
ถ้าความสำเร็จของคนเราคือ คุณภาพของแผนที่ ว่ามีความถูกต้องมากเพียงใด ..ยิ่งแผนที่ แม่น!! เรายิ่งมีโอกาสหาขุมทรัพย์ได้เจอมากขึ้นเท่านั้น --- แต่ก่อนอื่น ผมว่าเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า แผนที่มัน ไม่ได้เป็นอะไรที่เจ้าของขุมทรัพย์เขียน ..ลองคิดดูให้ดี ถ้าคุณเอาขุมทรัพย์ไปซ่อน คุณก็คงไม่ได้อยากให้ใครไปเจอ หรือ อย่างน้อยก็ต้องเจอแสนยาก (ไม่งั้นมันจะซ่อนไปทำไมวะ ..มันก็กองเอาไว้ไม่ดีกว่าหรือ !!)
จุดนี้ผมว่า หลายๆคนไม่เข้าใจ เลยไปซื้อ Lottery หรือ ไม่ก็ไปเสี่ยงโชค --ก็เพราะเขาเหล่านั้นคิดว่า ขุมทรัพย์ที่มหาศาลมันกองอยู่ริมทางรอให้เราไปเก็บ (โห!! ฝันโตคร ถ้าง่ายอย่างนั้น คงไม่มีใครต้องทำงานหนักแล้ว วันๆก็ไปแข่งกันเก็บสมบัติที่กองไว้ไม่ดีกว่าหรือ !!) ..ผมเป็นคนหนึ่งล่ะ ที่ไม่เชื่อว่า “แผนที่ขุมทรัพย์ จะถูกเขียนโดยเจ้าของขุมทรัพย์” ดังนั้น วิธีที่จะหาขุมทรัพย์ให้แม่นยำที่สุด คุณต้องแกะรอย “ความคิดของเจ้าของขุมทรัพย์ให้ได้”
ในโลกปัจจุบัน ถ้าถามว่า เจ้าของขุมทรัพย์คือ ใคร --ก็คือ (ความต้องการของตลาดนั่นเอง) ดังนั้น หากคุณจะมีแผนที่ มันก็คือ Business Plan ที่เข้าใจ Trend หรือ แนวโน้มของตลาดอย่างแม่นยำนั่นเอง
ทุกวันนี้หากเรามองไปรอบๆตัว เราจะเป็นว่า “ทุกคนรีบ” รีบออกจากบ้าน เรียบเรียน รีบทำงาน รีบกิน รีบกลับบ้าน รีบไปเที่ยว รีบกลับ รีบ รีบ ๆๆๆๆ …(ไม่รู้จะรีบไปไหน แต่สรุป มันรีบ!! ละกัน) คุณลองนึกดูนะเวลาแข่งบอล หากคุณเป็นนักเตะ โอกาสที่คุณจะเห็นภาพ มันแทบไม่มี ดังนั้น โค๊ช จึงมีความสำคัญ เพราะเขายืนอยู่นอกสนาม ..จุดนี้ทำให้เขาเห็นภาพรวมมากกว่า และสามารถเห็น Trend หรือ วิธีการที่เปลี่ยนแปลง ---เหมือนกัน หากคุณเป็น ส่วนหนึ่งของความรีบเร่ง รีบทำงาน รีบให้เสร็จ ..โอกาสที่คุณจะเห็น Trend หรือ แผนที่ขุมทรัพย์มันจึงแทบไม่มีเลย
ในเกือบทุกบริษัท คุณสังเกตุให้ดี จะมีคนๆนึง “วันๆมันนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ จิบกาแฟ เดินไปเดินมา เดี๋ยวแวบ เดี๋ยวแวบ” คือ ดูยังไงมันไม่เห็นค่อยทำงานเลย แต่เงินเดือนมันก็ได้มากกว่า โบนัสก็ได้มากกว่า (ใช่แล้วมันคือ CEO …หุ หุ) คุณรู้ไหมที่เขา ไม่รีบวิ่งไปวิ่งมา เหมือนคุณ ก็เพราะเขาจะต้องคิด และมอง Trend ต่างๆให้ลึกซึ้ง ..ยิ่งเขาแยกตัวออกจากความรีบเร่งเท่าใด ความคิด และความแม่นยำในการมอง Trend เขาก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ บริษัท เดินไปตาม แผนที่ขุมทรัพย์ที่เขาวางไว้อย่างถูกต้อง (ยิ่งเขาหยุดมอง ความแม่นยำของแผนก็ยิ่งชัดขึ้น)
ดังนั้น วันนี้ถ้าคุณกำลัง รีบเร่ง วิ่งวนไปวนมา ผมว่า คุณกำลังทำตรงกันข้าม หรือ ยืนอยู่คนละด้านกับความสำเร็จนะ … “ประเด็นนี้ผมว่ามีน้อยคนนักที่จะเข้าใจ ..คือ ถ้าคุณเข้าใจ ผมว่าคุณใกล้ ขุมทรัพย์เข้าไปทุกทีแล้วล่ะ !!”
