วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2568

เงินที่เรามีมันเสื่อมค่าได้ยังไง แล้วเราจะป้องกันยังไง ?

 เงินที่เรามีมันเสื่อมค่าได้ยังไง แล้วเราจะป้องกันยังไง ?


1. เงินเสื่อมค่า คือ เงินเรามูลค่าลดลง ซื้อของได้น้อยลงเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป …คิดคร่าวๆ ในโลกเราเงินลดมูลค่าปีละเกือบ 5% 


2. สาเหตุที่ทำให้เงินลดมูลค่า …ก็คือ การพิมพ์เงินเพิ่ม …คนที่พิมพ์เงินเพิ่มได้ ก็คือ แบงค์ชาติ และ ก็ธนาคาร …ส่วนรัฐบาล นโนบายประชานิยม แจกเงินก็ทำให้เงินเฟ้อ ลดมูลค่าเช่นกัน


3. สรุปคือเงินขึ้นกับ Demand & Supply …ถ้าใช้เยอะ หมุนคล่อง เงินก็จะเฟ้อลดมูลค่า …แต่ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี เงินไม่หมุน เงินก็จะไม่เฟ้อ คล้ายๆ ประเทศไทยวันนี้ เงินค่อนข้างฟืด


4. การป้องกันเงินลดมูลค่า ก็คือ เราต้องไปซื้อสินทรัพย์ เพราะ มันจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเงิน คือ ถ้าเงินลดค่า สินทรัพย์ก็จะเพิ่ม เช่น ทองคำ , ที่ดิน , หุ้น …


5. แต่จุดที่ต้องระวังของสินทรัพย์ คือ มันรักษามูลค่าจริงๆ แต่มันมีการเก็งกำไรอยู่ด้วย ทำให้ เวลาขึ้นมันจะขึ้นมากเกิน และ เวลาลงมันจะลงมากเกินเช่นกัน


6. ตัวอย่างสินทรัพย์เช่นทอง …ทองคำขึ้นลงเป็นรอบๆ แต่ทุกครั้งที่ทองคำขึ้นไปแนะจุดสูงสุดในแต่รอบ มันจะลงหนัก เฉลี่ยเกิน 50% …ใช่!! ซื้อทองก็ติดดอยได้ เช่นปี 1980 ทองลง 60% แล้วถูกแบบนั้น 20 ปี ค่อยขึ้น …ปี 2011 ลง 50% แล้วถูกแบบนั้น 7 ปี แล้วค่อยขึ้นถึงปัจจุบัน


7. วิธีแก้ติดดอยสินทรัพย์ด้วย DCA …ก็ถ้าเรารู้ว่า สินทรัพย์ขึ้นลงเป็นรอบๆ แค่เรากลัวติดดอย กลัวตกรถ ก็ใช้วิธีซื้อทุกเดือน ออมไปเรื่อยๆ แบบ DCA ก็จะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยนั่นเอง


8. ก่อนเริ่มลงทุน ต้องเข้าใจสินทรัพย์นั้นๆ ให้ดี  โดยเข้าใจพื้นฐาน และ เทคนิคการขึ้นลง …พอเข้าใจเราก็จะจัดการความเสี่ยง และอยู่กับมันได้


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ทำไมคนส่วนใหญ่ ไม่เข้าใจการรอซื้อเมื่อถูก ?

 ทำไมคนส่วนใหญ่ ไม่เข้าใจการรอซื้อเมื่อถูก ?


‘ซื้อแพงตลอด เมื่อไหร่จะซื้อถูกเป็นล่ะ !!’ 


1. คนที่จะรอซื้อเมื่อถูก ต้องเข้าใจภาพใหญ่ก่อน ….ต้องเข้าใจภาพรวม เห็นภาพใหญ่ ไม่งั้นก็จะไม่เข้าใจว่าจุดไหนถูกหรือแพง


2. คนส่วนใหญ่ชอบซื้อในข่าวดี มากกว่าในข่าวร้าย …ส่วนใหญ่เวลาที่ข่าวดี ก็มักจะเป็นปลายรอบ และจุดที่แพงเกินไปที่จะซื้อในทุกสินทรัพย์ 


3. ช่วงสินทรัพย์ปลายรอบมักขึ้นแรง พอไม่ได้ซื้อแล้วราคาพุ่งไปต่อก็มักจะอยากซื้อในจุดที่แพงขึ้นไปอีก …เข้าตำรา ยิ่งอยากได้ ยิ่งซื้อแพง 


4. การรอซื้อถูกต้องใช้ความอดทนที่สูงมาก …หนึ่ง ต้องรอให้ราคามันขึ้นให้สุดก่อน จากนั้น สอง ต้องให้ราคามันลงจนเละก่อน พอคนส่วนใหญ่ไม่สนใจแล้ว Volume หาย …สื่อไม่พูดถึง นั่นแหละ ถึงจะเริ่มทยอยซื้อ (ต้องโคตรอดทนเลยอ่ะ)


