พอดีผมอ่านบทความใน Bloomberg ที่เขาไป Interview ผู้ก่อตั้ง Google นาย Larry Page ..ซึ่งเป็นเวลาครบหนึ่งปีที่นาย Larry กลับมาเป็น CEO อีกครั้ง ..ประมาณว่าเข้ามาล้างบ้านเนื่องจากเจอคู่แข่งอย่าง Facebook และ Apple ตีตลบหลัง ..ซึ่ง Case นี้ผมตามดูมานานแล้ว มันเด็ดจริงๆ
เดิมที Google ในช่วงก่อนหน้านี้ 2-3 ปี เราจะเจอบทความว่า Google จะมาแทน "พระเจ้า" เพราะเราต้องการอะไร Google จะหามาได้หมด ..ซึ่งช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ Google เข้าตลาดมาไม่ถึง 10 ปี เติบโตจากโครงการวิจัยของ นักศึกษาปริญญาเอกสองคน คือ Larry Page & Sergey Brin ที่มหาวิทยาลัย Stanford ..ใช้เวลาประมาณไม่ถึง 10 ปี งานวิจัยนี้กลายมาเป็นบริษัท Google ที่ปัจจุบันมูลค่า 6 ล้านล้านบาท (ก็คิดไม่ออกว่าใหญ่แค่ไหนก็นึกภาพ ว่าใหญ่ใกล้เคียงกับมูลค่าของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ทั้งหมดของบ้านเรามารวมกันนั่นแหละ)
ประเด็นที่หลายสื่อจับตามองในเวลานี้คือ เขาเริ่มมองกันว่า Google อาจจะไม่ใช่ผู้นำอีกต่อไป เมื่อ Facebook และ Apple พลิกกลับมาเป็นคู่แข่งแบบตีท้ายครัว ...ยังไง!! -- อย่าง Facebook ผมว่าเป็น ประเด็นที่น่าศึกษามา เพราะ Facebook ไม่ได้แข่งกับ Google ในเกมของ Google เหมือนที่คนอื่นๆ พยายามทำ ...เพราะก่อนหน้านี้ ถ้าเราดูผู้ท้าชิงของ Google ทั้งหมด จะเป็นผู้ท้าชิงอย่าง Microsoft หรือ Yahoo และบริษัทอีกมากมายที่พยายามแข่งโดย พยายามสร้าง Search Engine ให้ดีกว่า Google -- "ถ้ามองง่ายๆ คือ บริษัทเหล่านี้พยายามจะชนะผู้นำ ในเกมที่ผู้นำสร้าง ..ซึ่งไม่ Make Sense -- เหมือนกับ คุณจะพยายามบอกผมว่า คุณจะสู้กับคนที่เก่งที่สุดในโลก โดยเข้าไปสู้ตรงๆ ...มันจะได้หรือ!!" ..แต่คุณรู้ไหมว่าอย่าง Facebook เขาไม่ได้แข่งกับ Google ในเกมของ Google ...เขาสร้างและกำหนดเกมการแข่งขันขึ้นมาใหม่ -- "I Create New Game !!!"
Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook ตั้งโจทย์ขึ้นมาใหม่ว่า .."เขาไม่มองว่า คนจะต้องการใช้เวลากับ Search Engine อะไรมากมาย ..แต่คนเราอยากรู้เรื่องที่เพื่อนเรารู้ คือ พูดง่ายๆว่า เขามองว่าสังคมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ...และการ Ranking ความสำคัญของ Facebook จะมาจาก เพื่อนที่คุณสนใจมากที่สุด ..จะเป็นคนหาสิ่งที่คุณอยากรู้บน Internet มาให้คุณเอง -- ผลก็คือ สถิติคนใช้ Facebook 850 ล้านคนทั่วโลกใช้เวลาประมาณ 7.5 ชั่วโมงบน Facebook ต่อเดือน ..ในขณะที่ คน 100 ล้านคน ใช้เวลาเพียง 3.3 นาทีบน Google+ ..นั่นแปลว่า ในเกมของ Social Network ..มนุษย์ใช้เวลาที่จะติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่เพื่อนๆของเขาสนใจ มากมายจริงๆ ...ซึ่งเดี๋ยวนี้สังเกตได้ว่า คนรุ่นใหม่บางคนไม่ดูทีวีเลย .. แถมใช้เวลาบน Internet สูงขึ้นเรื่อย" ....ถามจริงๆ ถ้าคุณเป็น เจ้าของสินค้าแล้วอยากจับคนรุ่นใหม่ ..คุณจะมองแบบเดิมคงไม่ใช่ถูกไหม ... ทีวี และสื่อเก่าๆ ที่ปัจจุบันกุมเม็ดเงิน อย่างแค่ในเมืองไทย ก็มูลค่าตลาดโฆษณาบนศื่อเดิมๆปีละหลายแสนล้าน อีกหน่อยก็จะย้ายมาอยู่บน Platform ใหม่ ที่แข่งกันดุเดือดนี่เอง
"ไม่รู้ซิ ..ผมว่าเกมมันเริ่มเผ็ดมันส์ ... นี่ยังไม่ได้พูดถึง Apple ที่จริงๆ เขาแทบจะไม่ใช่บริษัทขายคอมพิวเตอร์อีกต่อไป" -- อ้าว!! แล้ว Apple ขายอะไร
"ก็ขาย Solution ไง... ทุกวันนี้(ผม)ชีวิตเปลี่ยน เพราะไอ้เครื่อง iphone ที่อยู่ข้างๆผม .. ผมว่าเวลาเราไปประชุมกับใคร เราจะเริ่มนิสัยเสียขึ้น ..ประมาณว่าคนที่ประชุมด้วย เขาจะรู้สึกว่ากำลัง พูดอยู่คนเดียว ในขณะที่เราจะยกโทรศัพท์มาดูเป็นระยะๆ ..55 "ตลกดี" ..ผมว่าชีวิตเราเริ่มเปลี่ยน งานมันเริ่มยกไปไหนก็ได้ ..เดี่ยวนี้ Mail บริษัทผม Link กับ iphone เลย ..เวลาไปไหนก็คือ งานไปด้วย ..ส่งงานรับงาน ที่ไหนก็ได้ .. ไม่ใช่ดีนะ ..ซวย!! -- เพราะเหมือนเราต้องทำงานตลอดเวลา ..." ...จริงๆ ผมว่า ปัจจุบันนี้ พอทุกอย่างมันเปลี่ยนไป งานมันเข้ามาใกล้เราเรื่อยๆ มันถึงต้องมาถามว่า งานที่เราทำ เรารักมันไหม ..เพราะถ้าเรายิ่งไม่ชอบงานที่ทำ แล้วมันเข้ามาใกล้ขึ้น ผมว่า "นรก" มาเยือนแน่นอน
ต่อไปไม่ต้องฟันธงก็รู้ว่า "พวกเราชีวิตเปลี่ยนแน่นอน" ..บางคนบอกไม่เปลี่ยน แต่มันไม่ได้หมายความว่าคู่แข่งของคุณเขาจะไม่เปลี่ยน ... มันจึงกำลังเป็นสังคมที่สุดโต่งขึ้นเรื่อยๆ ..เดี๋ยวนี้ดูง่ายๆ คนรุ่นใหม่ที่เข้าทำงานใหม่ๆ มันจะแยกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกรับเงินเดือนหมื่นห้า (ค่าแรงขั้นต่ำ) ..ส่วนอีกกลุ่ม Unlimited "รายได้ไม่จำกัด"
หลายคนอาจสงสัยว่า รายได้ของคน ทำไมมันแตกต่างๆ คิดง่ายๆ ทุกอย่างมันตั้งอยู่บนหลักของเหตุผลอยู่แล้ว ...คนที่รายได้สูงเพราะเขาสร้าง "รายได้" ทำเงินให้บริษัทได้มากนั่นเอง ...ดูอย่างองค์กรที่รายได้สูงอย่าง Apple จากบริษัทที่ใกล้จะตายเต็มที่ ..พอผลิตสินค้าที่ลูกค้าต้องการ ก็เปลี่ยนเป็น Super Company วันนี้ Apple กลับมาเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากมูลค่าของกิจการในตลาด ... เอาว่า วันนี้วิธีคิดต้องเปลี่ยน ... ผมอยากเชียร์มุมมองให้เพื่อนๆ ว่าให้มองหาโอกาส และ คิดให้ออกว่า สิ่งที่เราทำอยู่ จะเปลี่ยนชีวิตของคนอื่นให้ดีขึ้นอย่างไร ผ่านสินค้าและบริการ ที่บริษัทของเรานำเสนอสู่ตลาด
วันนี้มันไม่ได้จำกัดแค่เราอยู่ใน ธนาคาร อยู่ในธุรกิจค้าปลีก อยู่ในธุรกิจพลังงาน อยู่ในธุรกิจหลักทรัพย์ เพราะเดี๋ยวนี้ 7-11 ยังจะมาแข่งกับธนาคารเลย ...ดังนั้น อย่าไปกำหนดกรอบ ..ให้มองที่ลูกค้า --- ลองคิดซิครับว่า จากสิ่งที่คุณทำ คุณจะสร้าง Create Value เพิ่มขึ้นให้ลูกค้าอย่างไร ...ย่ิงถ้าทำด้วยต้นทุนที่จำกัด ...ฟันธง คุณรวยแน่นอน "และถ้าไม่มีใครจ้างคุณนะ ..เปิดกิจการเองเลย ...ถ้าเปิดไม่ได้มาคุยกับผม ..เดี่ยวเราเปิดร่วมกัน...555"
อาลล่ะครับ -- "ผมไปนอนดีกว่า" ..ประมาณว่า อ่านบทความ Google แล้วฟุ้ง!! ...อิ อิ
แบบว่ายิ่งฟุ้ง ยิ่งรวย 555
ตอบลบแล้ว อาแพก จาเป็ง แองจะเลิ้น(Angels) หรือ เวงเจอร์ แคปเปอเติ้ลลิต( Venture Capitalist) ให้หรือ ป่าว
ตอบลบcoach outlet
ตอบลบcartier watches
skechers shoes
christian louboutin
burberry outlet online
burberry outlet
true religion outlet
jordans shoes
canada goose jackets
nike store uk
bottega veneta
hollister sale
mizuno running shoes
chaussure louboutin
michael kors handbags
louboutin pas cher
ralph lauren outlet
burberry uk
supra shoes
hollister co
reebok uk
michael kors outlet
michael kors outlet
christian louboutin outlet
coach factory outlet
pandora charms
rolex submariner
coach outlet
fitflop uk
supra for sale
jimmy choo shoes
lululemon sale
adidas superstars
ray ban sunglasses
converse shoes
ed hardy uk
michael kors bags
michael kors handbags
ecco shoes
2016412yuanyuan