(โทษทีที่ไม่ได้พูดถึงคุณตันเลย แต่ไปดูซิว่าวันๆ คนรีบๆๆ ไม่ใช่คุณตัน แต่เป็นคนอื่น(ลูกน้องคุณตัน) ..อาณาจักรหมื่นล้านของคุณตันวันนี้ คุณตันขับเคลื่อนด้วยพลังความคิดของคุณตัน กับแรงงานของคนอื่น ประเด็นมันอยู่ที่ว่า “คนอื่น” เข้าใจ Key Success Factor ของคุณตันหรือไม่ ถ้าเข้าใจ --วันหน้า “คนอื่น” ก็อาจก้าวขึ้นมาแทน คุณตันก็ได้
….ผมว่าคุณกำลังอยากเป็น “คนอื่น” แล้วล่ะซิ …หุ หุ หุ)
เป็นแบบคุณตันซิ
ตอบลบเอามาเป็นแนวการลงทุนได้นิ
มอง Trend ให้ออกทำไงล่ะครับแนะที
อ่านบทความเก่าๆใน คลังกระทู้ ผมย่อย Trend จนเป็น ขนมปังกรอบ "ลองเคี้ยวดูครับ!!"
ตอบลบผมว่าที่คุณพูดถีงมันก็คือ พิมพ์เขียวของคนรวย(blueprint) ซี่งปกติจะคิดต่างจากคนทำงานปกติมากมาย เช่น เป็นคนที่เก่งน้อยที่สุดในบริษัท
ตอบลบล้มเหลวเยอะ ๆ เป็นหนี้เยอะๆๆ ให้คนเอาเปรียบเยอะๆๆ ซี่งการเปลี่ยนมุมมองพวกนี้ยากมากมาย
ทำไมต้อง เก่งน้อยที่สุดในบริษัท ถ้าบริษัทที่คุณสร้างมีคนที่เก่งที่สุดในบริษัทแสดงว่าบริษัทแย่แล้วเพราะว่าพนักงานทุกคนจะไม่โตจะพี่งคุณตลอด แล้วก็แสดงว่าบริษัทไปต่อเองไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ คุณก็จะขยายบริษัทไม่ได้
ตอบลบล้มเหลวเยอะๆๆ ปกติตอนเป็นพนักงานประจำห้ามล้มเหลวแต่ในบริษัทของเรายิ่งล้มเหลวเร็วก็ยิ่งหมายความว่าเราได้เรียนรู้วิธีทำบริษัทเพิ่มขี้นอีกวิธีนีง ยิ่งพลาดก็ยิ่งเก่ง ยิ่งแกร่ง ยิ่งเร็ว
เป็นหนี้เยอะๆๆ หมายถีงหนี้ในด้านดี ก็เราต้องหาเงินมาทำงานถ้าเราสามารถทำกำไรได้ 12 % จากธุระกิจเราวิธีจะหาเงินที่ดีที่สุดก็ไปหาเงินคนอื่นที่มีดอกต่ำกว่า อาจจะแค่ 6% ใส่ลงไปเราก็ได้ส่วนต่างเพิ่มโดยแทบจะไม่ต้องลงแรงเพิ่มเลย
ให้คนเอาเปรียบเยอะๆๆ เวลาเราทำบริษัทถ้าเราได้กำไร 5 แต่แบ่งให้ลูกน้อง 1 คุณคิดว่าจะมีคนอยากอยู่กับคุณเยอะๆ นานๆ ไหม ลองคุณเปลี่ยนเป็นให้เค้า 4 คุณเอาแค่หนี่งนะ ลูกน้องอยากอยู่กับคุณนานๆ แล้วทีนี้ทำไงคุณก็มีไปอีก ยี่สิบสาขาสิ คุณก็ได้ 20 แล้วไง ;)
Kengcom
ตอบลบพูดฟังไม่รู้เรื่องเลย
พูดเรื่อง่ายง่ายให้เข้าใจยากมึนนะครับ