5. คนรอซื้อเมื่อถูก มักไม่มีเพื่อน ไม่มีแนวร่วม …สังเกตดีๆ แนวร่วม ฝูงชน หรือ กลุ่มเม่า มักร่วมกันซื้อตอนของแพงเท่านั้น …ของถูกมักขาดแนวร่วม


6. คนที่มีเงินเวลาสินทรัพย์ถูก แปลว่า คุณต้องบริหารสภาพคล่องเก่งมาก …ซึ่งรวมถึง ต้องได้ขายบางส่วนเวลาสินทรัพย์แพง จากนั่นเก็บเงินสดรอจนถูก …นี่คือ ที่สุดของการบริหารพอร์ตเลยนะ


7. คุณต้องเป็นเซียนหรือผู้เชี่ยวชาญในสินทรัพย์นั้นๆ ถึงจะสามารถซื้อถูกได้ …เอาตรงๆ ถ้าคุณเป็นมือสมัครเล่น ซื้อตามแห่ วิ่งตามกระแส ไม่มีทางซื้อของถูก …คุณต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ


สรุป คนรอซื้อถูก มันคือ เกมของการทำตัวให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในสินทรัพย์ที่เราอยากเอาจริงนั่นเอง


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ทำไม ‘จุดที่กำไรสูงสุด‘ กับ ’จุดติดดอย‘ มันใกล้กันนิดเดียว ?

 ทำไม ‘จุดที่กำไรสูงสุด‘ กับ ’จุดติดดอย‘ มันใกล้กันนิดเดียว ?


1. ’จุดที่กำไรสูงสุด‘ แปลว่า คนที่อยากจะซื้อหุ้นนั้น หรือสินทรัพย์นั้น ได้ซื้อไปหมดแล้ว ….ถ้าไม่มีใครซื้อต่อ ก็น่ากลัวนะ !! …ที่เหลือก็คือ คนอยากจะขาย


2. ‘จุดติดดอย ขายยาก เพราะไม่มีใครอยากซื้อ‘ ….หลายคนพูดว่า ไม่มีทางติดดอย เพราะไม่เคยเจอ …จุดที่ติดดอยจริงๆ น่ากลัวมาก เพราะ มันเป็นการเปลี่ยนแบบกระทันหัน จากหุ้นที่ใครๆ ก็อยากซื้อ เป็นทุกคนอยากขายหนีตาย …ราคาจะลงแรงมาก Volume การขายก็จะเยอะมาก …มันจะลงเร็วจน ขายไม่ทัน และ ทำใจขายไม่ได้ ’ติดดอยในที่สุด‘ 


3. ‘ทำไมจุดที่กำไรสูงสุด จะหลอกคนส่วนใหญ่ และมวลชนได้ ?‘ ….หลายคนสงสัยว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ต้องเจ๊งหุ้นด้วยล่ะ ? …ก็เพราะ คนส่วนใหญ่อยากกำไรเร็วๆ …จุดที่ซื้อแล้วกำไรเร็วๆ กำไรง่ายๆ นั่นแหละ จุดที่น่ากลัวที่สุดในตลาดหุ้น


4. ‘งบดี กำไรดี มีแต่ข่าวดี คือ จุดที่ไม่น่าซื้อที่สุด‘ ….การซื้อในจุดที่ ทุกอย่างดูดี เป็นจุดที่น่ากลัวที่สุด …ทางแก้ ถ้าอยากซื้อ ให้ซื้อน้อยๆ เพื่อลดความอยากซื้อ แค่นั้นแหละ


5. ‘ติดดอย อาจไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป’ …จุดดีของการติดดอย คือ การทดสอบความยั่งยืนของหุ้นนั้น และ สินทรัพย์นั้นๆ ยิ่งผ่านดอย แล้วจุดต่ำสุดสูงขึ้นเรื่อยๆ นั่นแหละของจริง


6. ‘ถ้าไม่เคยติดดอย คุณยังไม่ใช่นักลงทุนระยะยาว‘ ….ฟังดูดี มีทางแก้ไหมล่ะ ? …ทางแก้ดอยไม่มี เพราะหุ้นมันมีรอบ แค่ทางช่วยบรรเทาก็คือ …การพร่องขายบางส่วน ในจุดที่ ‘ราคาแพง Volume สูงผิดปกติ …แล้วมารับคืน ตอนช่วงหุ้นราคาลงปรับฐาน’ 


7. ‘คนที่กล้าติดดอย ถึงจะได้เห็นกำไรสูงสุด‘ …ถือหุ้นเหมือนเจ้าของนั่นแหละ …ต้องมั่นใจเบอร์ไหน ถึงจะถือได้? …สำหรับผมความมั่นใจเป็นส่วนนึง อีกส่วนคือ พอร์ตเรากระจายความเสี่ยงเหมาะสม อันนี้สำคัญที่สุด


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม