าเงินฝากขึ้นมาเกิน 3% ก็ทำให้ความน่าสนใจลดลงทันที
--- ดังนั้น เวลานี้น่าจะเป็นยุคทองของ Bancassrance ซื้อเก็งกำไรกันได้ แต่อย่างไรก็ตามทุกธุรกิจมี Cycle ยกตัวอย่าง Toyota ตอนนี้เข้าสู่ Cycle ถดถอย ทุกอย่างสุมเข้ามา จากปีที่แล้วยังเป็นบริษัทรถที่รุ่งสุดๆ สรุปแล้วทุกอย่างมี Cycle ไม่มีธุรกิจใดที่ขึ้นตลอดกาล และก็ไม่มีธุรกิจใดที่ร่วงตลอดกาล --Apple จาก ipod มาถึง ipad เมื่อสี่ปีที่แล้ว Apple เกือบเจ๊งไปแล้ว อนิจจัง จังขัง สาธุ
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่า Bancassrance ไม่ดี ..เพราะใน 100,000 บาทแรกที่คุณ จ่าย ก็สามารถมาหักภาษีได้ ดังนั้น ถ้าจะเจียดเงินทำสักแสน ก็น่าสนใจไม่น้อย --ในกรณีของเศรษฐีที่เงินเหลือเยอะ แต่ปัญหาแยะตาม เช่น กรณีคุณทักษิณ การซื้อ Bancassrance เป็นส่วนที่ดี เช่น ถ้าคุณ ทักษิณเจียดเงินสัก ร้อยล้าน ซื้อ Bancassrance ให้ลูกๆ ป่านนี้ ลูกคงสบาย เพราะ ในส่วนของ Bancassrance ไม่สามารถจะมา อาญัติอะไรได้ ---ประเด็นนี้ผมว่า นักธุรกิจใหญ่ๆ หรือ นักการเมือง ไม่น่ามองข้าม (ซื้อไว้บ้าง ก่อนที่คุณจะโดน อาญัติ ลูกสยายหายห่วงครับ... หุ หุ หุ!!)กระซิบหน่อย!! เจ้าสัวใหญ่อย่าง คุณ พรเสก กาญจนจารี (เจ้าของ ซิว เนชั่นแนล)ซื้อให้ลูกแต่ละคน ชนิดที่ว่าสบายหายห่วง ..นี่แหละครับ ผู้ฉลาดรอบด้านจริงๆ!!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
เมื่อคืน 1 มีนาคม 2555 คุณแม่โทรมาบอกว่า "แพ้ท!! คุณตาท่านเสียแล้ว" ผมก็รู้สึกใจหายอย่างมาก เพราะคุณตาเป็น เสมือนต้นแบบ ที่สอนให้ผ...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
6 ปัจจัย ที่ทำให้พอร์ตคุณโตแบบก้าวกระโดด 1. ’เคยพอร์ตระเบิด แต่ยังไม่เลิกเล่นหุ้น’ …ต้องบอกว่า นักลงทุนที่สามารถปั้นพอร์ตให้โตก้าวกระโดดแทบ...
-
6 ข้อที่ผมหลงใหล …เกษียณแล้วไปไหน ? 1. ‘ถึงจุดที่ต้องถอดหัวโขนแล้ว แต่ Ego ยังอยู่‘ …หลายครั้งที่คนเกษียณจะมองว่าตัวเองหมดความสำคัญ (ให้หาส...
-
'คาถาหาโอกาส ..ท่องในใจ ใครเจอเราคนนั้นโชคดี!!' วันนี้พี่หนิง เรียกตัวผมไปสัมภาษณ์ที่ช่อง 3 ..ประเด็น การหาโอกาสธุรกิจ และ ...
-
10 ข้อเสีย ของลูกคนรวย เดี๋ยวนี้เราเห็นชีวิตคนรวยมากขึ้น จาก Social ..ส่วนใหญ่ก็มักจะปลอม ..ไอ้มีจริงๆ ไม่ค่อยโชว์ ..แต่ทั้งหมด เรา...
-
5 ข้อ ทำไมเราไม่ควรล้างพอร์ตแม้ว่าตลาดจะแย่แค่ไหนก็ตาม 1. ‘เวลาหุ้นลงเราก็แค่ขายหุ้น แต่จุดที่เราอยากจะล้างพอร์ตแปลว่า ตลาดแย่จนไม่ไหวแล้ว‘...
-
6 จุดตายของธุรกิจรุ่นใหม่ ที่ทำไมขายดีแต่เจ๊ง 1. ‘ไม่เข้าใจต้นทุนของตัวเอง’ …คนรุ่นใหม่มักเร่งขยายธุรกิจจนลืมต้นทุน …ยิ่งขยายกำไรเลยยิ่งลด ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น